บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้งฯมองการลงทุนทองคำสัปดาห์นี้ 1,612-1,678 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ เหตุยังต้องติดตามปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ และไร้มาตรการQE3ที่เป็นรูปธรรมส่งผลนักลงทุนซื้อก่อนเพื่อเก็งกำไรทยอยขายออกตั้งแต่สัปดาห์ก่อน คาดราคามีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,670 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หากไม่หลุดแนวรับ
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์ทองคำ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ GBX กล่าวถึงแนวโน้มราคาทองคำประจำสัปดาห์ว่า (10-13 เม.ย.55) ในสัปดาห์นี้มองกรอบการลงทุนในทองคำ 1,612-1,678 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือประมาณ 23,630-24,590 บาท/บาททองคำ (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนที่ 30.95บาท/ดอลลาร์ ) โดยนักลงทุนสามารถลงทุนในกรอบ เนื่องจากในสัปดาห์นี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประกาศออกมามากนัก อาทิ การประกาศอัตราดอกเบี้ยญี่ปุ่นในวันที่ 10 เมษายน 2555 ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.10% รวมถึงยอดผู้ขอรับสวัสดิการที่จะเห็นตัวเลขในวันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน 2555 ตลอดจนผลผลิตมวลรวมจีนและสุนทรพจน์เบน เบอร์นันเก้ที่จะเกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ 13 เมษายน 2555
ทั้งนี้ ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,670 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือ 24,470 บาท/บาททองคำ หากราคาไม่หลุด 1,612 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือ 23,630 บาท/บาททองคำ
ส่วนราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อน โดยราคาทองคำอยู่ที่ 1,644.51 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ (ณ วันที่ 9 เมษายน 24.00น.) ปรับตัวลดลงประมาณ 32 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 1.89% โดยทำจุดสูงสุดไว้ที่ 1,680.66 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ และทำจุดต่ำสุดไว้ที่ 1,611.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์
โดยราคาเริ่มปรับตัวลงในวันอังคารหลังจากที่ทาง FOMC ได้ประกาศรายละเอียดการประชุมเฟดเดือนที่ผ่านมาระบุว่ายังไม่มีการใช้มาตรการ QE3 แต่ยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปจนถึงกลางปี 2014 ส่งผลให้นักลงทุนที่ซื้อทองคำเพื่อรอมาตรการ QE3 ทยอยขายทองคำ ขณะเดียวกันในการประชุมธนาคารกลางยุโรปมีแนวโน้มดำเนินนโยบายเพิ่มเติมหากเศรษฐกิจยูโรโซนเผชิญกับความเสี่ยงช่วงขาลง นอกจากนี้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้มีความกังวลว่าสเปนอาจเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของวิกฤตหนี้ยูโรโซน แต่ตอนท้ายสัปดาห์ราคาทองคำสามารถดีดตัวกลับมาได้จากยอดผู้ขอรับสวัสดิการและการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐออกมาแย่กว่าที่คาดทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
ขณะที่ในเร็วๆนี้จะมีการเปิดการซื้อขาย Currency future ในประเทศไทย สำหรับนักลงทุนทองคำไทยที่สนใจใช้ Currency future เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินบาทนั้น สามารถทำได้โดย ซื้อทองคำไทยเปรียบเสมือนมีสถานะLong ในสกุลเงินดอลลาร์ด้วยดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินจึงต้องทำการ Short ค่าเงินดอลลาร์ใน Currency Futures เพียงเท่านี้ท่านนักลงทุนก็จะสามารถปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ โดยจะทำให้ราคาทองคำไทยเคลื่อนไหวไปตามราคาทองคำโลก
-กผ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net