กรุงเทพฯ--20 มิ.ย.--IR network
“ที.เอ็ม.ซี.อุตสาหกรรม” หรือ TMC ยึดหัวหาดตลาดต่างประเทศมุ่งเน้นอินโดจีน ปักธงลุยธุรกิจแห่งแรกที่ประเทศลาว จับมือ “บริษัท SV ก่อสร้างและซ่อมแปลงเคหะสถาน จำกัด” เซ็นสัญญาร่วมทุน ประกอบและผลิตเครื่องจักรไฮดรอลิค พร้อมเดินเครื่องผลิตกลางเดือนกรกฎาคมนี้ “สุรเชษฐ์ กมลมงคลสุข” ระบุเพื่อเป็นการขยายฐานด้านการตลาด เสริมศักยภาพธุรกิจรองรับ AEC สู่การเป็น World Class Manufacturing คาดช่วยหนุนผลประกอบการ TMC ปีนี้ให้เติบโตโดดเด่นขึ้น ตั้งเป้าปั๊มรายได้ทั้งปีโตไม่ต่ำกว่า 25%
นายสุรเชษฐ์ กมลมงคลสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.เอ็ม.ซี. อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMC เปิดเผยว่า บริษัทได้เซ็นสัญญาร่วมทุนกับ บริษัท SV ก่อสร้างและซ่อมแปลงเคหะสถาน จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจก่อสร้างและซ่อมแปลงเคหะสถานในประเทศลาว เพื่อประกอบและผลิตเครื่องจักรไฮดรอลิค ด้วยมูลค่าการลงทุนรวม 1,430 ล้านกีบ (5,720,000 บาท) ในจำนวนนี้แบ่งเป็นงบลงทุนของ TMC ในสัดส่วน 70% และ บริษัท SVฯ ในสัดส่วน 30% โดยโฟกัสลูกค้าทั้งกลุ่มภาครัฐและเอกชน และคาดว่าจะสามารถเริ่มการผลิตได้ประมาณกลางเดือนกรกฎาคมปีนี้
“การร่วมทุนกับ SV ครั้งนี้เป็นไปตามแผนดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่ได้วางกลยุทธ์เพื่อเตรียมความพร้อมในการขยายฐานสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะภูมิภาคอินโดจีน ซึ่งมีกำลังซื้อสูง เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศ รวมถึงรองรับโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ปี 2558 คาดจะช่วยขยายฐานด้านการตลาดและรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น สู่การเป็น World Class Manufacturing”
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า SV มีจุดเด่นด้านผู้บริหารที่เป็นคนรุ่นใหม่วิสัยทัศน์กว้างไกล มีเครือข่ายพันธมิตรจำนวนมากทั้งภาครัฐและเอกชน และผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องความต้องการในช่วงระยะเวลาของการพัฒนา ประกอบกับมีการใช้ภาษาที่ใกล้เคียงกัน ทำให้สามารถสื่อสารและเข้าใจได้ง่าย การร่วมมือจะช่วยเสริมธุรกิจซึ่งกันและกันสู่ความเป็นผู้นำในตลาดดังกล่าว รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศตามทิศทางการขยายตัวเศรษฐกิจในกลุ่มภูมิภาคอาเซียน ซึ่งนอกเหนือจากการร่วมธุรกิจกับประเทศลาว บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมเป็นพันธมิตรกับประเทศอื่นในภูมิภาค อาทิ กัมพูชา เวียดนาม และ พม่า เป็นต้น
“TMC ของเราก็มีจุดเด่นจากทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ที่อยู่ในแวดวงธุรกิจนี้เป็นเวลานาน รวมถึงทีมที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ทั้งด้านการตลาด อุตสาหกรรมการผลิต และด้านอื่นๆ ด้วยแบรนด์ที่เป็นของตนเอง ทำให้มีความสามารถเหนือกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะด้านราคาและการบริการ ตลอดถึงความยืดหยุ่นในการผลิตค่อนข้างสูง และจุดแข็งด้านการเงิน การผนึกกำลังกับ SV จะช่วยเสริมศักยภาพ และหนุนให้ผลประกอบการในปีนี้เติบโตอย่างโดดเด่นขึ้น โดยคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อ?เนื่อง?ใน?ไตรมาส 2/56 จากการส่งมอบงานที่เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตรายได้ทั้งปีไม่ต่ำกว่า 25% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,002 ล้านบาท” นายสุรเชษฐ์ กล่าวในที่สุด
-กภ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit