บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายปันผล 3 กองทุนหุ้นรับปีใหม่ ร่วม 270 ล้านบาท เผย Dividend Yield ทิ้งตลาดฉลุย เชื่อปัจจัยบวกรอบด้านดันหุ้นไทยทะยานต่อ

กรุงเทพฯ--4 ม.ค.--บลจ.กสิกรไทย

นายประเสริฐ ขนบธรรมชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ. กสิกรไทย เตรียมจ่ายปันผลกองทุนหุ้นและ LTF รวม 3 กองทุน ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนเวลา 8.00 น. ของวันที่ 2 มกราคม 2556 ได้แก่ กองทุนเปิดเค หุ้นทุน (K-EQUITY) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ในอัตรา 1.05 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล (RKF-HI) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ในอัตรา 0.44 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดเค สตราทีจิค ดีเฟ็นซีฟหุ้นระยะยาวปันผล (KSDLTF) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ในอัตรา 0.13 บาทต่อหน่วย โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 14 มกราคม 2556 มูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 267.84 ล้านบาท “ผลการดำเนินงานของทั้ง 3 กองทุนที่มีการจ่ายปันผลในครั้งนี้ นับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ โดยกองทุน K-EQUITY กองทุน RKF-HI และกองทุน KSDLTF ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ในรอบปีที่ผ่านมาที่ 12.12% 12.02% และ 3.22% ตามลำดับ ขณะที่ Dividend Yield ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศในปี 2555 อยู่ที่ 2.98% เท่านั้น” นายประเสริฐกล่าว สำหรับทิศทางการลงทุนในหุ้น นายประเสริฐกล่าวว่า บลจ. กสิกรไทย มองสถานการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มต้นปีค่อนข้างสดใส เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นหลังจากสหรัฐฯสามารถผ่านข้อตกลงขั้นต้นเกี่ยวกับปัญหาหน้าผาการคลัง (Fiscal Cliff) ส่วนตลาดหุ้นเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นไทยยังคงมีทิศทางเป็นบวก โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธนาคารกลางทั่วโลกที่ล้วนมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่องรวมถึงมาตรการซื้อคืนพันธบัตรจากธนาคารกลางญี่ปุ่น ซึ่งจะส่งผลให้มีสภาพคล่องและเม็ดเงินไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียรวมถึงไทย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจแข็งแกร่ง โดยเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติยังคงให้ความสนใจในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากยอดซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาที่เริ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 23,000 ล้านบาท ขณะที่ค่าเฉลี่ยทั้งปี 2555 อยู่ที่ประมาณ 6,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 2,100 ล้านบาทต่อเดือน “สำหรับตลาดหุ้นไทยในปีนี้ เชื่อว่าแนวโน้มยังคงเป็นบวก โดยได้รับปัจจัยบวกจากการบริโภคในประเทศที่ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และยิ่งเมื่อได้รับแรงส่งจากการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ทำให้ฐานภาษีของผู้มีรายได้ส่วนใหญ่ลดลง 2- 5% คาดว่าจะยิ่งทำให้มีกำลังซื้อมากขึ้น ประกอบกับการขึ้นค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อการบริโภค ขณะเดียวกันการลงทุนของภาครัฐที่ยังมีโครงการลงทุนและโครงการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยยังคงสามารถขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะสามารถขยายตัวได้ 4-5% นอกจากนี้ การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 20% ซึ่งจะทำให้บริษัทส่วนใหญ่มีกำไรสุทธิมากขึ้นและส่งผลบวกต่อราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนก็นับเป็นปัจจัยบวกอีกประการที่จะผลักดันให้ตลาดหุ้นไทยเติบโตต่อไปได้อีก โดย บลจ. กสิกรไทยจะยังคงเน้นลงทุนในหุ้นของกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชน ตลอดจนการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก” นายประเสริฐกล่าว ด้านปัจจัยที่ต้องจับตา นายประเสริฐกล่าวว่า ในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยอาจเผชิญแรงขายทำกำไรบ้างหลังจากราคาได้ปรับขึ้นไปมาก แต่จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าในปีนี้จะสามารถเติบโตได้กว่า 15% ก็เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยภายนอกยังคงต้องจับตาการเลื่อนการพิจารณาการตัดลดงบประมาณของสหรัฐฯ ออกไปอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ซึ่งอาจจะทำให้ตลาดเกิดความกังวลและมีโอกาสปรับฐานลงมาได้ในช่วงดังกล่าว แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้วก็จะสามารถตกลงกันได้ เช่นเดียวกันกับมาตรการการปรับขึ้นภาษีของผู้มีรายได้ปานกลางในสหรัฐฯ ที่สามารถหาข้อยุติได้ในที่สุด ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน K-EQUITY และกองทุน RKF-HI สามารถขอรับหนังสือชี้ชวยเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888 -กภ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน+หลักทรัพย์จัดการกองทุนวันนี้

บลจ.กสิกรไทย คว้า 5 รางวัลยอดเยี่ยม Best of the Best Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกองทุนของไทย

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติถึง 5 รางวัล จากงาน Best of the Best Awards 2025 ได้แก่ รางวัล Best Asset Management Company (30 Years), Best Asset Management Firm for Digital Marketing, Best Alternatives Manager, Best ESG Manager และ Best Multi-Asset Manager ทั้งนี้ รางวัลที่ บลจ.กสิกรไทย ได้รับทั้ง 5 สาขา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ บลจ.กสิกรไทย ในการพัฒนาและนำเสนอบริการด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ครอบคลุมและมีคุณภาพ รวมถึงการปรับตัว

บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนใหม่ KF-EMXCN ฝ่... กรุงศรีเปิดตัวกองทุน KF-EMXCN โอกาสเติบโตไปพร้อมกับ Emerging Market — บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนใหม่ KF-EMXCN ฝ่าความผันผวนจากสงครามการค้า ด้วยโอกาสลงทุนใน...

บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรร... บลจ.ทิสโก้เปิดกอง TGOV7M10 กองทุนรวมตราสารหนี้ อายุ 7 เดือน — บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรรัฐบาล 7 เดือน 10 (TGOV7M10) เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบ...

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท การบินไ... บลจ.กสิกรไทย ตอกย้ำ Trusted Asset Manager การบินไทย ไว้วางใจให้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ — กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่ง...

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด(บ... พิธีลงนามสัญญาแต่งตั้งบริษัทจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด(บลจ.วรรณ) ได้รับความ...

บลจ.กสิกรไทย สร้างทางเลือกการลงทุนเพื่อวั... บลจ.กสิกรไทย ชวนผู้ลงทุนเปิดรับโอกาสเกษียณมั่งคั่ง ส่ง K-WORLDXRMF ลุยทำกำไรตามดัชนีหุ้นโลก — บลจ.กสิกรไทย สร้างทางเลือกการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ เปิดตัวกองท...

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี รับร... KFDNMRMF คว้ารางวัลกองทุนยอดเยี่ยมจาก Morningstar Awards 2025 — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมจาก Morningstar Awards for In...