นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานบรรณาธิการวารสาร “การเงินธนาคาร” ประธานจัดงาน งานมหกรรมการเงิน พัทยา ครั้งที่ 4 Money Expo Pattaya 2014ภายใต้แนวคิด “Connecting Life การเงินเชื่อมโยงชีวิต ก้าวไปตามใจฝัน” เปิดเผยว่า งานมหกรรมการเงิน พัทยา ครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นงานมหกรรมการเงินครั้งแรกในปี 2557 จากจำนวนงานทั้งหมด 6 ครั้งของปี 2557 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ศูนย์ประชุมพีช โรงแรมรอยัล คลิฟ เมืองพัทยา ประสบความสำเร็จอย่างสูงอีกครั้ง มีประชาชนและนักธุรกิจในเมืองพัทยาและจังหวัดในภาคตะวันออก ขอใช้สินเชื่อและบริการทางการเงินและการลงทุนในงานจนทำสถิติใหม่สูงสุดในรอบ 4 ปี มียอดเงินรวมกว่า 17,000 ล้านบาท จากผู้สมัครใช้บริการทางการเงินและการลงทุนจาก ธนาคาร, บริษัทการเงิน,บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการกองทุนรวม บริษัทผู้ค้าทองคำ/โกลด์ฟิวเจอร์ส และบริษัทประกันชีวิต/ประกันภัยรวม 17,224 ราย จากยอดผู้เข้าชมงานกว่า 30,000 คนสินเชื่อที่ผู้เข้าชมงานสมัครใช้บริการมากที่สุด คือ สินเชื่อบ้าน มีผู้สมัครใช้บริการ 4,500 ราย วงเงินสินเชื่อรวมกว่า 12,190 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วมีการขอสินเชื่อบ้านรายละประมาณ 3 ล้านบาท สอดคล้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเมืองพัทยาและภาคตะวันออกที่ยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ผู้เข้าชมงานยังมีการขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านมือสอง(NPA) อีกกว่า 68 ล้านบาท โดยเฉพาะธนาคารอาคารสงเคราะห์ สามารถจำหน่ายบ้านมือสองในเขตจังหวัดชลบุรีได้ทั้งหมดที่นำไปโชว์ในงาน โดยให้อัตราดอกเบี้ย 0% นานถึง 12 เดือน
นายสันติกล่าวว่า ด้านเงินฝากดอกเบี้ยสูง ก็มีประชาชนถือเงินสดมาเปิดบัญชีเงินฝากกันเลยทีเดียว เพื่อรับผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยสูงที่ธนาคารแต่ละแห่งเสนอดอกเบี้ยเงินฝากแข่งกัน เพื่อดึงดูดเงินฝาก เช่น ธนาคารกรุงไทยมีเงินฝากดอกเบี้ย 4% นาน 60 เดือน ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ 3.375 % ต่อปีนาน 5 เดือน ธนาคารออมสินมีเงินฝากดอกเบี้ย 2.60% สำหรับเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 5 เดือน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดโปรแกรมเงินฝากพิเศษ 4 เดือน ดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี ไม่เสียภาษี ส่งผลให้เงินฝากดอกเบี้ยสูงมีวงเงินมาเป็นอันดับสองภายในงาน มียอดเงินฝากรวมกว่า 2,000 ล้านบาท และประชาชนยังให้ความสนใจซื้อสลากออมทรัพย์เป็นเงินอีกกว่า 50 ล้านบาท
สินเชื่อเอสเอ็มอี มียอดเงินสูงเป็นอันดับสามรวม 2,000 ล้านบาท สะท้อนถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในภาคตะวันออกที่ยังมีอัตราการเติบโต และต้องการเงินทุนเพื่อไปขยายกิจการและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ สอดคล้องกับธุรกิจการท่องเที่ยวในเมืองพัทยาและในภาคตะวันออก
การลงทุนในกองทุนรวมมีมูลค่ารวมตามมาเป็นอันดับสี่ มีผู้ลงทุนในกองทุนรวมเป็นจำนวนเงินกว่า 270 ล้านบาท ส่วนธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับห้าได้แก่ การลงทุนในประกันชีวิตและประกันภัยคิดเป็นทุนประกันรวม 175 ล้านบาท ผู้เข้าชมงานยังสมัครใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ และสินเชื่อโดยใช้รถยนต์ค้ำประกันรวมกว่า 120 ล้านบาท ฯลฯ
นายสันติกล่าวว่า แม้สถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจในปัจจุบัน จะได้รับผลกระทบจากการยุบสภา การชุมนุมต่อต้านรัฐบาล และ พรก.ฉุกเฉิน แต่เมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก กลับไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะนักท่องเที่ยวสามารถหลีกเลี่ยงกรุงเทพ และบินเข้าตรงไปยังแหล่งท่องเที่ยวได้เลย เช่น เมืองพัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต เกาะสมุย เป็นต้น จากข้อมูลของผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในพัทยาพบว่า ได้รับผลกระทบเพียง 20 กว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น จากนักท่องเที่ยวจีนที่รัฐบาลจีนสั่งห้ามเดินทาง เพราะมีการประกาศ พรก.ฉุกเฉินในไทย แต่ธุรกิจทุกอย่างยังขยายตัวต่อเนื่อง จึงทำให้ยอดสินเชื่อใน งานมหกรรมการเงินพัทยา ครั้งที่ 4 ทำสถิติสูงสุดกว่า 17,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก งานมหกรรมการเงินพัทยา ครั้งที่ 3 กว่า 37 เปอร์เซ็นต์
สำหรับการจัดงานมหกรรมการเงินภูมิภาคครั้งต่อไป จะมีขึ้นที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา คือ งานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 7-8 มีนาคม ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ สำหรับภาคใต้ตอนล่าง
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit