ทิสโก้ โชว์ผลงานบริหารกองทุนโดดเด่น ปิดกอง “ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์8%” กองที่ 4 ก่อนกำหนด จ่ายผลตอบแทน 8%

20 Aug 2012

กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป

บลจ.ทิสโก้โชว์ผลงานโดดเด่น บริหาร ““กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% # 4” เข้าเป้าหมายปิดกองก่อนครบกำหนด สร้างกำไรแก่ผู้ถือหน่วย 8.00% ใช้เวลาลงทุนเพียง 2 เดือนเศษ ด้าน TISCO Wealth แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้นภูมิภาคเอเชีย และหุ้นไทย หลังเศรษฐกิจยังขยายตัวดีต่อเนื่อง

TISCO Wealth บริการที่ปรึกษาการเงินการลงทุนครบวงจรจากทิสโก้ โดยนายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Senior Vice President, Head of Marketing and Wealth Advisory Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า จากที่ บลจ.ทิสโก้ ได้ ทำการเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% # 4” ซึ่งมีอายุโครงการประมาณ 8 เดือน โดยเป็นกองทาร์เก็ตฟันด์ที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีเงื่อนไขสามารถเลิกกองทุนก่อนครบกำหนดอายุโครงการ หากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% ขณะนี้กองทุนดังกล่าวสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึงเป้าหมายแล้ว ณ วันที่ 16 สิงหาคม 2555 ทำให้เข้าเงื่อนไขการเลิกโครงการได้ก่อนกำหนด พิสูจน์ความเป็นมืออาชีพในการบริหารจัดการกองทุนของ บลจ.ทิสโก้ ได้เป็นอย่างดี

“ช่วงที่เราเปิดขายกองทุน “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% กองที่ 4” เป็นช่วงที่การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนและปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งสาเหตุมาจากความกังวลของนักลงทุนต่อวิกฤติในยุโรป แต่ด้วยภาพรวมของเศรษฐกิจไทยที่มีความแข็งแกร่ง ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังมีการเติบโตที่สูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นไทยจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และเป็นโอกาสของนักลงทุนในการเข้าลงทุนในหุ้นที่ราคาถูกเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมาย ซึ่งก็เป็นไปตามที่ได้คาดไว้ ทำให้เราสามารถปิด “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% กองที่ 4” ได้ก่อนครบกำหนด และสร้างกำไรให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ถึงเป้าหมายที่ 8.00% โดยใช้เวลาเพียง 2 เดือนเศษ“

ด้าน TISCO Wealth มองว่า Valuation ของตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในระดับที่น่าสนใจมากสำหรับการลงทุนในระยะยาว โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่นับรวมญี่ปุ่น) เป็นภูมิภาคที่น่าสนใจลงทุนมากที่สุด เพราะเศรษฐกิจมีการเติบโตดีที่สุดในโลก และราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ถือว่าเป็นระดับที่น่าสนใจลงทุน ขณะที่ตลาดหุ้นไทย ก็นับว่ายังคงมีความน่าสนใจลงทุนเช่นกัน แม้ว่าดัชนีจะปรับตัวสูงขึ้นมาเกินระดับ 1200 จุดก็ตาม เพราะเศรษฐกิจไทยยังมีการขยายตัวที่ดี ทำให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือที่ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 633 6000 กด 4

สื่อมวลชนสอบถามรายละเอียดได้ที่

ฝ่ายนิเทศสัมพันธ์ บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป โทร.02 633 6906

-นท-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net