ศ.ศ.ป. จัดงาน "ฝ้ายทอใจ ครั้งที่ 6” จุดกระแสนิยมไทย เล็งดันตลาด 4 พันล้านขยายตัว

06 Jun 2013

กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--เอ้าท์ดอร์ พีอาร์

ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. จัดงาน "ฝ้ายทอใจ ครั้งที่ 6" สานต่อพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ส่งเสริม และพัฒนางานหัตถศิลป์ผ้าฝ้ายทอมือ ภายใต้แนวคิด “มหัศจรรย์เสน่ห์ฝ้ายไทย” ดึงนางแบบร่วมสมัย “คาร่า พลสิทธิ์” เป็นพรีเซ็นเตอร์ร่วมกระตุ้นหน่วยงานภาครัฐ - เอกชนหันมาใช้ผ้าฝ้ายไทย เล็งขยายตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ มูลค่ากว่า 4,350 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น

นางพิมพาพรรณ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. (The Support Arts and Crafts International Centre of Thailand (Public Organization) เรียกโดยย่อว่า “SACICT” กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของจัดงาน “ฝ้ายทอใจ ครั้งที่ 6” ว่า เพื่อสานต่อพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีความห่วงใยประชาชนในชนบท ส่งเสริมให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้พอเพียงต่อการเลี้ยงครอบครัว ตลอดจนให้คนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญและการรณรงค์แนวความคิดหลักของ“นิยมไทย” ทั้งนี้ ในการจัดงานที่ผ่านมา ถือว่า ศ.ศ.ป.ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ในการเพิ่มช่องทางการตลาด และจัดจำหน่ายผ้าฝ้ายศิลปาชีพให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยคำนึงถึงกลยุทธ์ทำตลาดในหลายรูปแบบ ทั้งการขายส่ง (Wholesale) การขายปลีก (Retail sale) และการสร้างเครือข่ายในการจัดจำหน่ายผ้าฝ้ายศิลปาชีพร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ภาครัฐ และเอกชน เพื่อเพิ่มกระแสการรับรู้ และหันมาใช้ผ้าฝ้ายไทยในชีวิตประจำวันมากขึ้น

สำหรับงาน "ฝ้ายทอใจ ครั้งที่ 6" ปีนี้ ศ.ศ.ป. ได้สานต่อพระราชปณิธาน ด้วยการนำผ้าฝ้ายทอมือจากศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิดซึ่งเป็นสถานที่เก็บผ้าฝ้ายที่ได้รับซื้อมาจากชุมชนต่างๆ ได้นำมาจัดแสดงภายในงานและจำหน่าย รวมทั้งยังนำผ้าฝ้ายของกลุ่มสมาชิกชาวบ้านที่อยู่ในจังหวัดต่างๆ เป็นผ้าฝ้ายทอมือ มาร่วมออกบูธภายในงานครั้งนี้ด้วย และได้แบ่งการจัดงานออกเป็น 4 โซน คือ 1. นิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 2.เวทีการแสดง-กิจกรรม โดยมีดีไซเนอร์สไตลิสชื่อดัง มาร่วมให้ข้อมูลความรู้ เกี่ยวกับการใช้ผ้าฝ้าย และการประยุกต์ให้เหมาะกับแฟชั่นสมัยนี้ ตลอดจนการแสดงต่างๆ บนเวที 3. การออกร้านจำหน่ายผ้าฝ้าย และผลิตภัณฑ์จากผ้าฝ้ายกว่า 100 คูหา เช่น ชัยภูมิ เน้นผ้าฝ้ายย้อมโบราณ ย้อมครั่ง ย้อมมะเกลือ สกลนคร ย้อมคราม เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาชาวบ้าน และยังมีของชำรวย ของตกแต่งบ้าน กระเป๋า รองเท้า และ 4. โซนบริการอาหารเครื่องดื่ม

“ ปีนี้จะเน้นการสร้างกระแสและรณรงค์แฟชั่น ภายใต้แนวคิด “มหัศจรรย์เสน่ห์ฝ้ายไทย”ด้วยการผสมผสานผลิตภัณฑ์ดั้งเดิม ร่วมกับแนวคิดยุคสมัยใหม่ เชื่อว่าจะเป็นแรงจูงใจค่านิยมใหม่ๆ เกิดขึ้น โดยมีไฮไลท์ที่น่าสนใจ คือ ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ “ไอซ์-ศรุต วุฒิพชนธร” ที่ชนะการประกวดสุดยอดดีไซเนอร์ "ทอผ้า ฟ้าไทย" มาร่วมออกแบบนำเสนอแฟชั่นผ้าฝ้าย ในคอลเลคชั่น“Miracle of Cotton's Charms” ซึ่งจะมีทั้งเสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าฝ้าย เช่น เครื่องประดับ กระเป๋า เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ ที่ดีไซน์มาจากลายผ้าในโครงการฯ จัดทำขึ้นพิเศษมาแสดงโชว์ พร้อมทั้งจำหน่ายภายในงานนี้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีการแสดงผ้าโบราณของไทยในอดีต เครื่องนุ่งห่มในราชสำนักรัชสมัยต่างๆ ที่มีอายุกว่า 100 ปี และผ้ารักษ์สิ่งแวดล้อม Green Crafts หรือผ้าฝ้ายที่มาจากกระบวนการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น ผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติ อาทิ จากบ้านสงเปลือย จังหวัดสกลนคร และบ้านหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ มาจัดแสดง คาดว่าจะมีสมาชิกและผ้าโบราณ รวมทั้งบูธจำหน่ายงานฝีมือจากผ้าฝ้าย จัดแสดงในงานนี้กว่า 100 คูหา”

นางพิมพาพรรณ กล่าวว่า เรายังได้รับการสนับสนุนการประชาสัมพันธ์โครงการฯ ณ ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นส์อีเลฟเว่น จากบริษัท ซี พี ออล จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรร่วมสนับสนุนให้พื้นที่จัดโรดโชว์ ในวันที่ 13 มิ.ย. นี้ ณ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ วันที่ 20 มิ.ย. 2556 ณ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกลุ่ม ปตท. ซึ่งอยู่ระหว่างการแจ้งวันจัดกิจกรรม Road Show เป็นต้น โดยมีพรีเซ็นต์เตอร์นางแบบ “คาร่า พลสิทธิ์” มาร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์โครงการฯ นี้ด้วย

“จุดเด่นผ้าฝ้ายทอมือของไทย คือ ลวดลาย และการทำงานที่ละเอียด พิถีพิถัน ความใส่ใจในงาน และเรื่องของเทคนิค กรรมวิธีในการผลิต เช่น การมัดย้อม การแต้มวี หรือการยกดอก ยกลายต่างๆ สิ่งเหล่านี้ในแต่ละที่จะมีความสวยแตกต่างกันไป และความชำนาญที่ตกทอดกันมาจากบรรพบุรุษ แต่ละท้องถิ่น จะมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน จากช่องทางการตลาดดังกล่าว ศ.ศ.ป. จะทำหน้าที่เสนอแนะ และช่วยผลักดันให้เกิดผลิตภัณฑ์ต้นแบบ เพื่อนำไปเสนอให้กับกลุ่มผู้ซื้อตัวจริง ซึ่งคนกลุ่มนี้จะมีการซื้อต่อเนื่องทำให้ชาวบ้านเกิดรายได้ที่สม่ำเสมอในที่สุด”

นางพิมพาพรรณ ได้กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ปัจจุบันผ้าฝ้ายทอมือของไทย มีตลาดใหญ่อยู่ในประเทศ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,900 ล้านบาท มีมูลค่ามากกว่าตลาดต่างประเทศ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,450 ล้านบาท ตลาดรวมประมาณ 4,350 ล้านบาท ซึ่งอัตราการเติบโตของตลาดดังกล่าวไม่คงที่ ดังนั้น ศ.ศ.ป. จึงมีหน้าที่ผลักดันและสร้างมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาด พร้อมทั้งหาช่องทางตลาดใหม่ๆ ให้กับเกษตรกรซึ่งตลาดใหญ่ของผ้าฝ้ายทอมือ คือ ตลาดกลุ่ม Hospitality ได้แก่ กลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร ที่พักอาศัย ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพมาก

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบผ้าฝ้ายไทย สามารถสั่งจองผ้าฝ้ายทอมือ จากศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด ในสมเด็จพระเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นผ้าพิมพ์ลายในคอลเลคชั่นพิเศษที่มีจำนวนจำกัด ด้วยการออกแบบจากดีไซน์เนอร์“ไอซ์ ศรุต วุฒิพชนธร” จำนวน 4 ลาย มีจำหน่ายเฉพาะงานนี้เท่านั้น นอกจากนี้ ทางโครงการฯ ยังได้จัดทริปพิเศษสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาขึ้น ภายใต้แนวคิด “เที่ยวอยุธยา ลิ้มรสกุ้งแม่น้ำ ชมงานฝ้ายทอใจ” โดยได้รับการสนับสนุนจากสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ แอทต้า (Association of Thai Travel Agents : ATTA) นำนักท่องเที่ยวพาชมสถานที่ต่างๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น ของ เกริก ยุ้นพันธ์ พระราชวังบางปะอิน ฯลฯ และร่วมชมงาน “ฝ้ายทอใจ ครั้งที่ 6”

สนใจเชิญชมงาน “ฝ้ายทอใจ ครั้งที่ 6 “กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 27-30 มิถุนายน 2556 เวลา 09.00-18.00 น. ณ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 736 7440 ต่อ 111-116 โทร 035 367 054 ต่อ 1370 หรือ www.facebook.com/thaicottonfair6th

-กภ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net