ผถห.WAT ไฟเขียวเพิ่มทุนขาย PP 4 หมื่นล้านหุ้น รองรับการลงทุนอสังหาฯ และขยายธุรกิจ เพื่อรองรับ AEC

28 Apr 2014
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นบมจ. วธน แคปปิตัล (WAT) อนุมัติแผนเพิ่มทุน เสนอขาย PP จำนวน 40,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยจำนวน 10,000 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.05 บาท และส่วนที่เหลือ ราคาขายไม่ต่ำกว่า 90% ของราคาตลาด “สิริวัฒน์ โตวชิรกุล” ระบุการเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อรองรับโอกาสการลงทุนในอนาคต กระจายความเสี่ยงและขยายฐานในเชิงธุรกิจ หนุนฐานทุนแข็งแกร่ง หวังสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้สูงขึ้นในอนาคต และขยายฐานธุรกิจ เพื่อรองรับการเปิด AEC

นายสิริวัฒน์ โตวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วธน แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) ( WAT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 40,000,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (Private Placement) โดยจำนวน 10,000,000,000 หุ้น กำหนดราคาเสนอขายหุ้นละ 0.05 บาท และส่วนที่เหลืออีกจำนวน 30,000,000,000 หุ้น กำหนดราคาเสนอขายไม่ต่ำกว่า 90% ของราคาตลาด (หรือส่วนลดไม่เกินกว่า 10% ของราคาตลาด) ซึ่งคำนวณโดยอ้างอิงกับราคาปิดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์รวม 7-15 วันทำการก่อนวันที่เสนอขาย

สำหรับวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อใช้ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทและยังเป็นการเตรียมความพร้อม รองรับโอกาสการลงทุนในอนาคต สำหรับธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดอย่างคงที่ เพื่อกระจายความเสี่ยงและขยายฐานในเชิงธุรกิจ สร้างรายได้ให้กับบริษัทอีกทั้งยังช่วยเพิ่มสภาพคล่อง เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯในอนาคต

“การเพิ่มทุนครั้งนี้ เชื่อว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ถือหุ้น เพราะจะทำให้บริษัทมีโครงสร้างทางการเงินที่เข้มแข็งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อมูลค่าหุ้นของบริษัทในอนาคต อีกทั้งสร้างผลกำไรจากการดำเนินงานและจะทำให้ผู้ถือหุ้นจะได้รับประโยชน์ในรูปของเงินปันผลในอนาคตอันใกล้นี้” นายสิริวัฒน์ กล่าวในที่สุด

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2557 บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนขาย PP ล็อตแรก จำนวน 500 ล้านบาท ไปใช้ลงทุนซื้อที่ดิน เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโครงการแนวราบ ทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างมองหาที่ดินย่านลาดพร้าว และเกษตร-นวมินทร์ เป็นต้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วธน แคปปิตัล กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทฯจะทยอยรับรู้รายได้จากโครงการลิฟวิ่งนารา รังสิต(เฟส2) มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท,โครงการลิฟวิ่งนารา รังสิต(เฟส3.1) มูลค่าโครงการ 72 ล้านบาท,โครงการลิฟวิ่งนารา รังสิต(เฟส3.2-3.4) มูลค่าโครงการ 229 ล้านบาท ,โครงการ เดอะ โคลเวอร์ ภูเก็ต มูลค่าโครงการ 230 ล้านบาท และโครงการ โคลเวอร์ ลาดพร้าว 83 มูลค่าโครงการ 170 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีรายได้จากการลงทุนธุรกิจโลจิสติกส์ ซึ่งปัจจุบันเน้นการให้บริการเช่ารถ ทำให้มีรายได้เข้ามาเพิ่มเติมนอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ