(โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20130606/618541 )
ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันพัฒนาทุ่งกังหันลมไปจนกว่าจะบรรลุข้อตกลงทางการเงิน โดยเมนสตรีมจะรับหน้าที่บริหารการก่อสร้าง การดำเนินงาน และการซ่อมบำรุงตลอดอายุการใช้งานของทุ่งกังหันลม ปัจจุบันโครงการนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาในขั้นสุดท้ายและได้รับใบอนุญาตสำคัญๆทั้งหมดแล้ว ส่วนการทำสัญญาซื้อขายและจ่ายกระแสไฟฟ้ากำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย
เมื่อเปิดดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ ทุ่งกังหันลมแห่งนี้จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 10% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในกานา ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 2,000 เมกะวัตต์
คุณวิสดอม อาเฮียทากู-โทโกโบ ผู้อำนวยการฝ่ายพลังงานหมุนเวียน สังกัดกระทรวงพลังงานและปิโตรเลียมของกานา กล่าวว่า “ผมหวังว่าการทำสัญญาระหว่าง NEK และเมนสตรีม จะช่วยเร่งกระบวนการผลิตไฟฟ้าจริงของทุ่งกังหันในกานา และทางกระทรวงรับประกันว่าจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โครงการนี้มีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐว่าด้วยการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้า ทั้งนี้ กฎหมายพลังงานหมุนเวียนพ.ศ.2554 ได้ให้การสนับสนุนทั้งทางด้านกฎหมายและการเงิน ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการ feed-in-tariff เพื่อรับประกันว่าผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างแน่นอน นอกจากนี้ รัฐบาลได้ใช้เวลานานกว่า 2 ปีในการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมบริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มการผลิตที่สดใสมาก”
คุณเอ็ดดี้ โอคอนเนอร์ ประธานบริหารของเมนสตรีม กล่าวว่า “ทุ่งกังหันลมแห่งนี้เป็นโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับกานา เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าจากพลังลมและแสงอาทิตย์เป็นเทคโนโลยีเดียวในโลกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ทั้งในแง่ของขนาดและความเร็วในการเริ่มใช้งาน ทุ่งกังหันลม Ayitepa มีความทันสมัยและสามารถเริ่มผลิตไฟฟ้าได้ภายในไม่ถึง 18 เดือนนับจากนี้ ซึ่งยังไม่มีเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าใดที่สามารถเริ่มใช้งานได้เร็วเท่านี้”
คุณโอคอนเนอร์กล่าวเสริมว่า “เมนสตรีมได้พัฒนาและสร้างทุ่งกังหันลมขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคที่อ่าวเจฟฟรีย์ในแอฟริกาใต้ และที่นั่น เรามีทุ่งกังหันลมและโซลาร์ฟาร์ม 3 แห่งที่เปิดดำเนินงานอยู่ และเรากำลังจะสร้างทุ่งกังหันลมเพิ่มอีก 3 แห่งในปีนี้”
ในพิธีลงนามข้อตกลง ดร.คริสตอฟ คัปป์ ประธานบริหารของ NEK กล่าวว่า “หลังจากทำธุรกิจในกานานานกว่า 15 ปี NEK มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เมนสตรีม รีนิวเอเบิล พาวเวอร์ มาเป็นพันธมิตรที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพ ในการริเริ่มโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่โครงการแรกในแอฟริกาตะวันตก โครงการนี้ไม่เพียงช่วยให้การผลิตไฟฟ้ามีความยั่งยืน สะอาด และเป็นอิสระเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอีกหลายประการ และช่วยให้ประชาชนในพื้นที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งในด้านแรงงาน การศึกษา การประปา และการไฟฟ้า สำหรับหมู่บ้านและเมืองใกล้เคียง”
ติดต่อ:
เอมเมท เคอร์ลีย์
โทร. +27-(0)21-657-4071
อีเมล: [email protected]
แหล่งข่าว: เมนสตรีม รีนิวเอเบิล พาวเวอร์
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit