นักวิเคราะห์ทองคำ บริษัท จีแคป จำกัด วันนี้ มองว่าอาจจะโดนแรงเทขายได้ตลอดเวลา จึงควรรอซื้อที่แนวรับ กรอบ 1608-1603 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐต่อออนซ์ เมื่อราคาปรับตัวอ่อนหากราคาปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับแนวรับ ระหว่าง 1,610 – 1,608 และ 1,603 ดอลลาร์ / ทรอยออนซ์ และให้ราคาจังหวะขายทำกำไรหากราคาปรับตัวแตะที่ระดับแนวต้าน 1,628 – 1,630 และ1,635 ดอลลาร์ / ทรอยออนซ์
สำหรับปัจจัยที่ต้องจับตาคือ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิด เผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของสหรัฐขยายตัว 1.5% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวราว 1.4% หลังจากที่ขยายตัว 1.9% ในไตรมาสแรก อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของจีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐถือเป็นการขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในอัตรา 1.3% ในไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว เนื่องจากชาวอเมริกันปรับลดการใช้จ่ายลงอย่างมาก ซึ่งการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจอาจ หยุดชะงักเป็นเวลา 3 ปีหลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยสิ้นสุดลง สาเหตุหลักที่ทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอเป็นเพราะการใช้จ่ายผู้ บริโภคที่ช้าลง โดยมีอัตราการเติบโตเพียง 1.5% ซึ่งลดลงจากระดับ 2.4% ในไตรมาสแรก โดยชาวอเมริกันจับจ่ายซื้อสินค้าในกลุ่มยานยนต์ คอมพิวเตอร์ และสินค้าการผลิตที่มีอายุการใช้งานยาวนานน้อยลง แต่เพิ่มการจับจ่ายซื้อสินค้าการบริการเพิ่มขึ้น ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐลดลงในอัตรา 1.4% ต่อปีในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับระดับ 3% ในไตรมาสแรก การขยายตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภคที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 2% นั้นไม่เพียงพอที่จะลดอัตราว่างงานของสหรัฐที่อยู่ในระดับ 8.2% ในเดือนที่แล้วได้ และนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไม่คิดว่าการขยายตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภคจะ กระเตื้องขึ้นมากนักในไตรมาส 2 ของปีนี้ ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่าวิกฤตการเงินในยุโรป และวิกฤตงบประมาณในสหรัฐอาจฉุดรั้งการลงทุนภาคธุรกิจให้ทรุดตัวลงอีก นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า อัตราการขยายตัวของจีดีพีสหรัฐจะชะลอตัวลง อันเป็นผลมาตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง ซึ่งส่งผลให้ชาวอเมริกันลดการใช้จ่าย โดยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 70% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐนั้น ชะลอตัวลง อันเนื่องมาจากวิกฤตหนี้ยุโรป และการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุนในภาคเอกชน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีสหรัฐในปีนี้ลงมาอยู่ที่ระดับ 1.9-2.4% เทียบกับที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ 2.4-2.9% พร้อมกับคาดการณ์ว่า อัตราว่างงานจะยืนอยู่ที่ 8-8.2% ในปี 2555 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ระดับ 7.8-8%
แนวโน้มระยะสั้น
หลังจากเมื่อคืนวันศุกร์ ที่ผ่านมาสัญญาณทองคำเริ่มมีแรงเทขายออกมาระยะสัน ๆ ทางเทคนิค Bearish แต่มีแรงไล่ซื้อกลับเข้ามาเมื่อช่วงท้ายตลาด ทำให้ราคาปรับตัวขึ้นไปอีกรอบ จากการประกาศตัวเลข GDP ที่ออกมาไม่ค่อยดีส่งสัญญาณให้สกุลเงินดอลล่าร์อ่อนค่าร่วงลงมาอีกครั้ง พร้อมกับการมีแรงใล่ซื้อกลับในฝั่ง ทองคำ และสินค้าโภคภัณท์ สำหรับวันนี้ สัญญาณ Bearish Divergence ยังคงปรากฎอยู่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าราคาพร้อมที่จะโดนแรงเทขายอีกครั้ง ให้ระมัดระวังการเข้าซื้อในช่วงนี้ และเป็นแรงเทขายเพื่อพักฐานย่อย ๆ เพื่อขึ้นต่อ
แนวโน้มระยะกลาง
ระยะกลางทองคำยังคงอยู่ในโซนขาลง หลังจากพยามยามขึ้นไปทดสอบแนวต้านแล้ว ไม่สามารถทะลุไปได้ ทำให้เกิดแรงเทขายออกมาเป็นระยะ ฉะนั้นในช่วงนี้จึงควรจะเล่นในกรอบแนวรับแนวต้านในแต่ระวันไปก่อน รอความชัดเจนเรือ่งการกลับตัวอีกครั้ง ระยะกลางมองกรอบแนวรับที่ 1570-1630 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์
แนวโน้มระยะยาว
สำหรับระยะยาวนั้น เทรนด์รายปี ยังคงมีมุมมองที่เป็นขาขึ้นอยู่ แต่จากการปรับฐานใหญ่ครั้งนี้ ทำให้การซื้อขายเริ่มชลอตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจ ที่ซบเซาทางด้านฝั่งยุโรป และคอยติดตามเรื่องนโยบายการเงินของสหรัฐอเมริกาเป็นแนวทางในการตัดสินใจ ระยะนี้ ชลอการลงทุนออกไปก่อน ให้รอซื้อเมื่อราคาปรับตัวอ่อนค่าลง มองกรอบที่น่าเข้าซื้อ 1520-1600 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์
อย่างไรก็ตาม ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ ปรับตัวอ่อนค่าลงมามางเทคนิค จากแรงเทขายทำกำไร โดยการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence โดยกรอบแนวรับของDollar ในรอบนี้อยู่ที่ 82.0 อาจจะเป็นแรงผลักดันให้ทองคำยังคงเล่นกรอบเหนือ 1600 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ/ออนซ์ ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดย : บริษัท มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด
ในนาม บริษัท จีแคป จำกัด: รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
โทร: 02-664-4233 Fax: 02-664-4232
E-mail: media -
[email protected]
-นท-