บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้งฯให้กรอบลงทุนทองคำที่ 1,700-1,780 ดอลล์/ออนซ์ เหตุปัญหาหนี้กรีซยังไม่จบ หลังสหภาพยุโรปยังไม่ส่งเงินช่วยเหลือรอบใหม่ จับตาการประชุมพุธนี้ แนะหากราคาร่วงถึง 1,720 ซื้อดักรอเด้ง และควรขายทำกำไรที่ 1,760 ดอลล์/ออนซ์ แต่หากหลุด 1,690 ดอลล์/ออนซ์ให้ขายก่อน
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์ทองคำ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด(มหาชน) หรือ GBX กล่าวถึงแนวโน้มราคาทองคำประจำสัปดาห์ (13-17 ก.พ.55) ว่า การลงทุนในสัปดาห์นี้แนะนำนักลงทุนให้ซื้อหากราคาทองคำปรับตัวลงมาต่ำกว่า 1,720-1,730 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ หรือ 25,120-25,270 บาท/บาททองคำ (อ้างอิงค่าเงินบาทที่ 30.85 บาท/ดอลลาร์) แต่หากราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่า 1,690-1,700 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ หรือ 24,690-24,840 บาท/บาททองคำ ให้ “ขายตัดขาดทุน” เนื่องจาก ราคาอาจปรับตัวลงต่อได้ ในทางกลับกันหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือ 1,750-1,760 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ หรือ 25,260-25,700 บาท/บาททองคำให้ “ทยอยขายทำกำไร” ทั้งนี้ มองกรอบลงทุนประจำสัปดาห์ที่ 1,700-1,780 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำโลกได้ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน โดยราคาทองคำอยู่ที่ 1,719.39ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ (ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 24.00น.) ซึ่งปรับตัวลดลงประมาณ 6.4 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.37% และทำจุดสูงสุดไว้ที่ 1,751.40 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ ขณะที่จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,703.69 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ โดยสาเหตุที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางออสเตรเลียจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ผลออกมาว่าธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศคงอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น จึงส่งผลบวกต่อเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและทองคำ
นอกจากนี้ คำกล่าวของนายเบนเบอร์นันเก้ ที่กล่าวถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯว่า แม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะดีขึ้นแต่การเติบโตทางเศรษฐกิจยังเป็นไปได้ช้าส่งผลให้ทางเฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป และส่งผลบวกต่อราคาทองคำ แต่ราคาทองคำเริ่มปรับตัวลงในช่วงกลางสัปดาห์โดยยังคงได้รับความกดดันจากการเจรจายอมรับเงื่อนไขของกรีซเพื่อรับเงินช่วยเหลือที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว จะเห็นได้จากเมื่อวันศุกร์ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา แม้ว่ากรีซจะบรรลุมาตรการรัดเข็มขัดได้สำเร็จ แต่ทางผู้ให้ความช่วยเหลือยังคงต้องการให้กรีซลดรายจ่ายลงก่อนให้เงินช่วยเหลือรอบใหม่ทำให้ราคาทองคำในช่วงปลายสัปดาห์ยังถูกกดดันอยู่
ดังนั้น นักลงทุนยังคงต้องติดตามเรื่องการรับเงินช่วยเหลือของกรีซ ที่แม้ว่ากรีซจะผ่านแผนรัดเข็มขัดรอบ 2 แล้ว แต่ยังคงต้องรอให้ทางสหภาพยุโรป(EU) เป็นผู้อนุมัติเงินช่วยเหลือในการประชุมวันพุธนี้ และยอดผู้ขอรับสวัสดิการและดัชนีเงินเฟ้อสหรัฐฯในช่วงปลายสัปดาห์นี้ต่อไป-กภ-