กรุงเทพฯ--10 ม.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
กระทรวงการคลัง จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ โครงการคลินิกภาษี นวัตกรรมการให้บริการรูปแบบใหม่ ศูนย์กลางการให้บริการความรู้ด้านภาษีอากรออนไลน์แบบ ONE STOP SERVICE เชื่อมโยงองค์ความรู้ด้านภาษีอากร 3 กรมภาษีไว้ ณ จุดเดียว เสริมศักยภาพองค์ความรู้แก่ข้าราชการและพนักงานด้านภาษีทุกระดับกรม ปูทางสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี เพื่อเป็นที่ปรึกษาแก่ภาคธุรกิจและประชาชน กลยุทธ์เสริมโครงสร้างธุรกิจไทยให้แข็งแกร่ง รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยมีนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามา การ์เด้นส์นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงการคลังได้สำรวจข้อมูลจากภาคเอกชนในจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องโครงการคลินิกภาษีกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับปัญหาในการชำระภาษีพบว่า กฎหมายภาษีมีความสลับซับซ้อน ข้อมูลทางภาษีจัดไม่เป็นระบบ อีกทั้งการขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทำได้ยาก ทั้งหมดนี้ทำให้การปฏิบัติตามกฎหมายภาษีให้ถูกต้องเป็นไปได้ยาก ทำให้ภาคเอกชนสูญเสียทั้งเวลาและงบประมาณ ในการค้นคว้าหาข้อมูล การเดินทางไปติดต่อสำนักงานภาษี การกรอกเอกสารและการจ้างที่ปรึกษา ต้นทุนเหล่านี้กลายเป็นภาระที่ส่งผลให้ศักยภาพด้านการแข่งขันของภาคเอกชนลดลง โครงการคลินิกภาษีฯ จึงเป็นนวัตกรรมใหม่ของกระทรวงการคลัง ที่มีวัตถุประสงค์ช่วยลดภาระการปฏิบัติตามกฎหมายภาษีของภาคเอกชนให้ต่ำสุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อต้นทุนลดต่ำลง ศักยภาพในการแข่งขันก็จะสูงขึ้น “โครงการคลินิกภาษีฯ เป็นการดำเนินงานพัฒนาภายใต้การบริหารของคณะกรรมการบริหารการเปลี่ยนแปลง กระทรวงการคลัง CCO-MOF ซึ่งมีนโยบายพัฒนารูปแบบการให้บริการด้านภาษี และ การปฏิบัติงานในรูปแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความสะดวก รวดเร็ว และ การให้บริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ดียิ่งขึ้น โดยได้รวบรวมความรู้ด้านภาษีอากรจาก 3 กรมภาษี ได้แก่ กรมสรรพากร กรมศุลกากร และ กรมสรรพสามิต โดยจัดเก็บอยู่ในระบบไอทีและเผยแพร่ทาง Mobile Application, Social Media และ Web site ซึ่งประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านภาษีได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังเพิ่มช่องทางในการติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง ผ่านระบบการให้บริการที่เรียกว่า E-appointment หรือ ระบบนัดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถขอนัดรับคำปรึกษาเรื่องภาษีจากผู้เชี่ยวชาญของทั้ง 3 กรมภาษีได้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้วย ดังนั้นบุคลากรด้านภาษีทุกระดับของทั้ง 3 กรม จึงต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านองค์ความรู้ภาษีให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมขับเคลื่อนโครงการคลินิกภาษีฯ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าว -2- การดำเนินโครงการคลินิกภาษีกระทรวงการคลัง ถือเป็นนวัตกรรมการบริการด้านภาษีที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและภาคเอกชนเป็นอย่างยิ่ง ทั้งอย่างเป็นการส่งเสริม และ พัฒนาด้านการบริการของหน่วยงานราชการสู่ระดับสากลมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยกระชับขั้นตอนการทำงานของหน่วยงานด้านภาษีให้สั้นลง เกิดความโปร่งใสการกระบวนการจัดเก็บภาษี ช่วยให้การจัดเก็บภาษี การตรวจสอบ รวมถึงการประเมินผล มีความรวดเร็ว แม่นยำและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น ทางด้าน นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการคณะกรรมการ กำกับ ติดตามและประเมินผลโครงการคลินิกภาษีกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการคลินิกภาษี มีเป้าหมายในการรวบรวมองค์ความรู้เรื่องภาษีอากรสำหรับธุรกิจทั่วประเทศจำนวน 50 ธุรกิจ โดยเริ่มต้นไปแล้ว 5 ธุรกิจนำร่อง อันได้แก่ ธุรกิจสุรา ธุรกิจสปา ธุรกิจ OTOP ธุรกิจเครื่องดื่ม และธุรกิจผลไม้ โดยข้อมูลต่างๆ ได้รวบรวมและจัดเก็บอยู่ในระบบไอทีและเผยแพร่ทาง Mobile Application, Social Media และ Web site เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน อีกทั้งยังเพิ่มระบบการให้บริการที่เรียกว่า E-appointment หรือระบบนัดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถขอนัดรับคำปรึกษาเรื่องภาษีจากผู้เชี่ยวชาญของทั้ง 3 กรมภาษีได้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนและเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรงด้วย” ผู้ที่สนใจสามารถใช้บริการคลินิกภาษีได้ที่ http://taxclinic.mof.go.th ตลอด 24 ชั่วโมง -นท-