มร. บาวเค่อ ราวเออร์ส ได้นำกลยุทธ์การสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนมาใช้ในการบริหารธุรกิจของยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย พม่า กัมพูชา และลาวมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ยูนิลีเวอร์มียอดขายเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว
ทั้งยังสามารถลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม นอกจากนี้ ยูนิลีเวอร์ยังขยายการลงทุนในประเทศไทยคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 6,000 ล้านบาท ได้แก่ การจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับภูมิภาค การก่อสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต การเปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ และการก่อสร้างอาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของบริษัทฯ ในปี 2554 ยูนิลีเวอร์ภายใต้การนำของมร. ราวเออร์ส พร้อมด้วยทีมผู้บริหารได้จัดทำโครงการ “รับขวัญคนไทยกลับบ้าน” (Take U Home) มุ่งช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม 1 ล้านคนที่ต้องอพยพออกจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมให้กลับสู่บ้านอย่างมีความสุข
เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จการลดขยะและของเสียฝังกลบให้เป็นศูนย์ในโรงงานผลิตทุกแห่งทั่วไทย (Zero Waste to Landfill) โดยบริษัทได้ดำเนินการแปรสภาพหรือรีไซเคิลของเสียจากการผลิตที่ไม่เป็นอันตรายให้เป็นวัสดุใหม่และนำกลับมาใช้ได้อีกครั้ง ทั้งยังประกาศความร่วมมือกับภาครัฐ ได้แก่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อมไทย ร่วมรณรงค์เพื่อลดการสร้างขยะและเพิ่มการรีไซเคิลในประเทศไทย
ในการจัดตั้งบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศพม่า เมื่อปี 2553 มร. ราวเออร์สเป็นผู้มีบทบาทสำคัญอย่างมากทั้งยังได้ดูแลและบริหารธุรกิจดังกล่าวจนปัจจุบันยูนิลีเวอร์ พม่า ขึ้นแท่นบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในประเทศพม่าอย่างเป็นทางการและมีโรงงานผลิต 2 แห่ง รวมทั้งมีส่วนงานด้านการขายและการตลาดที่แข็งแกร่งของตนเอง การพัฒนาทักษะและเสริมสร้างความก้าวหน้าในการทำงานของพนักงาน คือ หนึ่งในกลยุทธ์หลักที่นำมาใช้ขับเคลื่อนความสำเร็จของยูนิลีเวอร์ จนทำให้ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทยได้รับรางวัล "สุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งเอเชีย (Asia Best Employer Award) ในปี 2555
ในโอกาสนี้ ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย มีความภาคภูมิใจอย่างมากที่ นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารคนใหม่แทน มร. บาวเค่อ ราวเออร์ส นางสุพัตราได้ร่วมงานกับยูนิลีเวอร์มานานกว่า 22 ปี โดยมีประสบการณ์ทางด้านการตลาดและการบริหารผลิตภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง ทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ ในระดับภูมิภาค รวมถึงในประเทศจีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งประสบการณ์อันทรงคุณค่าเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานในบทบาทใหม่อย่างมาก
ซึ่งมร. ราวเออร์สได้กล่าวถึงการแต่งตั้งนางสุพัตราขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของยูนิลีเวอร์ในประเทศไทยว่า "คุณสุพัตราคือตัวอย่างที่โดดเด่นของการดำเนินงานตามกลยุทธ์การพัฒนาบุคลากรของยูนิลีเวอร์ที่ประกอบด้วยการมุ่งเน้นพัฒนาทักษะการบริหารจัดการอย่างรอบด้าน เสริมด้วยการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง" และเสริมว่า "การแต่งตั้งคุณสุพัตราขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย เป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งเน้นเสริมสร้างความหลากหลายในองค์กรและส่งเสริมบุคลากรของแต่ละท้องถิ่นขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดขององค์กรนั้น ๆ"
ทั้งนี้ นางสุพัตราได้กล่าวถึงการได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการบริหารหญิงคนแรกของยูนิลีเวอร์ ประเทศไทยว่า "ดิฉันรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้นำในทีมผู้บริหารระดับสูงซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทยและเป็นผู้หญิง" และเสริมว่า "แม้ว่าเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันจะอยู่ในภาวะที่น่าท้าทายอย่างมาก แต่ด้วยความแข็งแกร่งที่ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทยได้สั่งสมไว้ภายใต้การนำของมร.บาวเค่อ ราวเออร์สตลอดระยะเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้ดิฉันเชื่อมั่นว่า ด้วยทีมผู้บริหารระดับสูงที่แข็งแกร่ง ผนวกกับความรู้ความสามารถอย่างลึกซึ้งของบุคลากรทั่วทั้งองค์กรจะขับเคลื่อนให้ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาได้อย่างแน่นอน ดิฉันขอขอบคุณมร.ราวเออร์สที่ได้ให้คำแนะนำและสนับสนุนตลอดระยะเวลากว่า 5 ปีที่ได้ร่วมงานกันมา"
มร.ราวเออร์สสำเร็จการศึกษาสาขาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยอีราสมุส รอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ และได้เข้าร่วมงานกับยูนิลีเวอร์ตั้งแต่ปี 2534 มร. ราวเออร์สดำรงตำแหน่งด้านการตลาดที่สำคัญๆ ในภูมิภาคยุโรป อเมริกา และเอเชีย ก่อนเข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทยในปี 2552
ทั้งนี้ มร. ราวเออร์สจะอยู่ในตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย พม่า กัมพูชา และลาวไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2557 หลังจากนั้นจะส่งต่อหน้าที่และความรับผิดชอบในปัจจุบันให้แก่นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ และมร. ซานดีพ โคลี ต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit