กกพ.โชว์แนวทางการดำเนินงานปี 2556 – 2560 เน้นกำกับเชิงรุก เพื่อก้าวเข้าสู่ AECพร้อมเผยผลงาน 5 ปีที่ผ่านมา

กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--คิธ แอนด์ คินฯ

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เผยแนวทางการดำเนินงานปี 2556-2560 เน้นกำกับกิจการพลังงานเชิงรุก ยึดหลักทุกภาคส่วนได้ประโยชน์สูงสุด พร้อมปรับหลักการแนวทางดำเนินการเทียบเท่าระดับสากล เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เปิดเผยถึงแผนยุทธศาสตร์การกำกับกิจการพลังงาน พ.ศ.2556 – 2560 ว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กกพ.มุ่งเน้นวางรากฐานให้การกำกับกิจการพลังงานของประเทศมีความมั่นคง ยั่งยืน รองรับกับนโยบายด้านพลังงานของภาครัฐ โดยในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ไป กกพ. จะเน้นการทำงานในเชิงรุกให้มากขึ้น โดยจะพัฒนาระบบการตรวจสอบการประกอบกิจการพลังงาน และนำผลการตรวจสอบมาวิเคราะห์ เพื่อปรับปรุงการกำกับกิจการพลังงานให้มีประสิทธิภาพ ในหลากหลายมิติ เพื่อให้การกำกับกิจการพลังงานสามารถดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งประชาชน ผู้ประกอบกิจการพลังงาน รวมถึงสังคม และประเทศไทย ให้ได้รับความเป็นธรรม และประโยชน์สูงสุดจากการดูแลและกำกับกิจการพลังงาน และเพื่อให้โรงไฟฟ้าและชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน โดยในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ไป (พ.ศ.2556 – 2560) กกพ. จะทำงานภายใต้ยุทธศาสตร์การกำกับกิจการพลังงาน 4 ด้าน ประกอบด้วย 1. การเสริมสร้างมาตรฐานการกำกับดูแล และกิจการพลังงานต้องเป็นธรรมและเชื่อถือได้ โดย กกพ. จะทำให้อัตราค่าบริการพลังงานสะท้อนต้นทุนอย่างแท้จริง และเป็นธรรมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกส่วน ตลอดจนส่งเสริมให้มีบริการไฟฟ้าอย่างเพียงพอและทั่วถึงในทุกภูมิภาค “ หลังจากนี้สิ่งที่ กกพ.จะเร่งดำเนินการ คือ ขยายการให้บริการไฟฟ้าสำหรับประชาชน ไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของประเทศทั้ง 76 จังหวัด จะต้องมีไฟฟ้าได้ใช้อย่างทั่วถึง ในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรมรวมถึงชุมชนที่อยู่รอบโรงไฟฟ้า ต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกๆด้าน ทั้งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การศึกษา และสาธารณสุข โดยต้องได้รับการดูแลและเยียวยาจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ในขณะที่ผู้ประกอบการต้องได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม เพื่อที่จะมีศักยภาพที่จะพัฒนาและผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อป้อนให้กับประเทศ ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องสำหรับใช้ในการดำเนินชีวิต และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป ” ดร.ดิเรก กล่าว นอกจากนี้ กกพ. ลดขั้นตอน และอำนวยความสะดวกในงานการออกใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงาน ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงการทบทวนปรับปรุงกระบวนการและระเบียบ ประกาศ และเงื่อนไขการอนุญาตให้มีมาตรฐาน และสามารถตรวจสอบได้ โดยได้ตั้งเป้าหมายจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2558 2. ส่งเสริมกิจการพลังงานให้มีประสิทธิภาพ และเสริมสร้างการแข่งขันที่เป็นธรรม โดยงานสำคัญลำดับแรก ๆ ได้แก่ การประมูล IPP 5,400 เมกะวัตต์ที่ใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งคาดว่าเกณฑ์การประมูลจะสามารถประกาศได้ในช่วงปลายปีนี้ เพื่อให้มีการเปิดการยื่นซองประมูลได้ในช่วงต้นปีหน้า ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (Power Development Plan - PDP) ซึ่งก็จะรวมถึงการปรับปรุงหลักเกณฑ์และกระบวนการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนรายใหญ่ (IPP) ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก(SPP) และผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียนขนาดเล็กมาก (VSPP) และแผนการพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (Alternative Energy Development Plan - AEDP) ซึ่งสิ่งสำคัญของการประมูลครั้งนี้ คือ โครงการดังกล่าวจะต้องผ่านความเห็นชอบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชนในพื้นที่ด้วยเพื่อป้องกันความเสี่ยงเรื่องการก่อสร้างไม่ได้ในอนาคต ควบคู่ไปกับการส่งเสริมกิจการพลังงานให้มีประสิทธิภาพ และเสริมสร้างการแข่งขันที่เป็นธรรม นอกจากนี้ กกพ. จะส่งเสริมการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายพลังงานระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ ASEAN Power Grid (APG) หรือ Trans ASEAN Gas Pipelines (TAGP) เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 3. คุ้มครองสิทธิของผู้ใช้พลังงาน ผู้มีส่วนได้เสีย โดย กกพ. จะมีแผนยุทธศาสตร์การคุ้มครองสิทธิผู้ใช้พลังงาน เพื่อสร้างการยอมรับและเน้นความเป็นธรรม พร้อมพัฒนาศักยภาพของคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต (คพข.) หนึ่งในกลไกการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมภาคประชาชน โดยให้ความรู้ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการให้ความคุ้มครองผู้ใช้พลังงานในแต่ละพื้นที่ รวมถึงจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยชุมชนที่อยู่รอบโรงไฟฟ้า ต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกๆด้าน ทั้งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การศึกษา และสาธารณสุข โดยต้องได้รับการดูแลและเยียวยาจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าอย่างทั่วถึง 4. พัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศ โดยจะดำเนินงานให้สอดคล้องกับเกณฑ์รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ(Public Sector Management Quality Award - PMQA) และการจัดการองค์กรสู่ความเป็นเลิศ (Thailand Quality Award - TQA) เพื่อบริหารจัดการองค์กรตามเกณฑ์มาตรฐานสากลภายในปี 2560 และทบทวนและพัฒนาระบบฐานข้อมูลต่างๆให้เป็นศูนย์ความรู้และข้อมูลด้านพลังงาน ภายในปี 2560 ด้านนายกวิน ทังสุพานิช เลขาธิการ สำนักงาน กกพ. กล่าวถึงการดำเนินงานของ สำนักงาน กกพ.ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้กำกับกิจการพลังงานเพื่อให้เกิดความมั่นคงทั้งการออกใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงานรวมทั้งสิ้น 1,240 ฉบับ แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้า 519 ฉบับ ใบอนุญาตประกอบกิจการก๊าซธรรมชาติ 14 ฉบับ ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน 283 ฉบับ และใบอนุญาตผลิตพลังงานควบคุม 424 ฉบับ ขณะเดียวกัน ได้ปรับปรุงโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าของประเทศไทยสำหรับปี พ.ศ.2554-2558 โดยกำหนดหลักเกณฑ์การกำหนดโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับปี 2554-2558 สอดคล้องกับนโยบายที่คณะกรรมการนโยยายพลังงานแห่งชาติ โดยใช้หลักการต้นทุนหน่วยสุดท้าย (Marginal Cost) เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งจะแบ่งต้นทุนของกิจการไฟฟ้าตามประเภทใบอนุญาตการประกอบกิจการไฟฟ้า 5 ประเภท โดยได้กำหนดอัตราค่าไฟฟ้าประเภทเดียวกันเป็นอัตราเดียวกันทั่วประเทศ (Unifrom Tariff) และ กกพ.ได้ประกาศใช้อัตราค่าไฟฟ้าใหม่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2554 เป็นต้นไป เป็นเวลา 2 ปี และ กกพ.ยังได้พิจารณาปรับลดค่าเอฟทีเพื่อลดภาระให้ผู้ใช้พลังงาน โดยนำเงินชดเชยจากการปรับลดการลงทุนที่ต่ำกว่าแผน (Claw Back) ของ 3 การไฟฟ้า และพิจารณามาตรการอื่นๆมาช่วยบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท และให้ กฟผ. รับภาระไปก่อนเป็นการชั่วคราวประมาณ 10,504 ล้านบาท รวมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต (คพข.) ทั้ง 13 เขตทั่วประเทศ จำนวน 143 คน เพื่อดูแลผู้ใช้พลังงานในพื้นที่ให้ได้รับบริการด้านไฟฟ้าที่เป็นธรรม และเหมาะสม นอกจากนี้ ในส่วนของการดำเนินงานด้านกองทุนพัฒนาไฟฟ้า กกพ. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า (คพรฟ.) จนถึงปัจจุบันได้มีการประกาศแล้ว 40 กองทุน และได้เห็นชอบแผนงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 แล้ว จำนวน 37 กองทุน คิดเป็นเงินรวมประมาณ 1,648 ล้านบาททั้งนี้ กกพ.จะเร่งโอนเงินให้กองทุนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ คพรฟ. นำไปดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาชุมชนตามความต้องการของประชาชนรอบโรงไฟฟ้าต่อไป -กผ-

ข่าวคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน+ดิเรก ลาวัณย์ศิริวันนี้

ภาพข่าว: สำนักงาน กปร.และสำนักงานกกพ. ลงนามความร่วมมือเพื่อการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ

สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) โดยนายสุวัฒน์ เทพอารักษ์ เลขาธิการ กปร. และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ. )โดยนายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ลงนามความร่วมมือเพื่อการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ โดยมีนายกวิน ทังสุพานิช เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และนายชัชชัย ภูวิชยสัมฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ร่วมเป็นสักขีพยาน การลงนามในบันทึกข้อตกลงนี้ ในการน้อมนำหลักการพัฒนาตาม

กกพ.ปรับสถานที่ยื่นแบบขอขายไฟฟ้าจาก Solar PV Roofto

กกพ.ปรับสถานที่ยื่นแบบขอขายไฟฟ้าจาก Solar PV Rooftop ในส่วน กฟน. ประเภทอาคารธุรกิจหรือโรงงาน ขนาด 40 เมกะวัตต์ สามารถยื่นได้ที่ กฟน.สำนักงานใหญ่ เพลินจิต เท่านั้น จากเดิมที่ยื่นได้ 18 เขตติดตั้ง ส่วนประเภทอื่นยังคงเดิม ศ.กิตติคุณ ดร.ดิเรก...

กกพ. ออกระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน

กกพ. ออกระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ว่าด้วยการรับซื้อไฟฟ้าจากการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาพ.ศ.2556จำนวน 200 เมกะวัตต์พร้อมประกาศเชิญชวนผู้สนใจจะผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาตั้งแต่ 23 ก.ย.-11ต.ค.56...

กกพ. อนุมัติแผนงานประจำปีงบประมาณ 56 ให้กองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศ 43 กองทุน เป็นเงินกว่า 1,100 ล้านบาท จำนวนกว่า 4,300 โครงการ

ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เห็นชอบแผนงานประจำปี พ.ศ. 2556...

กกพ.สรุปแนวการบริหารจัดการในภาวะฉุกเฉินและแผนซ่อมบำรุง ของ 3 การไฟฟ้า รับมือเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ

กกพ.สรุปแนวการบริหารจัดการในภาวะฉุกเฉินและแผนซ่อมบำรุง ของ 3 การไฟฟ้า หลังเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ 14 จังหวัดภาคใต้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ข้อสรุปแนวทางการกำกับการดำเนินการตามแผนบริหารจัดการ...

เรกูเลเตอร์ หารือ มท.1 แนะกองทุนฯ เร่งฟื้นฟูชุมชนรอบโรงไฟฟ้า

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แนะแนวทางการดำเนินงานกองทุนพัฒนาไฟฟ้า (กองทุนฯ) โดยมุ่งพัฒนาท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ดิเรก ลาวัณย์ศิริ...

เรกูเลเตอร์ หารือ มท.1 แนะกองทุนฯ เร่งฟื้นฟูชุมชนรอบโรงไฟฟ้า

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แนะแนวทางการดำเนินงานกองทุนพัฒนาไฟฟ้า (กองทุนฯ) โดยมุ่งพัฒนาท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ดิเรก ลาวัณย์ศิริ...

เรกูเลเตอร์เปิดซองข้อเสนอด้านเทคนิคประมูลไอพีพี

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ เรกูเลเตอร์ เปิดซองข้อเสนอด้านเทคนิค ในการประมูลรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ หรือ ไอพีพี จากผู้ยื่นซองทั้งหมด จำนวน 9 ราย คาดว่าจะสามารถประเมินข้อเสนอด้านเทคนิคให้แล้วเสร็จได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2556...

กกพ.ประกาศเรียกเก็บค่า Ft ประจำเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2556

กกพ.ประกาศเรียกเก็บค่า Ft ประจำเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2556 เท่ากับ 46.92 สตางค์ต่อหน่วย ลดลง 5.12 สตางค์ต่อหน่วย ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติการประชุมเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2556 เห็นชอบผลการคำนวณค่า Ft ประจำเดือนพฤษภาคม –...

กกพ. อนุมัติแผนงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556

กกพ. อนุมัติแผนงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556ประเดิม 5 กองทุน เป็นเงินกว่า 174 ล้านบาท จำนวน 702 โครงการ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ...