“พรีเมียร์ โพรดักส์” เคาะช่วงราคาขาย IPO 4.96 – 5.00 บาท/หุ้น

กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--IR PLUS

บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ เคาะกรอบราคาขายหุ้น IPO ที่ 4.96 – 5.00 บาท/หุ้น พร้อมได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนเรียบร้อยแล้ว ประเมินตั้งราคาจูงใจหวังเอาใจผู้ถือหุ้นใหม่ หลังธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ด้าน “สุรเดช บุณยวัฒน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มั่นใจปีนี้ PPP โชว์ผลงานโดดเด่นหลังรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ครบทั้ง 3 โครงการ นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมระดับแนวหน้าของประเทศไทย ในกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ เปิดเผยว่า ได้กำหนดช่วงราคาขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (IPO) ของ บริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 82.5 ล้านหุ้นแล้ว ในช่วงราคาเสนอขายหุ้นละ 4.96 – 5.00 บาท โดยบริษัทฯ ได้รับการอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนจากสำนักงาน ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้การตั้งราคาดังกล่าวเมื่อเทียบกับ P/E ปัจจุบันของบริษัทจดทะเบียนและหมวดธุรกิจที่นำมาเปรียบเทียบ จะมีส่วนลดประมาณ 20% ซึ่งจะมีการสำรวจความต้องการซื้อหุ้นจากนักลงทุน (Book Building) โดยราคาขายสุดท้ายจะอยู่ที่ผลการ Book Build ของนักลงทุนสถาบัน ทั้งนี้ P/E ของบริษัทฯ จะปรับลงได้อีกมากจากการเติบโตของผลประกอบการในปีนี้ที่มีแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดดจากปีก่อนอย่างชัดเจน จากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเติมในโครงการที่ 2 และ 3 ซึ่งมีขนาดโรงละ 5 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ภายในต้นไตรมาส 2 ปี 2556 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บริษัทฯ มีรายได้เติบโตอย่างโดดเด่นในปีนี้ และสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวต่อเนื่อง “เรากำหนดช่วงราคาขายหุ้น IPO ที่ระดับราคา 4.96 – 5.00 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาเหมาะสมและมีส่วนลดให้กับนักลงทุนในระดับที่น่าพอใจ หากพิจารณาจากผลประกอบการในงวด 9 เดือนที่ผ่านซึ่งมีรายได้เติบโตกว่าร้อยละ 55 ในขณะที่กำไรเติบโตกว่าร้อยละ 77 จากงวดเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจหลักของบริษัทคือธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ด้านระบบบำบัดน้ำเสียและระบบสำรองน้ำ และกลุ่มธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรม มีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่สดใส ประการสำคัญ ในปีนี้บริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ได้ทั้ง 3 โรง ซึ่งคาดว่าจะสะท้อนให้ P/E ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับประโยชน์อย่างชัดเจน และจะให้ การตอบรับต่อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) เป็นอย่างดี” นางสาวพัชพรกล่าว นายสุรเดช บุณยวัฒน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เชื่อว่ากรอบราคาหุ้น IPO ที่กำหนดในครั้งนี้จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จูงใจให้หุ้นของ บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เพราะกำหนดไว้ที่ P/E ที่เหมาะสมและให้มีส่วนลดให้กับนักลงทุนในระดับที่น่าสนใจ ในขณะที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างโดดเด่นในปีนี้ จากการรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าครบทั้ง 3 โครงการ และแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจหลักอีก 3 กลุ่มธุรกิจที่ยังมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นายสุรเดช กล่าวอีกว่าข้อเท็จจริงนี้เห็นได้จากผลประกอบการในงวด 9 เดือนแรกของปี2555 บริษัทฯ มีรายได้ 993.51 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 640.46 ล้านบาท และเทียบกับปี 2554 ทั้งปีที่มีรายได้ 916.14 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าเพียง 9 เดือนแรกของปี 2555 บริษัทฯก็สามารถสร้างรายได้ได้สูงกว่าปี 2554 ทั้งปี ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตที่โดดเด่นของรายได้ในปี 2555 และต่อเนื่องไปถึงปี 2556 ที่บริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีก 2 โครงการด้วย ข้อมูลบริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ ดำเนินธุรกิจใน 4 กลุ่มหลัก โดยมี 2 ธุรกิจดำเนินการ ภายใต้ บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ด้านระบบบำบัดน้ำเสียและระบบสำรองน้ำ และกลุ่มธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง และอุตสาหกรรม ในขณะที่อีก 2 กลุ่มธุรกิจจะดำเนินการโดยบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ ธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติในการประหยัดพลังงาน ดำเนินการโดยบริษัท พรีเมียร์ โฮม แอพพลายแอนซ์ จำกัด (PHA) และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ดำเนินการโดย บริษัท อินฟินิท กรีน จำกัด (IGC) ซึ่งธุรกิจทั้งหมดเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทนซึ่งถือเป็นธุรกิจแห่งอนาคตที่อยู่ในความสนใจของทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการดูแลโลกและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ธุรกิจจึงมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันธุรกิจระบบบำบัดน้ำเสียและระบบสำรองน้ำของบริษัทฯ ถือเป็นผู้นำในตลาด ที่ใช้ในอาคาร โดยบริษัทฯ ได้รับเลือกให้เป็นผู้ติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียในอาคารขนาดใหญ่ชั้นนำมากมาย อาทิ ธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ธนาคารแห่ง ประเทศไทย มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตและอาคารที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่นเรศวร และอาคารที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ ในขณะที่ในธุรกิจผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรม ปัจจุบันถือเป็นผู้นำใน ตลาดผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากซีเมนต์เสริมใยแก้ว และผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์กลาสเสริมแรง โดยได้รับ การยอมรับจากกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสถาปนิกในวงกว้าง ไว้วางใจใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ในโครงการสำคัญมากมายหลายโครงการไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ผลิตจากซีเมนต์เสริมใยแก้ว (Glass Reinforced Cement: GRC) ได้แก่ การทำผนังกันเสียงให้กับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีแดง ทางยกระดับสะพานพระราม 8 ทางยกระดับสะพานกรุงเทพ และผลิตภัณฑ์หลังคาและผนังเหล็กขึ้นรูป ซึ่งใช้ติดตั้งหลังคาของศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อาคารคลังเก็บสินค้าของ บมจ. ท่าอากาศยานไทย ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จในธุรกิจและการยอมรับจากกลุ่มผู้ประกอบการเป็นอย่างดี ด้านธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งดำเนินการโดย บริษัท อินฟินิท กรีน จำกัด (IGC) มีทั้งหมด 3 โครงการ ซึ่งมีขนาดโครงการละ 5 MW รวม 15 MW ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยโครงการแรกได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว และ PPP เริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่เดือนเมษายน 2555 ตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผ่านมา และคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการที่ 2 และ 3 เพิ่มเติมได้ภายในต้นไตรมาส 2 ปี 2556 โดยจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บริษัทฯ มีรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีนี้ และสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวต่อเนื่อง ด้านธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทประหยัดพลังงาน ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท พรีเมียร์ โฮม แอพพลายแอนซ์ จำกัด (PHA) ในอนาคตมีทิศทางการเติบโตอย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่รองรับกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่กำลังมาแรงทั้งในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังสามารถใช้ประโยชน์จากช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งของ PHA โดยนำสินค้าประเภทประหยัดพลังงานอื่นๆ เช่น หลอดไฟฟ้าประหยัดพลังงาน อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน อุปกรณ์ที่ใช้ควบคู่กับแผงพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใช้ตามบ้าน (Solar Roof Top) เข้ามาจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าพันธมิตรที่มีอยู่ประมาณ 500 แห่งทั่วประเทศได้อีกด้วย และในปีนี้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตก้าวอย่างกระโดดต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาได้ทั้งกลุ่มธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทน สำหรับผลประกอบการในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวม 993.51 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมร้อยละ 50 กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรมร้อยละ 31.07 กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ร้อยละ 3.75 กลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงานร้อยละ 14.30 และรายได้อื่นๆ ร้อยละ 0.88 เทียบกับงวด 9 เดือนแรกของปี 2554 ที่มีรายได้ 640.46 ล้านบาท และรายได้ 916.14 ล้านบาทในปี 2554 โดยในปี 2555 บริษัทฯ คาดว่ารายได้จะเติบโตได้อย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากเพียง 9 เดือนแรกของปีบริษัทฯ สามารถทำรายได้สูงกว่าปี 2554 ทั้งปีแล้ว ทั้งนี้ บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท แบ่งเป็นทุนชำระแล้ว 217.50 ล้านหุ้น ส่วนที่เหลือ 82.50 ล้านหุ้น ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) โดยเงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO ในครั้งนี้จะนำมาลงทุนเพิ่มในธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการเติบโตในอนาคต ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : IR PLUS คุณสารภี สายะเวส (จูน) โทร. 02-541-4011 ต่อ 613 email : [email protected] www.irplus.in.th พัชพร สรรคบุรานุรักษ์ สุรเดช บุณยวัฒน -กภ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์+พัชพร สรรคบุรานุรักษ์วันนี้

บี.กริม เพาเวอร์ กดปุ่ม COD โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 14 เมกะวัตต์ ในประเทศญี่ปุ่น รุกขยายพอร์ตพลังงานทดแทนทุกภูมิภาคทั่วโลก มุ่งสู่เป้าหมาย Net-Zero

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท Odakura Kuchinashi Solar Park LLC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ Lohas ECE Spain Gifu Co., Ltd. ถือหุ้น 100% ประกาศเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน กำลังการผลิตติดตั้ง 14 เมกะวัตต์ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่นิชิชิราคาวะ จังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับบริษัท

TMI จับมือ บริษัท เจียมพัฒนาพลังงาน อินเต... TMI จับมือ "เจียมพัฒนาพลังงานฯ" รุกยุโรป ลุยธุรกิจ "โซลาร์ฟาร์ม" กำลังผลิต 130 MW — TMI จับมือ บริษัท เจียมพัฒนาพลังงาน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ลงนาม MOU ...

TMI จับมือ "เจียมพัฒนาพลังงานฯ" รุกยุโรป ลุยธุรกิจ "โซลาร์ฟาร์ม" กำลังผลิต 130 MW

TMI จับมือ บริษัท เจียมพัฒนาพลังงาน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ลงนาม MOU พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) กำลังการผลิต 130 เมกะวัตต์ ในทวีปยุโรป มูลค่าเงินลงทุน 4,000-5,000 ล้านบาท...

จีนผลักดันโครงการโซลาร์เซลล์ในทะเลทราย หนุนรายได้เกษตรกร

ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของสำนักข่าวซินหัวสาขามองโกเลียใน เมื่อมองจากมุมสูง โซลาร์เซลล์สีฟ้าจำนวน 196,000 แผง ก่อตัวกันเป็นรูปม้าที่กำลังวิ่งฝ่าทะเลทรายคูปู้ฉี เมื่อเดินชมรอบ ๆ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านไฉเติงของ...

บริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) น... พรีเมียร์ โพรดักส์ สร้างปรากฏการณ์ในงาน SETA 2024 เปิดตัวนวัตกรรมพลังงานสะอาดล้ำสมัย — บริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) นำโดยคุณ ธิติพัทธ์ อดิลักษณ...