เก่ง The Voice เผยใครๆ ก็เป็น “ยักษ์” ตัวใหญ่ได้

12 Dec 2014
เก่ง The Voice เผยใครๆ ก็เป็น “ยักษ์” ตัวใหญ่ได้ ในงานแถลงข่าว Night at the Museum 5 พร้อมยิ้มแฉ่ง ดีใจยอดวิวเพลงอีปริก ทะลุล้าน
เก่ง The Voice เผยใครๆ ก็เป็น “ยักษ์” ตัวใหญ่ได้

ทำเอาบรรยากาศของงานแถลงข่าวการจัดเทศกาล “ไนท์ แอท เดอะ มิวเซียม ครั้งที่ 5 (Night at the Museum 5)” ที่จัดโดย มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ ภายใต้ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) คึกคักขึ้นมาทันที เมื่อ เก่ง The Voice ธชย ประทุมวรรณ เจ้าของเพลงทศกัณฐ์มานะ ศิลปินหนุ่มผู้สะท้อนคนเป็นยักษ์ได้อย่างชัดเจน และตรงกับคอนเซ็ปต์ของการจัดงานในปีนี้ที่มีชื่อตอนว่า “ปลุกยักษ์” มาร่วมงาน โดยยักษ์ที่ว่านี้ ไม่ใช่ความโหดร้ายน่ากลัวแต่อย่างใด แต่หมายถึงความคิดสร้างสรรค์ โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 21 ธันวาคมศกนี้ ตั้งแต่เวลา 16.00 – 22.00 น. ซึ่งเป็นโอกาสเดียวในรอบปี ที่ผู้มาร่วมงานจะได้ชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน หนึ่งในกิจกรรมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ที่จะได้รับทั้งความสนุกสนานเพลิดเพลิน พร้อมเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ในการท่องเที่ยวเรียนรู้พิพิธภัณฑ์ตอนกลางคืน ณ มิวเซียมสยาม ท่าเตียน

บรรยากาศของการจัดงานแถลงข่าวยังถูกตกแต่งด้วยอาหารยักษ์ กินแบบยักษ์ หนึ่งในไฮไลท์เด็ด ที่หากใครได้มาร่วมงาน “ไนท์ แอท เดอะ มิวเซียม ครั้งที่ 5 (Night at the Museum 5) ตอนปลุกยักษ์” ในวันที่ 19 – 21 ธันวาคมศกนี้ จะได้พบกับลูกชิ้นยักษ์ที่ใหญ่เท่าชามก๋วยเตี๋ยว และข้าวมันไก่จานยักษ์แน่นอน ไม่เพียงเท่านี้ยังมีเหล่ายักษ์ที่อยู่ใน ร่างมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มออฟฟิต นักศึกษา หรือนักท่องเที่ยว คอยเดินต้อนรับแขกผู้มีเกียรติอยู่ทั่วงาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าทุกคนล้วนมียักษ์อยู่ในตัวเอง จนเมื่อ เก่ง The Voice ธชย ประทุมวรรณ ปรากฏตัวด้วยลุคทศกัณฐ์ที่น่ารัก น่าหยิก ด้วยการขับเสภาเปิดงาน พร้อมเผยว่า “เพราะชอบและหลงใหลในความเข้มแข็ง ความอดทน ความมีมานะพยายามของทศกัณฐ์ จึงเป็นที่มาของเพลงทศกัณฐ์มานะ ซึ่งยักษ์เป็นความเชื่อที่แฝงในทุกชนชาติ โดยมีการเล่าผ่านวรรณคดี หรือแม้แต่การ์ตูนก็ยังมี ซึ่งหากพูดถึงยักษ์หรือทศกัณฐ์ ผมจะมองเห็นเครื่องแต่งกายเสื้อผ้าที่จัดเต็ม และต้องมาเป็นกองทัพ รวมทั้งนึกถึงตัวเอง เพราะจะชอบเรียกแทนตัวเองว่ายักษ์กับแฟนคลับ และยักษ์ยังเปรียบได้กับพลัง ความสามารถ หรือความคิดสร้างสรรค์ผมเชื่อว่าคนเราทุกคนมียักษ์ซ่อนอยู่ในตัว ซึ่งจุดพลิกผันที่ทำให้ผมค้นพบความสามารถของตัวเองนั้น เกิดจากที่แม่ผมเรียนจบกีต้าร์คลาสสิก แล้วมาสอนผมทั้งที่ไม่ได้มีความชอบ แต่เมื่อขึ้นชั้นมัธยมต้องเรียนวิชาดนตรีเพราะเป็นวิชาบังคับ จึงเลือกเรียนดนตรีเพราะเป็นสิ่งที่แม่เคยสอน โดยเรียนทั้งดนตรีไทย และดนตรีสากล และเริ่มเข้าแข่งขันประกวดร้องเพลงต่างๆ แม้ว่าจะแพ้มากกว่าชนะ แต่ด้วยศรัทธาว่าสักวันหนี่งมันจะต้องมีที่สำหรับเรา จนวันหนึ่งได้รางวัลชนะเลิศกับการประกวดเวทีหนึ่ง จึงมีโอกาสได้เรียนรู้ชีวิตการเป็นศิลปิน ได้ทำเพลงแต่สุดท้ายค่ายก็ไม่ทำต่อให้ ก็เลยออกมา พอดีกับที่มีเวที The Voice เข้ามา จึงตัดสินใจประกวดอีกครั้ง และคิดว่าจะทุ่มให้กับเวทีนี้อย่างสุดตัว วันนั้นผมไปอย่างคนขี้แพ้ ไปอย่างไม่มีความหวัง แต่ไปด้วยความสุข เพราะได้ทำในสิ่งที่รัก ด้วยจังหวะและโอกาส ถึงทำให้ประสพความสำเร็จ จึงทำให้มีซิงเกิลทศกัณฐ์มานะออกมาให้ทุกคนได้ฟังกัน”

ยักษ์เก่งแสนทะเล้นยังกล่าวต่ออีกว่า “เพราะไม่ย่อท้อ จากความศรัทธาจึงทำให้เก่งมุมานะ ที่จะประสพความสำเร็จสักวันหนึ่ง จนเวลานี้เก่งมีซิงเกิลที่ 2 ออกมากับเพลงที่ชื่อว่าอีปริก ทำเอาเก่งยิ้มไม่หุบเพราะยอดวิวในยูทูปเวลานี้ล้านวิวแล้วจ้า โดยเจ้าตัวเผยว่า “เป็นเพลงแนวสนุกสนาน ที่มีครบทั้งร็อค สกา อิเลคโทรนิค และดนตรีไทยที่ขาดไม่ได้ ซึ่งกระแสตอบรับตอนนี้ก็ดีมาก มียอดวิวในยูทูปครบล้านแล้ว ดีใจมากครับ” พร้อมทั้งยังอัพเดทผลงานอีกว่า “ตอนนี้ผมกำลังมีการวาง แพลนงานปีหน้า บอกได้เลยว่างานอลังการแน่นอน รับรองความสนุกและมีให้ชมกันตลอดทั้งปี รวมทั้งยังมีอีกหนึ่งความฝัน ซึ่งเป็นการทำเพลงที่จะไปเสิร์ฟความสุขให้กับคนไทยทั่วประเทศ โดยจะเป็นแนวเพลงไทยประยุกต์ตามสไตล์ของผม ซึ่งอยากให้ทุกคนมาเอนจอยกัน รับรองสนุกและภูมิใจในความเป็นไทยของเราแน่นอน รวมถึงกลางปีหน้าจะมีละครเวทีมิวสิกคัลเรื่องที่เกี่ยวกับดนตรี แง้มให้นิดนึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตีระนาด อยากให้ติดตาม ตอนนี้กำลังแคสนักแสดงกันอยู่”หนุ่มเก่งไม่เพียงจะมาแค่ในงานแถลงข่าว แต่ยังจะมาร่วมงาน “ไนท์ แอท เดอะ มิวเซียม ครั้งที่ 5 (Night at the Museum 5) ตอน ปลุกยักษ์” ระหว่างวันที่ 19-21 ธันวาคมศกนี้ เวลา 16.00 – 22.00 น. ที่มิวเซียมสยามอีกแน่นอน โดยหนุ่มเก่งยังกล่าวชักชวนทิ้งท้ายว่า “ไม่ควรพลาดงานนี้ครับ เพราะเป็นครั้งเดียวในรอบปีที่จะได้ชมพิพิธภัณฑ์ในตอนกลางคืน สามารถเที่ยวกันเป็นครอบครัว โดยอาจจัดเป็นทริปยาว กลางวันมาทานข้าว ไปไหว้พระ ทำบุญกันก่อน พอเย็นๆ ค่ำๆ เราก็มาเที่ยวงาน “ไนท์ แอท เดอะ มิวเซียม ครั้งที่ 5” รับรองว่ามางานนี้จะได้รับแรงบันดาลใจ และพลังกลับไปแน่นอน เพราะความสำเร็จของคนเรา ระยะทางมันไม่เท่ากันเลย เราอาจไม่สามารถประสพความสำเร็จรวดเร็วเหมือนเช่นคนที่ยืนข้างๆ หรือเราอาจจะเร็วกว่าคนข้างๆ ก็ได้ ซึ่งมันไม่แน่นอน แต่สุดท้ายแล้วผมอยากให้เชื่อว่า คนเล็กๆ ก็สามารถเป็นยักษ์ตัวใหญ่ๆ ได้ ขอเพียงแค่เรามีความอดทน และศรัทธาในความฝัน และมีความมานะที่จะทำให้ฝันนั้นเป็นจริงขึ้นมา”