ซีพีเอฟ ร่วมลดโลกร้อน นำผลิตภัณฑ์กว่า 100 รายการ รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์

14 Mar 2013

กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--ซีพีเอฟ

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ ภาวะโลกร้อน ที่ส่งผลต่อสภาพภูมิอากาศแปรปรวนในปัจจุบัน เดินหน้าโครงการ “คาร์บอนฟุตพริ้นท์” อย่างต่อเนื่อง ร่วมรณรงค์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สู่การบริหารจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ล่าสุด ผลิตภัณฑ์จากซีพีเอฟและธุรกิจอาหารในเครือซีพี ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์แล้วทั้งสิ้น 133 รายการ ครอบคลุมสินค้าที่จําหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ตอบรับการก้าวสู่ “ครัวของโลก” ที่ยั่งยืน

นางสาวกุหลาบ กิมศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สำนักระบบมาตรฐานสากล บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า “ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการที่หลากหลาย หนึ่งในโครงการที่ซีพีเอฟได้รณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง ก็คือ การจัดทําฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ โดยได้พัฒนาบุคลากรในองค์กรให้มีความเชี่ยวชาญจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทวนสอบคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของอบก. และใช้โปรแกรมสําเร็จรูปด้าน Life-cycle assessment (LCA) ที่ทันสมัยในการคํานวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จึงมั่นใจได้ว่าผลการคํานวณมีความถูกต้องแม่นยํา โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ ผลิตภัณฑ์ทุกรายการที่จัดทําฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้รับการขึ้นทะเบียนจากอบก. ซึ่งในปัจจุบัน ซีพีเอฟและธุรกิจอาหารในเครือซีพี มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ทั้งสิ้น 133 รายการ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์กลุ่ม เนื้อสด ผลิตภัณฑ์แปรรูป และอาหารพร้อมบริโภคที่ ผลิตจาก ไก่ กุ้ง และสุกร เช่น เกี๊ยวกุ้ง ไก่ย่างเทอริยากิ ไก่สดซีพี เป็นต้น ครอบคลุมสินค้าที่จําหน่าย ทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทฯ เตรียมขยายโครงการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อมุ่งลดภาวะโลกร้อนและพร้อมปรับตัวสู่การดำเนินธุรกิจแบบคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Economy) ในอนาคต ทั้งยังแสดงความตั้งใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”

ปัจจุบันแนวโน้มของผู้บริโภคให้ความสำคัญกับฉลากคาร์บอนมีสูงขึ้น การผลิตสินค้าที่มีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตในระดับต่ำ เพื่อแสดงความร่วมมือในการลดภาวะโลกร้อน จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากองค์กรผู้ผลิตและผู้บริโภค นอกจากจะส่งผลให้ผู้ผลิตหันมาใส่ใจต่อกระบวนการผลิตที่ลดการใช้พลังงานและดูแลสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้นแล้ว ยังเป็นแรงจูงใจสำหรับผู้บริโภคในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีส่วนร่วมในการลดภาวะโลกร้อน

ซีพีเอฟ ได้เข้าร่วมโครงการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ตั้งแต่ปี 2551 ตามมาตรฐานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของ สหราชอาณาจักร (PAS : 2050) ซึ่งผลิตภัณฑ์ในโครงการ คือ Chicken Snack” จําหน่ายใน เทสโก้ ต่อมาในปี 2552 ได้เข้าร่วมโครงการนําร่องกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก(อบก.) ซึ่งนับเป็นผู้ผลิตไก่รายแรกของโลกที่ได้ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์-กภ-