กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
กสิกรไทย ร่วมกับ บสย.และมหาวิทยาลัยมหิดล จัดโครงการ “สนับสนุนผู้ประกอบการมือใหม่ ให้ไปไกลเกินฝัน” เพิ่มวงเงินสินเชื่อด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อลดข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน พร้อมเติมองค์ความรู้เชิงลึกสำหรับการเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่แบบยั่งยืน ตั้งเป้าสนับสนุนผู้ประกอบการมือใหม่ภายในปีนี้กว่า 2,300 ล้านบาท
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากสถิติผู้ประกอบการเอสเอ็มอีใหม่ของไทยมีประมาณ 50,000 รายต่อปี ซึ่งพบว่ามีธุรกิจที่สามารถดำเนินกิจการอยู่รอดเกิน 3 ปีได้ไม่ถึงครึ่ง โดยปัญหาหลักอยู่ที่ไม่มีประสบการณ์ในการจัดการธุรกิจ การขาดสภาพคล่องทางการเงิน และขาดองค์ความรู้ จากปัญหาดังกล่าวธนาคารกสิกรไทย จึงได้ออกบริการสนับสนุนธุรกิจเริ่มต้นกสิกรไทย (K-SME Start-up Solutions) เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนเอสเอ็มอีใหม่ทั้งในด้านการเงินและองค์ความรู้อย่างครบวงจร ซึ่งได้รับผลตอบรับอย่างดี มีสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการกว่า 70,000 ราย
ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และมหาวิทยาลัยมหิดล เปิดโครงการ “สนับสนุนผู้ประกอบการมือใหม่ ให้ไปไกลเกินฝัน” เป็นโครงการต่อเนื่อง ที่มีเป้าหมายช่วยเหลือด้านเงินทุนแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีใหม่ให้เพียงพอต่อความต้องการ ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ซึ่งจะช่วยลดข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน พร้อมเพิ่มเติมองค์ความรู้เชิงลึกที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ให้ประสบความสำเร็จแบบยั่งยืน
ทั้งนี้ บสย. จะเข้ามาช่วยค้ำประกันสินเชื่อให้แก่เอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโครงการด้วยการค้ำประกันพอร์ตในการปล่อยสินเชื่อไม่เกิน 7 ปี โดยจัดรูปแบบการให้สินเชื่อออกเป็น 2 ประเภท คือ แบบมีหลักประกัน ด้วยวงเงินสูงสุด 4 ล้านบาท ที่อัตราดอกเบี้ย MRR+3% และแบบไม่มีหลักประกัน ด้วยวงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท ที่อัตราดอกเบี้ย MRR+5%
นอกจากนั้น ธนาคารยังได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยมหิดล ในการจัดหลักสูตรอบรมเชิงลึกสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายใหม่ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำเงินทุนที่ได้ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดำเนินธุรกิจให้แข่งขันการคู่แข่งได้
ด้านนายวิบูลย์ เพิ่มอารยวงศ์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า หนึ่งในปัญหาหลักที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมือใหม่ไปไม่รอดก็คือ เรื่องการจัดการด้านการเงินและการหาแหล่งเงินทุนที่ไม่สามารถเข้าถึงสถาบันการเงินได้ง่าย เนื่องจากไม่มีประสบการณ์ ถือว่ามีความเสี่ยงในการทำธุรกิจค่อนข้างสูง บสย. จึงเข้ามาเป็นตัวกลางในการค้ำประกันสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการใหม่ เพื่อให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้สามารถขอสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ได้ง่ายขึ้น และได้วงเงินของสินเชื่อที่เพียงพอต่อความต้องการ ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการใหม่สามารถตั้งต้นธุรกิจและดำเนินธุรกิจให้อยู่รอดได้อย่างแข็งแกร่งขึ้น ศาสตราจารย์ ดร.รัศมีดารา หุ่นสวัสดิ์ คณบดี วิทยาลัยการจัดการ มหาวิยาลัยมหิดล กล่าวเพิ่มเติมว่า องค์ความรู้พื้นฐานสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ที่ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้เข้ามาช่วยจัดหลักสูตรการอบรมเชิงรุก จะเน้นไปที่การบริหารใน 5 แกนหลักซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการประกอบธุรกิจ คือ 1.หลักสูตรการวางแผนธุรกิจให้อยู่ได้ใน 3 ปี 2.หลักสูตรผู้ประกอบการใหม่กับความคิดสร้างสรรค์ 3.กลยุทธ์การทำการตลาดในยุคนี้ให้ถึงใจผู้บริโภค 4.การทำบัญชีอย่างง่ายที่ผู้ประกอบการใหม่ควรรู้ และ 5.เคล็ดลับในการขอสินเชื่อ โดยในปี 2555 นี้ทางโครงการฯ จะจัดการอบรม 2 รุ่น คือ ในช่วงเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายน ซึ่งแต่ละรุ่นจะเป็นการเข้าอบรม 2 วันเต็ม สามารถรับผู้เข้าอบรมได้ประมาณรุ่นละ 50 คน
นายพัชร กล่าวในตอนท้ายว่า โครงการ “สนับสนุนผู้ประกอบการมือใหม่ ให้ไปไกลเกินความฝัน” จะช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการได้อีกอย่างน้อย 1,700 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อประมาณ 850 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินที่ธนาคารเตรียมไว้เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีเริ่มต้นธุรกิจใหม่กว่า 2,300 ล้านบาท
-กผ-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit