“บรีส” โชว์ความสำเร็จโครงการเพื่อสังคม “บรีส ป.ปลายเปลี่ยนโลก” หลังสนับสนุนโครงการจิตอาสาต้นแบบ ที่ริเริ่มโดยเด็กชั้นประถมศึกษาตอนปลายไปแล้วเกือบ 300 โรงเรียน ใน 77 จังหวัด และปลูกสำนึกจิตอาสาให้เด็กไทยนับแสนคนทั่วประเทศ พร้อมเดินหน้าโครงการสู่ปีที่ 3 ย้ำแนวคิด “เพิ่มพลังจิตอาสา พัฒนาทักษะชีวิตเด็กไทย” จับมือสพฐ.ขยายผลโครงการสู่เป้าหมาย 2,000 โรงเรียนภายในปี 2555
หลังจากที่ผลิตภัณท์ทำความสะอาดผ้า “บรีส“ ภายใต้บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ได้ดำเนินโครงการเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยมาอย่างต่อเนื่องตลอด 10 กว่าปี ที่ผ่านมา ด้วยความตั้งใจดังกล่าว ในปี 2553 “บรีส“ ได้ริเริ่มโครงการ “บรีส ป.ปลายเปลี่ยนโลก” ขึ้น ภายใต้แนวคิด “เพิ่มพลังจิตอาสา พัฒนาทักษะชีวิต” โดยมุ่งหวังที่จะสร้างทักษะชีวิตให้กับเด็กชั้นประถมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศ ผ่านการเสริมแรงให้เด็กคิด ลงมือทำโครงงานจิตอาสาในโรงเรียนที่เด็กๆ เป็นผู้ริเริ่มด้วยตัวเอง พร้อมไปกับการจัดกิจกรรมจิตอาสาสำหรับเด็กอีกหลายรูปแบบ เพื่อขับเคลื่อนแนวคิดดังกล่าวไปยังโรงเรียนและชุมชนทั่วประเทศ
มร.เบนจี้ แย็บ รองประธานกรรมการบริหารด้านการตลาดผลิตภัณฑ์ภายในบ้าน บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่การริเริ่มโครงการในปี 2553 วันนี้ โครงการ บรีส ป.ปลายเปลี่ยนโลก ได้ดำเนินการมาแล้วกว่า 2 ปี โดยมุ่งหวังที่จะให้สังคมไทยตระหนักถึงการส่งเสริมทักษะชีวิตเด็กไทย ผ่านการลงมือทำกิจกรรมจิตอาสา ซึ่งถือเป็นการเรียนรู้ประสบการณ์นอกห้องเรียนอันยิ่งใหญ่ กิจกรรมจิตอาสายังเป็นการสนับสนุนให้เด็กได้ค้นพบตัวเอง กล้าคิด กล้าลงมือทำ สอดคล้องกับปรัชญา “กล้าเลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์” ของบรีส อีกทั้งยังเป็นการหนุนเสริมให้เด็กได้พัฒนาทักษะชีวิตในด้านอื่นๆ ทั้งความเชื่อมั่นในตนเอง ความสามารถในการคิดวิเคราะห์และตัดสินใจ ความคิดสร้างสรรค์ การเรียนรู้ที่จะเผชิญกับปัญหา ตลอดจนภาคภูมิใจในตัวเอง ฯลฯ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่จะทำให้เด็กมีภูมิคุ้มกันตัวเอง ในการประคับประคองชีวิตให้สามารถผ่านพ้นปัญหาและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ท่ามกลางปัญหาครอบครัวและสังคมที่กำลังทวีความรุนแรงและ ซับซ้อนขึ้น
“การพัฒนาทักษะชีวิตผ่านกิจกรรมจิตอาสาต่างๆ ในโครงการ บรีส ป.ปลายเปลี่ยนโลก จึงเป็นเหมือนการเตรียมความพร้อมให้เด็กๆ ชั้นประถมศึกษาตอนปลายวัย 9 - 12 ปี ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยรุ่น ในการรับมือกับปัญหาที่จะต้องเผชิญในอนาคต โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้น เราพบว่าเมื่อเด็กได้มีโอกาสคิด ลงมือทำและมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาในโรงเรียนและชุมชนที่พวกเขาอยู่ ทำให้เขาได้ค้นพบศักยภาพและคุณค่าของตัวเอง เด็กๆ หลายคนที่เคยเป็นเด็กหลังห้อง ติดเกม ไม่อยากเรียนหนังสือ สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองกลายมาเป็นผู้นำ และจัดการชีวิตตัวเองได้ดียิ่งขึ้น มีทักษะชีวิตที่ดีขึ้นซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับชีวิตในอนาคต” มร.เบนจี้กล่าว
สำหรับการดำเนินโครงการ บรีส ป.ปลายเปลี่ยนโลก ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ได้บรรลุเป้าหมายทุกด้าน โดยสามารถผลักดันให้มีโครงงานจิตอาสา บรีส ป.ปลายเปลี่ยนโลก เกือบ 300 โครงงาน ใน 77 จังหวัด ทั่วประเทศ และได้ปลูกสำนึกจิตอาสาเพื่อสร้างทักษะชีวิตให้กับเด็กประมาณ 1 แสนคน โดยกิจกรรมในโครงการแบ่งเป็น 1. การสนับสนุนให้เกิดโครงการจิตอาสาต้นแบบในโรงเรียน 78 แห่งทั่วประเทศ ที่พร้อมจะเป็นแหล่งการเรียนรู้ในการทำโครงการจิตอาสาให้กับโรงเรียนอื่นๆ ในอนาคต โดยที่ผ่านมา บรีสได้จัดเวิร์คช็อป “บรีส ป.ปลายเปลี่ยนโลก” เพื่อฝึกอบรมให้เด็กมีความเข้าใจปัญหา และสามารถออกแบบโครงการจิตอาสาได้ด้วยตัวเอง พร้อมให้ทุนสนับสนุนในการดำเนินโครงการโรงเรียนละ 100,000 บาท สำหรับการดำเนินกิจกรรม จิตอาสาในโรงเรียน 2. การจัดกิจกรรมรวมพลังอาสาสมัคร ตัวเล็กๆ ช่วยเหลือเพื่อน ในงาน “บรีส คิดส์ ฟอร์ คิดส์ เดย์” เพื่อเปิดประสบการณ์ให้เด็กๆ รู้จักแบ่งปัน ทำเพื่อผู้อื่น และมาร่วมเป็นอาสาสมัคร ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นปีละครั้ง ตั้งแต่ปี 2554 โดยมีเด็กเข้าร่วมกิจกรรมครั้งละประมาณ 1,000 คน 3. การจัดการประกวดโครงงานจิตอาสา พัฒนาสังคม “บรีส ป.ปลายเปลี่ยนโลก” ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนแปลงสังคม เด็กประถมก็ทำได้” เพื่อขยายแนวคิดจิตอาสาให้กว้างขึ้น และผลักดันให้โรงเรียนประถมทั่วประเทศตื่นตัวที่จะส่งเสริมให้เด็กๆ ได้เป็นอาสาสมัคร รู้จักคิด ริเริ่ม การทำงานจิตอาสาด้วยตัวเอง โดยเริ่มดำเนินการในปี 2554 และมีโรงเรียนที่ส่ง โครงงานจิตอาสาของเด็กประถมปลายเข้าร่วมประกวดเกือบ 200 โรงเรียน
มร.เบนจี้ กล่าวว่า ในการดำเนินโครงการบรีส ป.ปลายเปลี่ยนโลกในปีที่ 3 ยังมุ่งหวังที่จะขยายแนวคิดนี้ต่อไป โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนแนวคิดสู่เป้าหมาย 2,000 โรงเรียนทั่วประเทศ และปลูกสำนึกจิตอาสาให้กับเด็กครบ 150,000 คน ภายในปี 2555 โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บรีส ได้ร่วมกับ บิ๊กซี จัดงาน “บรีส คิดส์ ฟอร์ คิดส์ เดย์ ปีที่ 2 กับกิจกรรม “ปันของแสนรัก ส่งสุขแสนยิ้ม” เพื่อส่งเสริมให้เด็กไทยทั่วประเทศได้มีส่วนร่วม ในการให้และรู้จักแบ่งปัน โดยระดมตุ๊กตาบริจาคเพื่อมอบให้กับเด็กนักเรียนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อป “บรีส ป.ปลายเปลี่ยนโลก” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยมีโรงเรียนที่ได้เข้าร่วมเวิร์คช็อปของบรีสแล้วประมาณ 100 โรงเรียน อีกทั้งร่วมมือกับสพฐ.ในการจัดการประกวดโครงงาน จิตอาสา “บรีส ป.ปลายเปลี่ยนโลก” ภายในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 62 ในช่วงปลายปีนี้ นอกจากนี้บรีส ยังได้จัดทำหนังสือคู่มือ “ป.ปลายเปลี่ยนโลก เปลี่ยนแปลงสังคม เด็กประถมก็ทำได้” โดยถอดบทเรียนการดำเนินโครงงานจิตอาสาจากโรงเรียนเครือข่าย 20 แห่ง เพื่อส่งต่อให้กับโรงเรียนประถมทั่วประเทศในการปลูกจิตอาสาสมัครให้แก่นักเรียน และเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการจุดประกายให้บุคลากรและนักเรียนในโรงเรียนมีความสนใจที่จะริเริ่มทำงานจิตอาสาอย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง
ทั้งนี้โครงการ บรีส ป.ปลายเปลี่ยนโลก ถือเป็นหนึ่งส่วนหนึ่งในแผนการดำรงชีวิตที่ยั่งยืนของยูนิลีเวอร์ พร้อมไปกับการยกระดับชีวิตผู้บริโภค เพราะเชื่อว่า สังคมจะยั่งยืนได้ เด็กๆ ของเราต้องมีคุณภาพ เพราะเด็กคืออนาคตของสังคม และเรายังเชื่อด้วยว่าพลังเล็กๆ จากการลงมือทำจะช่วยสร้าง การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้
เกี่ยวกับยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย
เราทำงานทุกวันเพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ดียิ่งขึ้น เราช่วยให้ผู้คนรู้สึกดี มีลักษณะชวนมองและแต่งเติมชีวิตให้มีความสุขยิ่งขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีสำหรับผู้บริโภค และดีสำหรับคนอื่นๆ
เราเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของโลก ด้วยรากฐานที่มั่นคงในกว่า 100 ประเทศ สำหรับประเทศไทย ยูนิลีเวอร์ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยมาเกือบ 80 ปี ผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย ได้แก่ บรีส โอโม ออล ซันไลต์ คอมฟอร์ท ลักส์ วาสลีน ซิตร้า พอนด์ส ซันซิล เคลียร์ โดฟ แอกซ์ เรโซนา โคลส อัพ คนอร์ ลิปตัน เบส์ทฟู้ดส์ ไอศกรีมวอลล์ และภาคธุรกิจผลิตภัณฑ์ชั้นสูง (อาวิยองซ์)
บริษัทฯ มีพนักงานรวมทั้งสิ้นกว่า 2,000 คน มีรายได้จากยอดขายปี 2553 ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยูนิลีเวอร์ในประเทศไทยได้ที่ www.unilever.co.th
-กผ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
นายอนุวัตร เฉลิมไชย (ซ้าย) นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย มอบรางวัล MAT Award 2015 ยกย่องสุดยอดแคมเปญการตลาดแห่งปี ที่ผ่านการตัดสินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งแคมเปญที่ได้รับ Gold Award ได้แก่ "Knorr Flavour of Home" จากบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด โดยได้รับเกียรติจาก นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย รับมอบรางวัล สำหรับแคมเปญที่ได้ Silver Award ได้แก่ "ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป เสือ มอร์ตาร์ ฉาบอิฐมวลเบา สูตรแพลทินัม" จากบริษัท