ธ.อิสลาม ชูยุทธศาสตร์ 3 สร้าง มั่นใจปีนี้พลิกทำกำไร

กรุงเทพฯ--3ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พ.ค.--ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

ธนาคารอิสลามฯ ชูยุทธศาสตร์ 3 สร้าง เตรียมเพิ่มทุนกว่า 7 พันล้านบาท เสริมฐานะเงินกองทุนแกร่งตามเกณฑ์แบงก์ชาติ รองรับขยายงานเต็มรูปแบบ ปูพรมเจาะฐานลูกค้ามุสลิม เพิ่มพอร์ตรายย่อย 50% พร้อมเปิดรับพันธมิตรร่วมลงทุน ก้าวสู่สถาบันการเงินระดับภูมิภาคอาเซียน มั่นใจปีนี้พลิกทำกำไร นายธานินทร์ อังสุวรังษี ผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังประชุมสามัญ ผู้ถือหุ้น ประจำปี 2556 ว่า ผู้ถือหุ้นมีความเชื่อมั่นต่อแผนยุทธศาสตร์ที่ธนาคารเสนอ ซึ่งธนาคารมั่นใจว่าจะสามารถพลิกผลประกอบการทำกำไรได้ภายในปีนี้ พร้อมกันนี้ธนาคารได้เสนอยุทธศาสตร์การเติบโตอย่างยั่งยืนใน 3 ยุทธศาสตร์สำคัญ ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ที่ 1 สร้างความมั่นคงทางการเงิน โดยมีการเพิ่มทุนเพื่อสร้างความมั่นคงของเงินกองทุนและทำให้สัดส่วนของเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการและแก้ไขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPF) เพื่อให้ธนาคารกลับมามีสถานะทางการเงินที่เข้มแข็ง ธนาคารจะมีการเพิ่มทุนรวม 7,108 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการเพิ่มทุนครั้งที่ 1 ในเดือนมิถุนายน 2556 จำนวน 927 ล้านบาท และเพิ่มทุนครั้งที่ 2 ภายในไตรมาสที่ 4 จำนวน 6,181 ล้านบาท นอกจากนี้ ธนาคาร จะออกพันธบัตรอิสลาม (Sukuk) จำนวน 5,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ทำให้เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเป็นไปตามเกณฑ์ขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)กำหนด ทำให้ธนาคารสามารถขยายธุรกิจได้ตามแผนงานที่วางไว้ ในปี 2555 ธนาคารมีผลดำเนินการขาดทุน 13,260 ล้านบาท เนื่องจากธนาคารมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPF) ยอดสินเชื่อในปี 2555 จำนวน 120,051 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,059 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.4% จากปี 2554 ส่วนยอดเงินฝากจำนวน 113,576 ล้านบาท ลดลง 619 ล้านบาท หรือลดลง 0.55% ในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้สินทรัพย์รวมของธนาคาร ณ สิ้นปี 2555 อยู่ที่ 123,902 ล้านบาท นายธานินทร์ กล่าวต่อถึงแผนการแก้ปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคาร จำนวน 24,695 ล้านบาท ว่า เพื่อบริหารหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เหล่านี้ให้กลับมาเป็นหนี้ปกติ ธนาคารได้จัดทำแผนแก้ไขหนี้ดังกล่าวอย่างเป็นระบบ ได้แก่ เจรจาปรับโครงสร้างหนี้ เจรจาให้ชำระคืน/ขายสินทรัพย์ และโอนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ให้ไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ “ตั้งแต่ปี 2556 ธนาคารมีนโยบายควบคุมสินเชื่อใหม่ให้ระดับ NPF ไม่เกิน 2% สำหรับสินเชื่อธุรกิจและไม่เกิน 5% สำหรับสินเชื่อรายย่อย” นายธานินทร์ กล่าว ยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยธนาคารเตรียมปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ ขยายช่องทางบริการให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกพื้นที่ให้เพิ่มมากขึ้น โดยมีแผนจะขยายสาขาจาก 106 สาขา เป็น 130 สาขา ภายในกรกฎาคม 2556 และตั้งเป้าจะขยายฐานลูกค้ารายย่อยให้ได้ไม่น้อยกว่า 50% ของฐานสินเชื่อทั้งหมดภายใน 5 ปี โดยเตรียมออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายและเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ธนาคารได้รวบรวมข้อมูลความต้องการของลูกค้าทั่วประเทศ และอยู่ระหว่างพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม โดยจะเริ่มออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2556 เป็นต้นไป พร้อมทั้ง ขยายขอบเขตการให้บริการเพื่อรองรับชาวมุสลิมที่เดินทางผ่านเข้าออกประเทศไทย ซึ่งมีอยู่กว่า 300 ล้านคน ในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยเตรียมความพร้อมในการให้บริการ ทั้งด้านธุรกรรมทางการเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถตอบสนองความต้องการจากลูกค้าต่างประเทศได้ ยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างเครือข่าย โดยได้เตรียมความพร้อมในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจกับสถาบันการเงินในภูมิภาคอาเซียนและตะวันออกกลาง เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและเพิ่มช่องทางการบริการของธนาคารให้ก้าวสู่สถาบันการเงินระดับภูมิภาค โดยการหาพันธมิตร (strategic partner) เพื่อร่วมลงทุน โดยธนาคารมีแผนที่จะหาผู้ร่วมลงทุนที่เป็นธนาคารหรือสถาบันการเงินในกลุ่มประเทศมุสลิม ในอีก 3 ปีข้างหน้า “ล่าสุดได้ร่วมมือกับธนาคาร CIMB Group ในการให้บริการธุรกรรมการเงินด้วยจุดบริการ ชำระเงินสำหรับสินเชื่อแรงงานไทยในประเทศมาเลเซีย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการไทยในมาเลเซียในการชำระค่างวดสินเชื่อให้กับธนาคาร ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการโอนเงินจากมาเลเซียมายังประเทศไทยในรูปแบบเดิมได้ ถือเป็นก้าวแรกในการเตรียมความพร้อมของธนาคารในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)” นายธานินทร์ กล่าว -กผ-

ข่าวธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย+ธนาคารอิสลามแห่งประเทศวันนี้

"ไอแบงก์ ไม่ทิ้งกัน" พร้อมช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว พักหนี้ - ปล่อยสินเชื่อฟื้นฟู

นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) กล่าวว่า"ไอแบงก์ขอแสดงความห่วงใยต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อทรัพย์สินจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ ไอแบงก์เข้าใจถึงความยากลำบากที่ทุกท่านต้องเผชิญ และขอยืนเคียงข้างลูกค้าในช่วงเวลานี้ ไอแบงก์พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระด้านการเงิน เพื่อสนับสนุนให้ทุกท่านสามารถฟื้นฟูความเสียหายและกลับมาดำเนินชีวิตได้โดยเร็ว ภายใต้มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้า "ไอแบงก์ ไม่ทิ้งกัน" ดังนี้

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทร... "เอกนัฏ" เสริมแกร่งอุตสาหกรรมฮาลาล ผสาน "8 หน่วยงาน 22 สินเชื่อ" ดันผู้ประกอบการไทยสู่การส่งออก — นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั...

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทร... "เอกนัฏ" เสริมแกร่งอุตสาหกรรมฮาลาล ผสาน "8 หน่วยงาน 22 สินเชื่อ" ดันผู้ประกอบการไทยสู่การส่งออก — นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั...

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ร่วมส... ไอแบงก์ประกาศปรับลดอัตรากำไรสินเชื่อลงสูงสุด 0.25% ต่อปี เริ่ม 1 พ.ย.นี้ — ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ร่วมสนองนโยบายรัฐบาลประกาศปรับลดอัตรากำไรลู...

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เข้าร... เริ่มแล้ว! งาน World HAPEX 2024 ไอแบงก์ตบเท้าเข้าร่วม พร้อมนำขบวนบริการทางการเงินฮาลาลอย่างครบครัน — ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เข้าร่วมงานแสดงสิ...

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) โดย น... ไอแบงก์เดินหน้าเติมความรู้ผู้ประกอบการฮาลาล ร่วมกับ EXIM อบรม Halal E-Commerce and Branding — ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) โดย นางนุจรี ภักดีเจริญ ...

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) โดย น... ไอแบงก์ ร่วมสร้างแรงใจในวันเด็ก ให้เริ่มนับ 1 เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยบัญชีอุ่นใจวัยเรียน — ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) โดย นางนุจรี ภักดีเจริญ ผ...