โดยผู้ผ่านการเข้ารอบสุดท้ายทั้ง 30 คน ถูกอบรม และผ่านการขัดเกลาฝีมือจากมือหนึ่งของวงการเขียนบทภาพยนตร์ และผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ที่กวาดทั้งรางวัลและรายได้จากในประเทศ และต่างประเทศมาแล้วหลายท่าน อาทิ เป็นเอก รัตนเรือง, บรรจง ปิสัญธนะกูล, จิระ มะลิกุล, อาทิตย์ อัสสรัตน์, สมเกียรติ วิทุรานิช (ผู้กำกับ และ ผู้เขียนบทภาพยนตร์), อมราพร แผ่นดินทอง (ผู้เขียนบทภาพยนตร์), คงเดช จาตุรันต์รัศมี (รางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 23), ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ (ผู้กำกับฯ / นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์แห่งประเทศไทย), นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ (ผู้กำกับภาพยนตร์ "Mary is Happy, Mary is Happy"), วิทยา ทองอยู่ยง (ผู้กำกับภาพยนตร์), โสฬส สุขุม (ผู้ควบคุมการผลิตภาพยนตร์ ตั้งวง) และทีมเขียนบทภาพยนตร์ “Suckseed ห่วยขั้นเทพ” ที่ผลัดกันหมุนเวียนเข้ามาให้ความรู้แก่ผู้อบรม ซึ่งอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาในการสอนแต่ละสัปดาห์ อาทิ การเรียนรู้ถึงการสร้างเรื่องที่ดี และการเล่าเรื่องที่ดี, การเรียนรู้ว่าตัวละครที่ดีเป็นอย่างไร และการสร้างตัวละคร, การเขียนโครงสร้าง และจุดสำคัญบนเส้นเรื่อง, ความขัดแย้งของตัวละครนำที่ขับเคลื่อนให้เรื่องเดินอย่างไร, วิธีเขียนบทหนังด้วยการเล่าเรื่องใกล้ตัว,การเล่าเรื่องด้วยแรงบันดาลใจจากโลเคชัน, การหาทุนต่างประเทศ, การเขียนบทดัดแปลง และการเขียนบทเป็นทีม เป็นต้น โดยหลังจากที่อบรมจบคอร์สแล้ว ได้มีการทดสอบถึงความรู้ที่ได้รับไป โดยให้ทุกคนเขียนบทภาพยนตร์ขึ้นมา 1 เรื่อง สำหรับนำเสนอให้กับบริษัทผลิตภาพยนตร์ ไทยจริง ๆ นำทีมโดย คุณวิสูตร พูลวรลักษณ์ (ประธานสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ), คุณฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์ (ผู้อำนวยการโครงการ “ปั้นน้ำเป็นเงิน”), คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว (กรรมการผู้จัดการ บริษัท บาแรมยู จำกัด), คุณเป็นเอก รัตนเรือง (ผู้กำกับภาพยนตร์), คุณอมราพร แผ่นดินทอง ( ผู้เขียนบทจากบริษัท GTH), คุณพรชัย ว่องศรีอุดมพร (บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ จำกัด), คุณโสฬส สุขุม (ผู้ควบคุมการผลิตภาพยนตร์ ตั้งวง) และคุณเกียรติกมล เอี่ยมพึ่งพร (บริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น) มาเป็นกรรมการตัดสิน และให้คำแนะนำ พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้กับผู้ที่เข้าอบรมการเขียนบทภาพยนตร์ ทั้ง 30 คน เป็นการปิดท้าย ณ ที่ทำการมูลนิธิ ถนนพระราม 9 เมื่อวันก่อนเรียกได้ว่าเป็นก้าวแรกที่ประสบผลสำเร็จ สำหรับโครงการแรกของ มูลนิธิเกียรติ-เจริญ เอี่ยมพึ่งพร ในการผลิตว่าที่คนเขียนบทภาพยนตร์มาเพิ่มอีกถึง 30 คน พร้อมสร้างผลงานใหม่ๆ ให้วงการภาพยนตร์ได้พัฒนาต่อไป โดยหลังจากเสร็จสิ้นโครงการ “ปั้นน้ำเป็นเงิน” แล้วทางมูลนิธิยังมีแนวคิดที่จะเปิดอบรมความรู้ในเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสายงานภาพยนตร์เพิ่มขึ้นอีกแต่จะเป็นเรื่องของอะไรยังไม่ได้มีการเปิดเผย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวโครงการต่อไปได้ที่ www.kiat-chareon.com รับรองได้เลยว่าน่าสนใจไม่แพ้โครงการแรกเลยทีเดียว
คลิ๊กชมภาพบรรยากาศการอบรม โครงการ “ปั้นน้ำเป็นเงิน” ได้ที่
https://www.youtube.com/watch?v=e3TTjlmIW5c&feature=youtu.be
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit