สิงคโปร์--10 ต.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์ / อินโฟเควสท์
ระบบชำระเงินบนมือถือจะเปลี่ยนกลยุทธ์การชำระเงินบนมือถือของธนาคารในอนาคต
สวิฟ (Swiff) ผู้นำระดับโลกที่ริเริ่มระบบรักษาความปลอดภัยทางด้านการค้าบนมือถือ (m-Commerce) ประกาศว่า ระบบชำระเงินผ่านอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย (mPOS) ของบริษัท ได้รับการรับรองมาตรฐาน EMV ระดับ 2 ซึ่งเป็น “มาตรฐานทองคำ” สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยด้านการชำระเงินผ่านบัตร จากนี้ไปธนาคารต่างๆและผู้ขายที่เป็นลูกค้าของธนาคารจะสามารถนำเสนอประสบการณ์การค้ารูปแบบใหม่ ด้วยระบบชำระเงินที่ปลอดภัยและพร้อมใช้ตลอดเวลา
ระบบชำระเงินที่ได้มาตรฐาน EMV หรือที่รู้จักทั่วไปว่ามาตรฐาน chip & pin จะมีความปลอดภัยสูงขึ้น และสามารถแก้ปัญหาด้านการตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกงซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายกังวล ผู้ขายที่ใช้อุปกรณ์และระบบแบบชิปที่ได้มาตรฐาน EMV จะเสียค่าธรรมเนียม interchange fee ในการทำธุรกรรมถูกกว่า ผู้ที่ดูแลการทดสอบและดำเนินการรับรองมาตรฐาน EMV คือบริษัท EMVCo ซึ่งมีเจ้าของร่วมกันคือวีซ่า, มาสเตอร์การ์ด, อเมริกัน เอ็กซ์เพรส และเจซีบี ทั้งนี้ นอกเหนือจากมาตรฐาน EMV แล้ว ระบบของสวิฟยังได้รับการรับรองมาตรฐาน PCI DSS ระดับ 1 ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดสำหรับระบบรักษาความปลอดภัยด้านการชำระเงิน ซึ่งรับรองโดยสภามาตรฐานความปลอดภัยอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (Payment Card Industry Security Standards Council)
“เราสร้างสวิฟจากศูนย์จนสู่จุดสูงสุดอย่างทุกวันนี้ โดยมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนในการยกระดับธนาคารและผู้ขายที่เป็นลูกค้าของธนาคารให้เป็นหัวใจสำคัญของการปฏิวัติระบบรักษาความปลอดภัยทางด้านการค้าบนมือถือ” เจอโรม เคล (Jerome Cle) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งเอสซีซีพี กรุ๊ป (SCCP Group) กล่าว “เรากำลังมุ่งสู่โลกที่ปราศจากเงินสด และระบบรักษาความปลอดภัยก็เป็นหัวใจสำคัญของนวัตกรรมการชำระเงินทั้งหมด เราจึงรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเทคโนโลยีชำระเงินบนมือถือที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน EMV ระดับ 2”
เอริค โฮสต์-โรเนส (Erik Host-Roness) รองประธานบริหารเอสซีซีพี กรุ๊ป กล่าวถึงผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นกับสวิฟว่า “หลังประกาศว่าเราได้รับการรับรองมาตรฐาน EMV ระบบของสวิฟก็เป็นที่ต้องการอย่างมากในหมู่ธนาคารในเอเชียและที่อื่นๆ เนื่องจากธนาคารตระหนักดีว่าระบบการชำระเงินที่ดีขึ้นจะทำให้ลูกค้าภักดีกับธนาคารมากขึ้นและจะช่วยเพิ่มรายได้ด้วย บัดนี้ลูกค้าและผู้ขายจากทุกที่สามารถใช้ระบบชำระเงินรูปแบบใหม่ที่มีความปลอดภัยสูงและมีต้นทุนต่ำในการชำระเงินและรับเงินได้อย่างมั่นใจ”
หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และฟิลิปปินส์ ต่างยอมรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและเดบิตแบบชิปแล้ว “ในฐานะบริษัทระดับโลกซึ่งเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการชำระเงินและมุ่งมั่นนำเสนอบริการเงินตราดิจิตอล (digital currency) ที่รวดเร็ว ปลอดภัย และเชื่อถือได้ให้แก่ลูกค้า วีซ่าจึงสนับสนุนเทคโนโลยีที่ช่วยให้การชำระเงินแบบไม่ต้องใช้เงินสดเป็นที่ยอมรับมากขึ้น และสนับสนุนมาตรฐานความปลอดภัยที่ช่วยให้การชำระเงินมีความปลอดภัยเสมอ” เหว่ย-ฮัน คิม (Wei-Han Kim) ประธานฝ่ายการยอมรับการชำระเงินประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ บริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว “และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รับการรับรองจาก EMVCo ซึ่งจะช่วยให้การชำระเงินด้วยบัตรในภูมิภาคมีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยควบคุมการฉ้อโกงให้อยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไป”
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.goswiff.com
เกี่ยวกับ เอสซีซีพี เพย์เมนท์ เซอร์วิสเซส โฮลดิงส์ (SCCP Payment Services Holdings)
เอสซีซีพี เพย์เมนท์ เซอร์วิสเซส โฮลดิงส์ คือผู้นำระดับโลกที่ริเริ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยทางการค้าบนมือถือ (m-Commerce) บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2553 และนำระบบการรักษาความปลอดภัยในการชำระเงินแบบครบวงจรมาให้บริการแก่ผู้ออกบัตรและร้านค้าทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยีการชำระเงินและการพิสูจน์ตัวตนที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของบริษัท ผู้ขายที่เป็นลูกค้าของสถาบันการเงินต่างๆจึงสามารถใช้ระบบการชำระเงินได้แบบเบ็ดเสร็จในหนึ่งเดียว ทั้งนี้ บริษัทมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ และพร้อมนำเสนอโซลูชั่นด้านการค้าบนมือถือให้แก่ลูกค้าทั้งในเอเชียแปซิฟิก แอฟริกา ยุโรป และอเมริกาเหนือ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอสซีซีพีได้ที่ www.sccpgroup.com
ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อมวลชน
หลิว เจียหมิน (Liu Jiamin) / แอนดรูว์ หว่อง (Andrew Wong)
ICON International Communications
อีเมล: [email protected]
โทร: +65 6220 2623
พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ผู้นำระดับโลกด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ เปิดเผยรายงานการสนองตอบต่อเหตุการณ์ภัยไซเบอร์ระดับโลกจาก Unit 42 ประจำปี 2568 ที่พบว่าปัจจุบันคนร้ายได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ เปลี่ยนจากการใช้มัลแวร์เรียกค่าไถ่และการขโมยข้อมูลแบบเดิม ไปสู่การมุ่งขัดขวางการดำเนินธุรกิจ มีการใช้ AI ช่วยในการโจมตี และอาศัยบุคคลภายในสร้างภัยคุกคาม รายงานฉบับดังกล่าวยังระบุด้วยว่า เกือบครึ่งหนึ่งของเหตุการณ์ความปลอดภัย (44%) มีความเกี่ยวข้องกับเว็บเบราว์เซอร์ เมื่อไม่นานมานี้
ฟอร์ติเน็ต หนุนโครงการบัณฑิตพันธุ์ใหม่ อบรมฟรี "ปัญญาประดิษฐ์สำหรับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์" มอบใบเซอร์นักศึกษาและบุคคลทั่วไป
—
ฟอร์ติเน็ตให้การสนับสนุนหล...
มั่นใจทุกมิติ! ไอคอนสยามผนึกกำลังหน่วยงานภาครัฐ เตรียมพร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้นรับสงกรานต์ 2025 สร้างความเชื่อมั่นสูงสุดแก่ผู้มาร่วมงาน
—
ไอคอนสยาม ร...
สายสีแดง เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์
—
รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เพิ่มมาตรการในด้านการรักษาความปลอดภัยอย...
เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) คว้ารางวัล National Distributor Award จาก Hikvision
—
บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติรับรางวัล Na...
Cloudflare เปิดตัว Cloudflare for AI ชุดเครื่องมือเพื่อปกป้องการใช้ AI เต็มรูปแบบ เหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาด
—
ชุดเครื่องมือที่มีความสามารถในการรักษาความปลอ...
เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Hikvision เสริมแกร่งตลาดโซลูชันความปลอดภัยในประเทศไทย
—
บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ปร...
ฟอร์ติเน็ต จับมือ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ยกระดับทักษะไซเบอร์ซีเคียวริตี้ เพื่อส่งมอบนักศึกษาสาขาวิศวกรรมศาสตร์ระดับคุณภาพ ป้อนตลาด ฟอร์
—
ฟอร์ติเน็ต ผู้...
พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ เปิดตัว Cortex Cloud ระบบรักษาความปลอดภัย บนคลาวด์แบบเรียลไทม์แห่งอนาคต
—
พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ (NASDAQ: PANW) ผู้นำระดับโลกด้...
HPE Aruba Networking เปิดเทรนด์ระบบเครือข่าย (Networking) ที่น่าจับตามองในปี 2025
—
นายประคุณ เลาหกิตติกุล ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย จาก HPE Aruba Network...