ด้านนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า เมื่อปี 2512 ในหลวงทรงมีพระราชดำริ ให้ชาวบ้านปลูกกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจเพื่อทดแทนฝิ่นถือว่าพระองค์ฯทรงมีคิดถึงสายพระเนตรอันยาวไกลเพราะทุกวันนี้กาแฟเริ่มมีราคาสูงขึ้น เรื่อยๆจากวันที่ในหลวงทรงมีพระราชดำริ ให้ศึกษาและวิจัยการปลูกกาแฟ ขณะนี้กรมวิชาการเกษตรจึงส่งเสริมและวิจัยพันธุ์เพื่อให้เหมาะสมและมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ขณะนี้มีกำแฟปลูกในไทย 2ชนิด คือให้ โรบัสต้า อาราบิก้า และมีพันธุ์ที่เหมาะกับภูมิอากาศไทยสามารถมีผลผลิตจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อเทิดพระเกียรติฯ จึงได้นำบูธกาแฟ ที่กรมวิชาการเกษตรได้สนับสนุน มาออกบูธไว้บริการผู้เข้าชมงาน ตลอด 7 วัน 7 คืน ส่วนในการรณรงค์ปลูกพืชใช้น้ำน้อย ก็มีการนำนวัตกรรมการปลูกถั่วงอกคอนโคที่เป็นผักไว้ใช้บริโภคในครัวเรือนได้ และปลูกมะนาววงบ่อเป็นการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์มีข้อดีตรงที่ผู้ปลูกสามารถที่จะควบคุมปัจจัยต่างๆได้เช่น การใส่ปุ๋ย การใส่น้ำ ประหยัดทั้งน้ำและปุ๋ยซึ่งทั้งหมดถือเป็นการรณรงค์ให้เกษตรกรช่วยกันประหยัดน้ำ
สำหรับบรรยากาศภายในงาน พบว่า มีการจัดบูธเผยแพร่พระราชกรณียกิจของในหลวง และแต่ละบูธก็มีไฮไลน์จูงใจทั้งของแจกจำนวนมาก โดยกรมส่งเสริมการเกษตร จะนำพืช ผักสวนครัว อาทิ มะเขือ พริก มาแจกมากกว่า 1,300 ต้น กรมตรวจบัญชีสหกรณ์นำ หมวกสาน เสื้อ กระเป๋า ร้องเท้า มากกว่า 1,000 ชิ้นมาแจกและสอนวิธีการทำ เดคูพาจ กรมชลประทาน นำกระเป๋าแจกฟรีสำหรับผู้ร่วมงานจำนวน 500 ใบ นอกจากนี้ ของแจกยังมีการกิจกรรม ตอบคำถามเกี่ยวพระราชกรณียกิจของในหลวงเพื่อชิงของรางวัลตามบูธต่างๆจำนวนมาก
นอกจากนี้ในงาน ยังมีกิจกรรมการสาธิตการแปรรูปผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตร อาทิ สาธิตการทำแหนม ไส้กรอกอีสาน ไส้อั่ว สาธิตการทำขนมจีบไส้ปลา สาธิตการทำสมูทตี้ข้าวกล้องงอก สาธิตการทำสบู่แฟนซี และการทำน้ำยาล้างจาน การแสดงจากศิลปินดาราเครืออาร์เอส อาทิ ฟิลม์ รัฐภูมิ แชมป์นักร้องประกวดจากรายการ “เสียงสวรรค์พิชิตฝัน” เป็นต้น
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit