ทำความเข้าใจ IFRIC ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้จริง!

ร่างการตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงินใหม่ (International Financial Reporting Interpretations Committee) หรือ IFRIC ไม่ว่าจะเป็น IFRIC4, IFRIC12, IFRIC13 ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้จริงในเร็วๆนี้ ซึ่งมีความสำคัญต่อนักบัญชี และผู้สอบบัญชีเป็นอย่างมาก เพราะล้วนแต่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องการเงินของบริษัททั้งสิ้น ทว่านักบัญชีหรือผู้สอบบัญชีรู้เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน มีความตื่นตัว และความพร้อมเท่าไรในการปฏิบัติตาม ทางสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์(สภาวิชาชีพบัญชีฯ) เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องการเตรียมพร้อม และเพื่อทำความเข้าใจในประเด็นสำคัญของร่างการตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงินใหม่ เพื่อพร้อมรับกับการปฏิบัติตามมาตรฐานใหม่ที่อาจมีผลกระทบต่อบริษัท ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้จริง และเพื่อศักยภาพในการปฏิบัติตามร่างการตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงินใหม่นี้ จึงได้จัดคอร์สอบรม IFRIC4 การประเมินว่าข้อตกลงประกอบด้วยสัญญาเช่าหรือไม่, IFRIC12 ข้อตกลงสัมปทานบริการ, IFRIC13 โปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า ขึ้นในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 09.00น.-16.30น. ณ อาคารสภาวิชาชีพบัญชีฯ ถนนสุขุมวิท 21 อโศก โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ IFRIC 4 - ท่านทราบหรือไม่ว่า หากกิจกรรมต้องปฏิบัติตามข้อตกลงที่ขึ้นอยู่กับการใช้สินทรัพย์ที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจง จะถือเป็นกรณีที่กิจการต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของ IFRIC4 - สินทรัพย์ที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงเป็นอย่างไร - ท่านทราบหรือไม่ว่าการทำข้อตกลงที่มีลักษณะใดบ้างที่ถือเป็นกรณีที่ตกลงดังกล่าวนำไปสู่การให้สิทธิในการใช้สินทรัพย์ - ท่านได้ประเมินผลกระทบต่องบการเงินจากการนำข้อกำหนดของ IFRIC4 มาถือปฏิบัติหรือยัง มีองค์ประกอบใดบ้างของงบการเงินที่จะได้รับผลกระทบค่อนข้างมากตลอดจน ควรมีแนวทางอย่างไรในการพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบด้าน - กิจการต้องนำข้อกำหนดของ IFRIC4 ไปปฏิบัติกับสัญญาทุกฉบับของกิจการหรือไม่ - กิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดใน IFRIC4 หรือไม่ IFRIC12 - สัญญาใดบ้างที่เข้าข่ายเป็นสัญญาสัมปทานตาม IFRIC12 - สัญญาภายใต้ IFRIC12 มีกี่ชนิด - ผลกระทบต่องบการเงินในการนำ IFRIC12 มาใช้ - กิจการที่ทางเลือกในการปฏิบัติในช่วงเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง IFRIC13 - ท่านรู้หรือไม่ว่าการที่กิจการให้สิทธิพิเศษแก่ลูกค้าโดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการขาย และลูกค้าสามารถนำสิทธิประโยชน์นั้นไปแลกเปลี่ยนเป็นสินค้า หรือบริการหรือส่วนลดจากกิจการหรือกิจการอื่นได้ในอนาคต กิจการต้องวัดค่าสิทธิประโยชน์หรือคะแนนสะสมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของประมาณการหนี้สินและกิจการต้องรับรู้รายการดังกล่าวเป็นรายได้เมื่อลูกค้ามาใช้สิทธิในภายหลัง - ในการนำข้อกำหนดของการตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับใหม่มาถือปฏิบัตินั้น กิจการต้องใช้วิธีปรับย้อนหลัง เพราะถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชี อย่างไรก็ดีในอดีตกิจการมักจัดทำประมาณการหนี้สินดังกล่าวโดยวัดจากราคาทุน ในขณะที่ IFRIC13 มีข้อกำหนดให้วัดมูลค่ายุติธรรมโดยพิจารณาจากมุมมองของผู้ขาย ซึ่งในกรณีนี้กิจการของท่านมีการรวบรวมข้อมูลที่จำป็นไว้อย่างเพียงพอ และเหมาะสมแก่การใช้ดุลยพินิจในการประมาณมูลค่ายุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้าหรือยัง - กิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดใน IFRIC13 หรือไม่ ถ้ากิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะมีรายการค้าที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า เช่น การให้แต้มสะสมควรบันทึกบัญชีอย่างไร ทั้งนี้คอร์สอบรมดังกล่าวได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่จะมาให้ความรู้แก่ผู้เข้าอบรมไม่ว่าจะเป็นคุณแน่งน้อย เจริญทวีทรัพย์ กรรมการ คณะกรรมการกำหนดมาตรฐานการบัญชี สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ Partner บริษัท ไพร้ช วอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด, คุณวันดี ลีวรวัฒน์ Director บริษัท ไพร้ช วอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด, คุณอมรรัตน์ เพิ่มพูนวัฒนาสุข หุ้นส่วนสายงานด้านตรวจสอบบัญชีดูแลกลุ่มพลังงาน บริษัท ไพร้ช วอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด โดยอัตราราคาค่าสัมมนา รวมVAT รวมเอกสาร อาหารกลางวัน และอาหารว่าง สำหรับสมาชิก 900 บาทและบุคคลทั่วไป 1,200 บาท นับ CPD ด้านการบัญชี สำหรับนักบัญชี/ผู้สอบบัญชีได้จำนวน 6 ชั่วโมงสอบถามเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ ฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ สภาวิชาชีพบัญชีฯ โทร.02-685-2572-75 FAX.02-685-2503หรือ02-685-2539 กส

• ข่าวสภาวิชาชีพบัญชีฯ
• ข่าวสภาวิชาชีพบัญชี
• ข่าวมาตรฐาน
• ข่าวการเงิน
• ข่าวเข้าใจ