EPCO โชว์งานปี”57 สุดอลังการ ปันผลพุ่ง 90% กำไรพุ่ง 70% เปิดแผนปี”58 ลุยธุรกิจโรงไฟฟ้าเต็มเหนี่ยว ตั้งเป้า 100-150 MW ก่อนดันบ่อพลอย โซล่าร์ เข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯในช่วงปลายปี

27 Feb 2015
บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) โชว์ผลการดำเนินงานปี”57 สุดหรู กำไรสุทธิ 222 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 70% “ยุทธ ชินสุภัคกุล”เปิดแผนปี”58 ลุยธุรกิจโรงไฟฟ้าทั้งใน-ต่างประเทศเต็มสูบ ตั้งเป้ากำลังการผลิต 100-150 เมกกะวัตต์ ก่อนดัน “บ่อพลอย โซล่าร์”เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯช่วงปลายปีนี้ ขณะที่ธุรกิจโรงพิมพ์รายได้ยังโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าปีนี้กำไรโต 30%

นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2557 มีกำไรสุทธิ 222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 70% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจโรงพิมพ์รายได้ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานปี 57 ในอัตรา 0.32 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 0.151 บาท/หุ้น หรือเพิ่มขึ้น 89.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทได้จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.14 บาท/หุ้น เมื่อ 10 กันยายน 2557 ฉะนั้นบริษัทจะจ่ายปันผลงวดสุดท้าย 0.18 บาท/หุ้นโดยกำหนดให้วันที่ 29 เมษายน 2558 เป็นวันให้สิทธิ์ผู้ถือหุ้นในการรับเงินปันผล และปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 30 เมษายน 2558 โดยจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 13 พฤษภาคม 2558

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2558 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมขยายตัว 15-20% กำไรสุทธิเติบโต 30% จากปี 2557 โดยในปีนี้ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่มเป็น 50% จากเดิม 37.5% เนื่องจากเริ่มมีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น

“ในปีนี้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการแรกในประเทศญี่ปุ่นจะเปิดจ่ายไฟฟ้าได้ 8-12 เมกกะวัตต์ โดยจะเริ่มทยอยเปิดเดินเครื่องตั้งแต่ต้นไตรมาส 1 ของปีนี้ และจะรับรู้รายได้เข้ามาทันที ทำให้ปีนี้รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่รับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยประมาณ 16 เมกกะวัตต์ ก่อนที่จะเพิ่มเป็น 30 เมกกะวัตต์ภายในปีนี้ และในปี 2559 จะเพิ่มเป็น 50-60 เมกกะวัตต์”นายยุทธกล่าว

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นไปตามแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศที่กำหนดจะทยอยสร้างโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น 6 โครงการ และยังคงมองหาลู่ทางการลงทุนเพิ่มเติม ในลักษณะของการร่วมทุน ภายในเงื่อนไข EPCO ต้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

“เราได้เตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาทในปีนี้ สำหรับเดินหน้าโรงการโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น โดยใช้เงินจากทุนของบริษัท 25% เงินกู้สถาบันการเงิน 75%”นายยุทธ์กล่าว

ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนโซลาร์ รูฟ ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมในการเช่าหลังคา และโกดัง เตรียมพร้อมรองรับไว้แล้ว เนื่องจากให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ

สำหรับธุรกิจโรงพิมพ์ นายยุทธ ให้ความเห็นว่า ยังคงเดินหน้าต่อไป เพราะยังสามารถมี EBITDAปีละกว่า 150 ล้านบาท โดยล่าสุด EPCO จะได้รับงานพิมพ์เพิ่มเข้ามาอีก เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจของบริษัทขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาสที่ 2ส่วนความคืบหน้าการนำบริษัท บ่อพลอย โซล่าร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ EPCO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นายยุทธ กล่าวว่า ของบริษัทได้แต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมความพร้อมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในช่วงปลายปีนี้ โดยบ่อพลอย โซล่าร์ อยู่ระหว่างรอปิดงบการเงินในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ และเตรียมลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้มีกำลังการผลิต 100 เมกกะวัตต์ ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ “ช่วงนี้จึงเป็นหน้าที่ของผมในการเร่งหาโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ ให้ได้ 100 เมกกะวัตต์ ก่อนที่จะดันบ่อพลอย โซล่าร์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ”นายยุทธกล่าวในที่สุด