สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ เตือนระวังโรคลิชมาเนีย พร้อมตอบข้อสงสัยประชาชน

          สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ เตือนประชาชนพึงระวังโรคลิชมาเนีย หลังเกิดกระแสข่าวการระบาดของโรค ซึ่งมีสาเหตุมาจากแมลงริ้นฝอยทราย (Sand fly) เพศเมีย เผยการป้องกันด้วยวิธีง่าย ๆ หากจำเป็นต้องเข้าป่าหรือทำสวนควรสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิดและประชาชนท่านใดมีข้อสังสัย สามารถส่งอีเมล์มาที่ [email protected] ทางสมาคมแพทย์ผิวหนังฯ พร้อมตอบข้อคำถามทุกข้อ
          ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ ประธานประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวถึง กรณีพบผู้ป่วยโรคลิชมาเนีย ซึ่งเกิดจากการกัดของแมลงริ้นฝอยทราย (Sand fly) เพศเมียที่มีเชื้อลิชมาเนียและทำให้เกิดโรคได้ทั้งในคนและสัตว์อีกหลายชนิด เช่น หนู สุนัข แมว ม้า วัว ควาย ว่า โรคผิวหนังชนิดนี้เมื่อก่อนถือว่าไม่ใช่ปัญหาของประเทศไทยเพราะเราไม่มีพาหะของโรค คือ แมลงริ้นทราย พบผู้ป่วยเฉพาะที่ได้รับเชื้อจากการไปทำงานที่ประเทศตะวันออกกลาง ตั้งแต่ปี สุวิรากร โอภาสวงศ์539 เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า ในประเทศไทยมีเชื้อลิชมาเนีย โดยจะเป็นเชื้อคนละสายพันธ์กับที่เคยได้รับจากประเทศตะวันออกกลาง คือ เชื้อ ลิชมาเนีย ไซแอมเมนซิส ( Leishmania siamensis) ซึ่งทำให้เกิดโรคในคนไทยโดยมีการระบาดที่จังหวัดตรังและภาคใต้ แต่ก็พบกระจัดกระจายตามภาคอื่นด้วยสุวิรากร โอภาสวงศ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย3; โดยจะพบในทุกเพศ ทุกวัย ทั้งผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติ หรือ คนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
          พบการระบาดครั้งล่าสุดที่จังหวัดตรัง เมื่อปีสุวิรากร โอภาสวงศ์553 โดยมีผู้ป่วยเพศหญิงเสียชีวิต ด้วยโรคลิชมาเนีย ที่เกิดจากตัวลิ้นชนิดหนึ่งที่เรียกว่าริ้นฝอยทรายด้วยการกัดและนำเชื้อโปรโตรซัวที่เรียกว่าลิชมาเนีย เข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง ทำให้แผลเปื่อยและเกิดโรคแทรกซ้อนในอวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต ม้ามและกระดูกไขสันหลัง ซึ่งโรคดังกล่าวทางองค์การอนามัยโลกกําหนดให้เป็น สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ ใน 5 ของโรคเป็นโรคติดเชื้อที่อุบัติใหม่ทางวงการแพทย์ ผู้ป่วยจะมีแผลเปื่อย มีไข้เป็นๆ หายๆ อ่อนเพลีย น้ำหนักลดลง ผิวสีคล้ำขึ้น ส่วนแผลที่เป็นรอยกัดจะมีลักษณะเฉพาะเป็นแผลขอบนูนแข็ง ข้างในเป็นสะเก็ดขาว ๆ 
          ริ้นฝอยทราย (sand fly) เป็นแมลงที่กัดกินเลือดคนและสัตว์ เมื่อดูดเลือดคนและสัตว์ที่ป่วยเป็นโรคลิชมาเนีย ก็จะแพร่โรคไปสู่คนอื่นได้ พบในแถบตะวันออกกลาง อาการของโรคแบ่งได้ 3 ชนิด คือ ชนิดที่ไม่รุนแรง จะมีอาการที่ผิวหนัง มีตุ่มเล็ก ๆ ที่ผิวและแตกออกเป็นแผล อาจมีกว่า สมาคมแพทย์ผิวหนังฯสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย แผลก็ได้ และชนิดรุนแรงที่ทำให้ติดเชื้อที่อวัยวะภายในมีชื่อเรียกว่า โรคคาลา อาซา (Kala azar) ผู้ป่วยจะมีอาการไข้เรื้อรัง ซีด น้ำหนักลด ม้ามและตับโตหมดเรี่ยวแรง และชนิดที่ 3 เป็นชนิดที่เกิดขึ้นกับเยื่อเมือก ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับที่เกิดขึ้นที่ผิวหนังแต่จะเกิดแผลลุกลามในอวัยวะที่มีเยื่อเมือกเช่น จมูก ปาก เป็นต้น
          ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้หากไม่ได้รับการรักษา โดยเฉพาะชนิดที่ทำให้ติดเชื้อที่อวัยวะภายใน จะทำให้อัตราป่วยเพิ่มขึ้นสมาคมแพทย์ผิวหนังฯสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย เปอร์เซ็นต์ ภายใน สุวิรากร โอภาสวงศ์ ปีและอาจทำให้เสียชีวิตได้ มักเป็นโรคของคนในชนบท เนื่องจากเชื้อมักจะพบในผู้ที่อยู่ในบ้านใกล้กับป่าหรือทำงานในป่า อาการโรคเบื้องต้น คือ จะมีผื่นนูนเล็ก ๆ ที่ผิวหนัง และกลายเป็นแผล หายช้า มีไข้เรื้อรัง เป็น ๆ หาย ๆ ซีด ท้องอืด ตับม้ามโต และน้ำหนักลด วิธีป้องกันแนะชาวบ้านถางหญ้ารอบ ๆ บ้านให้โล่งเตียน โดยเฉพาะชาวชนบท การรักษาโรคลิชมาเนีย ในปัจจุบันจะใช้ยาฉีด สุวิรากร โอภาสวงศ์ ชนิด คือ ชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ฉีดเป็นเวลา สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ4 วัน และชนิดฉีดเข้าเส้นเลือดติดต่อกันเป็นเวลา 3สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย วัน การรักษาได้ผลดีและหายขาด
โรคลิชมาเนียสามารถป้องกันได้โดย สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ. สวมใส่เสื้อผ้ารัดกุมมิดชิด เมื่อต้องเข้าไปทำงานหรือพักค้างคืนในพื้นที่ที่คาดว่ามีริ้นฝอยทรายอาศัยอยู่เช่นในสวน ป่า หรือในสถานที่รกทึบ สุวิรากร โอภาสวงศ์. ทายากันยุงให้ทั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณขาและแขน3. นอนในมุ้งที่ชุบด้วยสารกำจัดแมลง 4. ฉีดพ่นสเปรย์กำจัดยุงและแมลงภายในบ้าน 5. ดูแลบริเวณบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ให้มีสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก กระแต เพราะเป็นแหล่งรังโรคที่สำคัญ 6. หลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์ในบริเวณที่พักอาศัยและใช้สารกำจัดแมลงบนตัวสัตว์ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
          สำหรับในประเทศไทยนั้น เคยมีรายงานพบโรคนี้ สุวิรากร โอภาสวงศ์ ช่วง คือในปี สุวิรากร โอภาสวงศ์5สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย3-สุวิรากร โอภาสวงศ์5สุวิรากร โอภาสวงศ์9 และช่วงที่ สุวิรากร โอภาสวงศ์ คือตั้งแต่ปี สุวิรากร โอภาสวงศ์548 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งพบโรคนี้ในคนที่ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศมาก่อนและผู้ป่วยมีทั้งคนที่มีระดับภูมิคุ้มกันปกติและภูมิคุ้มกันบกพร่อง พบทั้งในภาคใต้ ภาคกลาง และภาคเหนือ รวมทั้งชาวพม่าที่เข้ามารักษาตัวในประเทศไทยอีกด้วย นอกจากนี้ในกลุ่มคนไทยที่เดินทางเข้าไปทำงานในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นแหล่งระบาดของโรค หรือกลุ่มคนไทยที่มีประวัติไปทำงานในประเทศแถบตะวันออกกลางและคนไทยมุสลิมที่ไปร่วมพิธีฮัจย์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย หากประชาชนท่านใดมีข้อสังสัย สามารถส่งอีเมล์ มาที่ [email protected] ทางสมาคมแพทย์ผิวหนังฯ จะมีแพทย์คอยตอบคำถามเพื่อไขข้อสงสัยให้อยู่เสมอ
สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ เตือนระวังโรคลิชมาเนีย พร้อมตอบข้อสงสัยประชาชน
สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ เตือนระวังโรคลิชมาเนีย พร้อมตอบข้อสงสัยประชาชน
สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ เตือนระวังโรคลิชมาเนีย พร้อมตอบข้อสงสัยประชาชน

ข่าวสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย+สมาคมแพทย์ผิวหนังฯวันนี้

สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ จัดงานประชุมกลางปี 2565 "Back to The Future In Practical Dermatology"

สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ขอเชิญแพทย์ผู้สนใจที่เป็นสมาชิกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ทั้งในส่วนราชการและเอกชนเข้าร่วมการประชุมวิชาการ "การประชุมกลางปี 2565" ในวันที่ 16 กันยายน 2565 ตั้งแต่เวลา 07.00-17.30 น. ณ ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทารา เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์โดยการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาพัฒนาการศึกษาค้นคว้าวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อแพทย์สมาชิก ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ตลอดจนเพื่อเพิ่มพูนความรู้ความชำนาญ สาขาตจวิทยา ในด้านเวชปฏิบัติ

สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ขอเชิญแพทย... สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ เชิญแพทย์ เข้าร่วมงานDST Mid-Year Meeting 2021 — สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ขอเชิญแพทย์ผู้สนใจที่เป็นสมาชิกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งป...

สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยหรือ DST ตร... สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ เชิญรับชมเพจเฟซบุ๊ก "ครบเครื่องเรื่องผิวหนัง" EP.8 ตอน "มะเร็งผิวหนัง" — สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยหรือ DST ตระหนักที่จะทำหน้าที่เ...