มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 15

18 Jul 2013

กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--International Cultural Promotions

มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 15 ปีนี้มาพร้อมกับสุดยอดความอลังการและสีสันหลากวัฒนธรรมจากทั่วโลก ตลอดสองเดือน

“ปีนี้งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ จัดเป็นครั้งที่ 15 เพื่อร่วมฉลองความสำเร็จครบรอบปีที่ 15 ของการจัดงานฯ ทางผู้จัดจึงได้พยายามคัดสรรการแสดงที่ยิ่งใหญ่ มานำเสนอเป็นพิเศษ จะเห็นได้ว่า เรานำเสนอการแสดงหลากหลายรูปแบบ ยกขบวนศิลปินและนักแสดงชั้นนำขึ้นเวทีสร้างสรรค์ประสบการณ์แห่งความสุนทรีย์ โดยแบ่งการแสดงออกเป็นหลายรูปแบบด้วยกัน อาทิ บัลเลต์คลาสสิค โอเปร่า ดนตรีคลาสสิค ออร์เคสตรา และดนตรีแจ๊ส รวมทั้งโชว์เต้นระบำร่วมสมัย และการแสดงอื่นๆ อีกมากมาย รวม 17 ชุด 22 รอบการแสดง ระหว่างวันที่ 13 กันยายน ถึง 14 ตุลาคมนี้ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรม แห่งประเทศไทย” สิทธิกุล บุญอิต รองประธานเทศกาลฯ กล่าว

เปิดฉากความยิ่งใหญ่อลังการด้วยการแสดง เดอะนัตแครกเกอร์ ออน ไอซ์ (The Nutcracker on Ice) โดยคณะ อิมพีเรียลไอซ์สตาร์ จากสหราชอาณาจักร ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จะกลายเป็นลานสเก็ตน้ำแข็งอีกครั้ง เมื่อนักสเก็ตน้ำแข็งระดับแชมป์โลก แชมป์โอลิมปิค หลายสถาบันกว่า 20 ชีวิตที่เปิดการแสดงมาแล้วทั่วโลก กลับมาอีกครั้ง พร้อมบัลเลต์เรื่องดัง "นัตแครกเกอร์" เรื่องราวของตุ๊กตาไม้ที่กลับมีชีวิตขึ้นในเทศกาลคริสต์มาส ผลงานอมตะของไชคอฟสกี "นัตแครกเกอร์ออน ไอซ์" จะเปิดการแสดงทั้งหมด 5 รอบ เริ่มวันศุกร์ที่ 13 ถึงอาทิตย์ที่ 15 กันยายนนี้

ตามมาด้วยวันอังคารที่ 17 กันยายน Les Contes d’ Hofmann หรือ The Tales of Hofmann จากประเทศรัสเซีย คณะ เฮลิคอน โอเปร่า เป็นหนึ่งในคณะโอเปร่าที่ดีที่สุดของรัสเซีย เสนอผลงานโอเปร่าแฟนตาซี 2 องก์ ความขัดแย้งระหว่างดนตรี ที่ไพเราะกับเรื่องราวของชีวิตเป็นเสมือนสิ่งมหัศจรรย์ที่นำเสนอในโอเปร่าเรื่องนี้ ด้วยผลงานรางวัล “หน้ากากทองคำ” ในฐานะผู้กำกับโอเปร่ายอดเยี่ยมของ Dmitri Bertman ทำให้ “Les Contes d’Hoffmann” เป็นหนึ่งในการแสดงที่น่าจับตามองที่สุดในเทศกาลฯ ครั้งนี้

วันพุธที่ 18 กันยายน เราจะได้ชมฝีมืออันสูงส่งในด้านดนตรีของวงเฮลิคอน ซิมโฟนี ออร์เคสตรา (Helikon Symphony Orchestra) ซึ่งได้รับการยกย่องทั้งในรัสเซียและทั่วโลก ควบคุมวงโดย วลาดิเมีย พอนคิน ผู้ได้รับเกียรติควบคุม วงออร์เคสตราระดับโลกหลายวงด้วยกัน เช่น the Moscow Philharmonic Orchestra, BBC Orchestra, Stockholm Radio Orchestra, Cantelli Orchestra of Milan และเคยได้รับเกียรติจากพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ สอง โดยเชิญให้ควบคุม การแสดงหน้าวาติกันอีกด้วย

ช่วงแรกนำเสนอบทเพลง "Symphony No.3" ของไชคอฟสกี (P.Tchaikovsky) ช่วงที่สองประกอบด้วยผลงานสะเทือนใจอย่าง "Pictures at an Exhibition" ของ เปโตรวิช มูสซอร์กสกี (P.Mussorgsky) และ "Polovtsian Dances" ของ อเล็กซานเดอร์ โบโรดิน (A. Borodin)

วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน คณะเฮลิคอน โอเปร่า ขอเปิดค่ำคืนที่สามด้วยโอเปร่า 2 องก์ผลงานยอดเยี่ยมของรอสซินี (Rossini) เรื่อง "Il Barbiere di Siviglia" หรือ The Barber of Seville

จากนั้น เราจะได้พบกับตำนานของเพลงแจ๊ส "Chick Corea and The Vigil" ซึ่งจะมาเปิดการแสดงเป็นครั้งแรกในกรุงเทพฯ ในวันศุกร์ที่ 20 กันยายน ชิค คือนักเปียโนแจ๊สที่ดีที่สุดของโลกเจ้าของ 20 รางวัลแกรมมี่และเข้าชิงกว่า 59 ครั้ง มาพร้อมวงวิจิล วงแจ๊สดาวรุ่งชั้นยอดของโลก พร้อมเล่นเพลงที่คัดสรรแล้วจากผลงานอันโด่งดังของเขากว่าห้าทศวรรษ

คนที่เป็นคอเพลงพ็อปและคลาสสิค เตรียมพบกับเสียงเพลงไพเราะของ "The Ten Tenors with Orchestra" เทน เทเนอร์ส คณะนักร้องชาวออสเตรเลียฝีมือเยี่ยมสิบคน ซึ่งตระเวนแสดงทั่วโลกกว่า 250 โชว์ต่อปี ยอดจำหน่ายบัตรกว่า 4 ล้านใบ ทั่วโลก วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน เราจะได้ฟังเพลงอันหลากหลายตั้งแต่ Bohemian Rhapsody ของควีน Hallelujah ของ เลนนาร์ด โคเอน ไปจนถึงเพลงชุดเมดเลย์ของวงบีชบอย

สำหรับผู้ที่หลงใหลนาฏศิลป์และดนตรี วันจันทร์ที่ 23 กันยายน เราภูมิใจเสนอการแสดงเรื่อง "รามายณะ" (หรือรามเกียรติ์ ตำนานที่เราคนไทยรักและรู้จักขึ้นใจ) โดย ศรีราม ภรัตยา คาลา คาเลนดา (Shri Ram Bharataya Kala Kalendra) เป็นโอกาสที่จะได้เห็นรามายณะต้นตำรับแสดงบนเวทีกรุงเทพฯ โดยคณะนาฏศิลป์จากอินเดีย

ส่วนผู้ที่ชื่นชอบเพลงประเภทเวิลด์มิวสิค นับเป็นอีกครั้งที่จะได้ชมการแสดงเพลง "ฟาดู" (Fado) นี่คือมรดกเพลงที่ไพเราะ กินใจดุจเพลงริธึมแอนด์บลูของถิ่นเมดิเตอร์เรเนียน ลำนำเศร้าสร้อยร้องคลอจังหวะระทึกชวนให้ปรบมือตาม และเสียงแอ็คคอร์เดียน นักร้องฟาดูปีนี้คือ โจอานา เมโล (Joana Melo) ราชินีเสียงทองผมแดงฉาน เธอจะมาพร้อมกับวงดนตรีและแดนเซอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะที่มาแสดงคอร์เรอร์ โอ ฟาดู, โควรัม บัลเลต์ (Correr O Fado, Quorum Ballet) เราเชื่อมั่นว่าการแสดงชุดนี้ ในคืนวันพุธที่ 25 กันยายน จะต้องถูกใจแฟนเพลงชาวกรุงเทพฯ แน่นอน

คืนถัดมา วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน คนรักเพลงแจ๊สจะเต็มอิ่มกับ "Dutch Jazz Night" นำเสนอสามรายการของนักร้องนักดนตรีชั้นครูที่ตระเวนแสดงมาแล้วทั่วโลก ได้แก่ วงดัตช์สวิงคอลเลจแบนด์ (Dutch Swing College Band) วงบีตส์ บราเทอร์ส (Beets Brothers) และวงแจ๊สเคีย (Jazzkia Group) ประกอบด้วยนักร้องชั้นเยี่ยมสี่ท่าน มาร์เกรต โซร์ดมา (Margriet Sjoerdsma) จูดิท นิจลันด์ (Judith Nijland) วอร์เรน เบิร์ด (Warren Byrd) และซัสเคีย ลารู (Saskia Laroo) ร่วมด้วยเสียง แซ็กโซโฟนจาก โก้ มิสเตอร์แซ็กแมน เป็นความบันเทิงที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง

จากนั้น วงออร์เคสตรา เตียโตร เรจจีโอ ดี ปาร์มา (The Orchestra of the Teatro Regio di Parma) วง ออร์เคสตราซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดวงหนึ่งของอิตาลี นำเสนอสุดยอดนักร้องโอเปร่าสองท่าน บรูโน รีเบรโร (Bruno Ribeiro) (เทเนอร์) และอันนามาเรีย เดลรอสเต (Annamaria Dell'Oste) (โซปราโน) ทั้งสองท่านเคยแสดงในโรงโอเปร่าที่มีชื่อเสียงของโลก ในอิตาลีและฝรั่งเศส มาแล้ว ซึ่งทั้งคู่จะมาร่วมสร้างท่วงทำนองอันไพเราะสำหรับการแสดงในคืนวันศุกร์ที่ 27 กันยายน

การแสดงอันดับต่อมาเป็นของ อินาคิ เออร์เลเซกา แดนซ์ คอมปานี (Inaki Urlezaga Dance Company) นำเสนอสองผลงาน เรื่องแรก "Carmen Suite" ซึ่งเป็นบัลเลต์ในขนบคลาสสิค ส่วนเรื่องที่สอง "Aires de Tango" เป็นการแสดงที่ผสมผสานบัลเลต์เข้ากับแทงโก คณะอินาคิเป็นหนึ่งในคณะนักเต้นร่วมสมัยที่กำลังจรัสแสง และได้แสดงเทียบชั้นกับคณะใหญ่ที่มีชื่อเสียงในงานเอ็กซ์โปที่เซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2010 มาแล้ว

เพื่อรำลึกถึง “ราชาเพลงพ็อป” ไมเคิล แจ็คสัน เอ็นเทอร์เทนเนอร์ซึ่งครองความยิ่งใหญ่มานานหลายสิบปี "Michael Jackson Tribute Memory Concert" การแสดงในคืนวันอังคารที่ 1 และพุธที่ 2 ตุลาคม จะสร้างบรรยากาศตื่นตาตื่นใจ นำเสนอนักร้องผู้เลียนแบบไมเคิล แจ็คสันได้อย่างเหนือชั้น วงดนตรีชั้นเยี่ยมและนักเต้นชั้นยอด เปิดโอกาสให้คนดูลุกขึ้นเต้น รายการจะมีเพลงฮิตของไมเคิลครบเครื่อง ทั้ง Billie Jean ไปจนถึง Beat It รวมทั้งเพลงฮิตของเขาจากสมัยยังเด็กอีกด้วย งานนี้ต้อง มูนวอล์กเข้างานเท่านั้น!

คืนวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พบเทพเจ้ากีตาร์แจ๊ส ไมค์ สเติร์น (Mike Stern Band) ผู้สร้างผลงานฮิตมาตั้งแต่ครั้งที่อยู่กับวงบลัด สเวต แอนด์ เทียร์ส (Blood Sweat & Tears) ในยุค 70s เล่นดนตรีกับบิลลี โคบาม (Billy Cobham) และไมล์ส เดวิส (Miles Davis) ในยุค 80s นักดนตรีผู้ได้รับเสนอชื่อชิงรางวัลแกรมมี่มาแล้ว 6 ครั้ง และ ตำแหน่งสุดยอดนักกีตาร์ยอดเยี่ยมของโลกในปี 2012 จากการโหวตของนิตยสาร Guitar Player ผู้นี้จะแสดงฝีมือของอัจฉริยะบนกีตาร์หกสาย พร้อมวงดนตรี

สมาชิกในวงเป็นตัวเอ้ในวงการแจ๊ส ได้แก่ แอนโทนี แจ็คสัน (Anthony Jackson) มือเบสหกสายผู้ได้รับเสนอชื่อให้ชิงรางวัลแกรมมี่ สตีฟ สมิธ (Steve Smith) นักกลองมือรางวัลผู้เคยเล่นร่วมกับวงเจอร์นีย์และมารายห์ แครีย์ และบ็อบ มัลลาค (Bob Malach) มือแซ็กฯ ผู้เคยเล่นดนตรีให้ราชินีเพลงพ็อปอย่างบาร์บรา สตรัยแซนด์ และมาดอนนา

เซมมิม และ ออนควอนโต้ โดย กรูโป กอร์โป (Sem Mim and Onqoto by Groupo Corpo) คือคณะแดนซ์อันดับหนึ่งของบราซิล ออกแสดงทั่วโลกปีละไม่ต่ำกว่า 70 ครั้ง และคืนวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม นี้ กรูโป กอร์โปจะนำเสนอการแสดงสองชุดซึ่งเป็นการแสดงที่เคยได้รับรางวัลมาแล้ว

จากนั้นเทศกาลจะหวนคืนสู่กลิ่นอายของบัลเลต์ โดยคณะคาร์ลสรูช บัลเลต์ (Karlsruhe Ballet) คณะบัลเลต์ซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดคณะหนึ่งของเยอรมนี คืนวันพุธที่ 9 และศุกร์ที่ 11 ตุลาคม คืนแรกนำเสนอบัลเลต์เรื่อง "Giselle" ผลงานออกแบบท่าเต้นของนักออกแบบท่าเต้นเกียรติยศอย่าง เซอร์ปีเตอร์ ไรต์ (Sir Peter Wright) ส่วนคืนที่สองเป็นการรวมลีลาจากบัลเลต์คลาสสิค สุดประทับใจหลายๆ เรื่อง แสดงโดยสุดยอดนักบัลเลต์ของคณะ

ปิดท้ายศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติครั้งที่ 15 ด้วย Romeo and Juliet, โดยคณะ Grande Ballet de Gen?ve สวิตเซอร์แลนด์ เสนอบัลเลต์ร่วมสมัย Romeo & Juliet หนังสือพิมพ์ Tribune de Geneva ยกย่องว่าคณะ Grande Ballet de Gen?ve เปี่ยมด้วยพลัง สมบูรณ์แบบ และ สง่างาม พบความประทับใจนี้ได้ในวันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.bangkokfestivals.com หรือ https://www.facebook.com/BangkoksInternationalFestivalOfDanceMusic ซื้อบัตรชมการแสดงที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ www.thaiticketmajor.com สายด่วน โทร. 0 2262 3191 และเคาน์เตอร์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา

-กผ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net