กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--เอฟ เอ คิว
ความร่วมมือในการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการให้กับกระทรวงการไฟฟ้าแห่งสหภาพพม่า ณ กรุงเนปิดอว์ เพื่อเสริมศักยภาพประเทศพม่า
แต่งตั้งสองบริษัทท้องถิ่น เป็นตัวแทนจำหน่ายที่มีศักยภาพ เพื่อนำเสนอโซลูชั่นด้านแสงสว่างที่ยั่งยืนสู่ตลาดพม่า และนำเสนอโซลูชั่นด้านพลังงานให้กับอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
ใช้ความสามารถของคนท้องถิ่นร่วมเป็นทีมงานของจีอีในพม่า
จีอีได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับบริษัท ไลต์ติ้ง โค สเปเชียลลิสท์ พีทีอี จำกัด ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ของบริษัทคริสไลท์ พีทีอี จำกัด (สิงคโปร์) ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า เพื่อขยายการให้บริการโซลูชั่นและเทคโนโลยีของจีอีไลท์ติ้งในประเทศพม่า โซลูชั่นและเทคโนโลยีของจีอีไลท์ติ้งประกอบด้วย เทคโนโลยี LED สำหรับป้ายโฆษณา หลอดไฟสำหรับงานสถาปัตยกรรม สำหรับการขนส่ง การจัดแสดงต่างๆ และหลอดไฟสำหรับการใช้งานทั่วๆ ไป จีอีผลิตหลอดไฟที่ใช้กับเครื่องบินและอุตสาหกรรมการขนส่ง รวมถึงใช้ในทางการแพทย์ และไฟที่ใช้สำหรับงานบันเทิงและภาพยนตร์
ในโอกาศนี้จีอียังได้ลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงกับบริษัท พาร์ทเนอร์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด บริษัทท้องถิ่นในพม่าซึ่งเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชั่น ในการร่วมกันนำเสนอโซลูชั่นระบบจัดเก็บไฟฟ้าดูราธอนของจีอี (GE’s Durathon storage solutions) เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการสื่อสารโทรคมนาคมในพม่า ซึ่งจะช่วยลดภาวะการใช้น้ำมันดีเซลที่มีราคาแพง และเพื่อพัฒนาการเชื่อมต่อแบบเคลื่อนที่ ทั้งนี้ความไม่เสถียรของกระแสไฟฟ้า ทำให้เชื้อเพลิงมีราคาแพงขึ้น ค่าบำรุงรักษาเพิ่มมากขึ้น และสร้างความกดดันให้เกิดการหาวิธีลดปริมาณของเสียที่ปล่อยออกมาจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้า กระตุ้นให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมแบบเคลื่อนที่แสวงหาโซลูชั่นการจัดเก็บพลังงานที่ดีกว่า
นาย เกียว โม นัง กรรมการผู้จัดการของคริสไลท์ และนายวูนนา ทุน ซีอีโอและประธานของบริษัท พาร์ทเนอร์ แอสโซซิเอทส์ อินเทอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นตัวแทนบริษัทฯ ทั้งสอง และนายสจ๊วต ดีน เป็นตัวแทนของจีอี ในการลงนามความร่วมมือ และลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงในครั้งนี้
นายสจ๊วต ดีน ซีอีโอ จีอี อาเซียน กล่าวว่า “สำหรับจีอี พม่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดในภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้พม่ายังคงฟื้นฟูประเทศอย่างต่อเนื่อง จีอีมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนประเทศพม่าให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความต้องการเร่งด่วนด้านพลังงานไฟฟ้า
การสาธารณสุข และความจำเป็นด้านการขนส่ง และเพื่อช่วยสนับสนุนอนาคตของประเทศ
จีอีเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศพม่าตั้งแต่เมื่อมีการยกเลิกการคว่ำบาตรในปีที่ผ่านมา การเข้ามาดำเนินธุรกิจในพม่าของจีอีเปรียบเสมือนการเดินทางที่ส่งเสริมเกื้อหนุนประเทศพม่าในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เราได้สร้างความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญในธุรกิจด้านสาธารณสุขทั้งกับโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน รวมถึงธุรกิจเกี่ยวกับพลังงาน การเปิดสำนักงานของจีอีในครั้งนี้สะท้อนพันธะสัญญาระยะยาวของจีอีในการเติบโตไปกับประเทศพม่าและพันธมิตร ด้วยความร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นและรัฐบาล เพื่อแก้ไขความท้าทายที่หนักหน่วงด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านสาธารณสุข พลังงาน และการขนส่ง ที่เผชิญอยู่”
นายสจ๊วต ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ยังมีเป้าหมายอีกมากมายที่ประเทศและประชาชนชาวพม่าจะต้องไปให้ถึง จีอีมีเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่พร้อมจะสนับสนุนความพยายามในการวางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของพม่าให้เกิดการแข่งขันได้ เราเล็งเห็นศักยภาพที่มีอยู่อีกมากมายและเราได้หารืออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรในประเทศพม่า จีอียังคงมองหาโอกาสในการขยายการสนับสนุนการสร้างสรรค์ด้านสังคมต่างๆ การฝึกอบรม และการสาธารณสุข ส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งคือการพัฒนาทรัพยากรบุคคลรวมถึงผู้นำรุ่นใหม่เพื่อเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศต่อไป”
พร้อมกันนี้ จีอียังได้ใช้โอกาสนี้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (workshop) ร่วมกับบริษัท พารามี่ เอนเนอร์ยี่ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานท้องถิ่น ทำการสาธิตให้เห็นถึงการใช้โซลูชั่นของจีอีเพื่อผลิตพลังงานในโรงไฟฟ้าต่างๆ ของประเทศพม่าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้พม่ากำลังวางแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 500 เมกะวัตต์ด้วยกำลังการผลิตจากก๊าซ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเพิ่มศักยภาพการผลิตไฟฟ้าของประเทศเป็นสองเท่าในปี 2558 ศักยภาพการผลิตไฟฟ้าของพม่าใช้พลังงานก๊าซมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ในปัจจุบัน
จีอีแต่งตั้ง นายแอนดรู ลี ชาวพม่า ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานของจีอีในประเทศพม่า นายแอนดรู มีประสบการณ์ด้านการตลาดและการพัฒนาธุรกิจในประเทศพม่าและสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างดี นอกจากทีมงานชาวพม่าแล้ว เมื่อปี 2555 จีอียังได้แต่งตั้งบริษัท ซี ไลอ้อน เป็นผู้แทนจำหน่ายโซลูชั่นด้านสาธารณสุขระดับประเทศของจีอี ในประเทศพม่า
จีอีมุ่งมั่นในการขยายศักยภาพในประเทศพม่าผ่านพันธมิตรท้องถิ่นหรือความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรม และการสร้างโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละราย พม่าเป็นประเทศที่ 9 ในอาเซียนที่จีอีเข้ามาทำธุรกิจ จีอีเข้ามาทำธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนมากว่า 100 ปีแล้ว มีรายรับมากกว่าสามพันล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีคำสั่งซื้อมากกว่าสี่พันล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัทฯ มีพนักงานในภูมิภาคนี้เกือบ 7,500 คน
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ เมธาวี เฉลิมธนศักดิ์ / นภา สุทธิญาณโสภณ บริษัท เอฟ เอ คิว จำกัด โทรศัพท์: 02 971 3711 Ext. 119 / 120 อีเมล: [email protected] / [email protected]
-นท-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit