PYLON มั่นใจผลงานปีนี้ธุรกิจสดใสตามภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างงานฐานรากเสาเข็มเจาะที่มีทิศทางเติบโตดี ปัจจุบันตุน Backlog ในมือแล้วกว่า 1,200 ลบ. แถมอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานใหม่เพิ่มอีก 1,200 ลบ. ด้านแม่ทัพใหญ่ “บดินทร์ แสงอารยะกุล” แย้มงานเติบโตมากจากการขยายฐานลูกค้า จำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิต พร้อมตั้งงบลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่มอีก 60 ลบ. จึงมั่นใจเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 1,200 ลบ. ได้สำเร็จ
นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานรากชั้นนำในประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมก่อสร้าง งานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) ในปีนี้จะมีทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา จากการเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐและภาคเอกชนหลายโครงการ ส่งผลให้งานในตลาดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) ที่รับรู้รายได้อยู่แล้วราว 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นงานฐานรากประเภทเสาเข็มเจาะมูลค่า 630 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ และงานก่อสร้างมูลค่า 570 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ 70% ของมูลค่างานดังกล่าวภายในปี 2556 และส่วนที่เหลือทยอยรับรู้รายได้ในปีหน้า นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เข้าประมูลงานใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างรอผลงานประมูลในโครงการที่ยื่นประมูลไปก่อนหน้านี้ มูลค่าราว 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นงานประเภทเสาเข็มเจาะ 700 ล้านบาท งานก่อสร้างอีกมูลค่า 500 ล้านบาท พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายรายปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท จากปี 2555 ที่มีรายได้รวม 1,094.93 ล้านบาท
“ทิศทาง PYLON ปีนี้มีแนวโน้มเติบโตสดใส ตามภาพรวมของอุตสาหกรรมก่อสร้างและงานเสาเข็มเจาะ ในฐานะฝ่ายบริหารเชื่อมั่นว่าจะบริหารงานเพื่อสร้างผลประกอบการที่ดีและสร้างผลตอบแทนต่อนักลงทุนอย่างต่อเนื่องได้ เรามั่นในว่าปีนี้งานก่อสร้างและเสาเข็มกลับมาคึกคักโดยจะเห็นได้จากก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญารับงานก่อสร้างโครงการใหม่เพิ่มเติมรวมแล้ว 11 โครงการมูลค่าราว 279 ล้านบาท ทั้งงานประเภทเสาเข็มเจาะ และงานก่อสร้าง” นายบดินทร์ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทฯ ได้เน้นการขยายฐานลูกค้าทั้งระยะสั้นและระยะยาวซึ่งจะส่งผลดีต่อบริษัทฯ ให้มีฐานลูกค้าที่มั่นคง และลดความผันผวนของรายได้ จึงเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะสนับสนุนให้บริษัทฯ มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีแผนการรองรับงานในปัจจุบันและการเติบโตของงานในอนาคต โดยตั้งงบลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตมูลค่าราว 60 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทยอยลงทุนภายในปี 2556 นี้ โดยปัจจุบันได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรไปแล้วมูลค่า 20 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับอุตสาหกรรมก่อสร้าง งานฐานรากเสาเข็มเจาะที่มีแนวโน้มเติบโตและงานบริษัทฯ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย
สำหรับผลประกอบการปี 2555 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2555) บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการรับจ้างรวม 1,089.93 ล้านบาท มีต้นทุนจากการรับจ้าง 968.71 ล้านบาท (รวมสำรองขาดทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการก่อสร้างของบริษัทย่อย 42.66 ล้านบาท) มีค่าใช้จ่ายในการขาย ค่าใช้จ่ายในการบริหารรวม 52.23 ล้านบาท (รวมการลดลงของค่าปรับงานล่าช้า 5.26 ล้านบาท) ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 7.29 ล้านบาท มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ64.23 ล้านบาท นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นงวดผลประกอบการปี 2555 ทั้งในรูปเงินสดและหุ้นโดยจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล ซึ่งคิดเป็นอัตราเงินปันผลที่ 0.25 บาทต่อหุ้น นอกจากนี้ได้จ่ายเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลรวม 0.28 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียน 22 มีนาคม 2556 และกำหนดจ่ายปันผล วันที่ 17 พ.ค. 2556
“จะเห็นได้ชัดว่าผลงานในช่วง Q4/55 บริษัทฯ สามารถพลิกฟื้นกลับมามีกำไร จากก่อนหน้านี้ขาดทุนในช่วง Q3/55 ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำและการตั้งสำรองต้นทุนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ถือว่าไม่ใช่ช่วงปกติของบริษัทฯ แต่เราก็ได้พิสูจน์ว่าบริษัทฯ สามารถผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่มากระทบและแก้ไขได้เรียบร้อยแล้ว ทำให้ผลงานในปี 55 ที่ออกมาถือว่าน่าพอใจและคาดว่า PYLON จะกลับมามีแนวโน้มเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ตามพื้นฐานของบริษัทฯ ที่แข็งแกร่ง” นายบดินทร์ กล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ ราคาหุ้น PYLON เมื่อปิดตลาดฯ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 7.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 33.36 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้น PYLON-W1 อยู่ที่ 4.14 บาท มูลค่าการซื้อขาย 11.13 ล้านบาท
-กภ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net