กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--บลจ. กรุงไทย
กองทุนอีทีเอฟทองคำ กองแรกของประเทศไทย ภายใต้การบริหารของบลจ. กรุงไทย ที่ซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ฯแบบ Real Time เปิดขายวันแรกให้กับผู้ลงทุนในประเทศไทย
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทร่วมกับ บริษัทฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด และผู้ร่วมค้าที่ได้รับการแต่งตั้ง เปิดเสนอขายกองทุนเปิดเคแทม โกลด์ อีทีเอฟ แทร็กเกอร์ (KTAM GOLD ETF TRACKER : GLD) ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่อ้างอิงกับราคาทองคำกองทุนแรกของประเทศไทย โดยเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป (IPO) ระหว่างวันที่ 25 – 29 กรกฏาคม 2554 ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่ากองทุนได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนทั่วไปเป็นอย่างมาก โดยสามารถระดมทุนได้สูงถึงกว่า 577 ล้านบาท และภายหลังจากที่กองทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คาดว่าจะมีผู้ลงทุนสนใจลงทุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ลงทุนจะได้รับความสะดวกคล่องตัวในการลงทุนที่เหนือกว่ากองทุนรวมทองคำทั่วไป ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อขายกองทุนผ่านบริษัทหลักทรัพย์ได้ทุกแห่งทั่วประเทศ โดยใช้ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์ว่า GLD
สเตทสตรีทโกลบอล แอดไวเซอร์ส เอเซีย ลิมิเต็ด ผู้แทนของกองทุนอีทีเอฟทองคำของ SPDR? ให้ความเห็นว่า ความไม่แน่นอนของตลาดและความกังวลที่มีมากขึ้นเกี่ยวกับหนี้สาธารณะในสหรัฐอเมริกาและประเทศในแถบยุโรป ส่งผลให้มีความต้องการลงทุนในทองคำเพิ่มมากขึ้น -- เห็นได้จากราคาทองคำที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองและเมื่อสินทรัพย์อื่นๆมีมูลค่าลดลงอย่างรวดเร็ว ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตนเอง ทำให้ทองคำเป็นเครื่องมือกระจายความเสี่ยงที่ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุน กองทุนอีทีเอฟทองคำของ SPDR? นั้นนับเป็นช่องทางการลงทุนในทองคำที่แม่นยำ โปร่งใส และมีประสิทธิภาพโดยกองทุนได้จดทะเบียนครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในเดือนพฤศจิกายนของปี 2547 และเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น เอ็นวายเอสอี อาร์คา ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2550 กองทุนอีทีเอฟทองคำของ SPDR? นับเป็นหนึ่งในกองทุนอีทีเอฟที่เติบโตรวดเร็วที่สุดกองหนึ่งของสหรัฐฯ และเป็นกองทุนอีทีเอฟที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในขณะนี้ โดยกองทุนอีทีเอฟทองคำของ SPDR? ในปัจจุบันมีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ โตเกียวและฮ่องกง
นายจูเลียน ลิว หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานบริษัทโพลาริส อินเตอร์เนชั่นแนล ซิเคียวริตี้ส์ อินเวสเมนท์ ทรัสต์ ประเทศไต้หวัน กล่าวเพิ่มเติมว่า ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมและเป็นสักขีพยานในการจดทะเบียนกองทุนรวมอีทีเอฟที่อ้างอิงกับสินทรัพย์ในรูปแบบใหม่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในครั้งนี้ หลังจากที่บลจ. กรุงไทยได้จดทะเบียนกองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศกองทุนแรกของประเทศไทยไปก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ผู้ลงทุนไทยสามารถลงทุนในต่างประเทศได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญของตลาดทุนไทยที่มีทั้งกองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนในต่างประเทศและกองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งนี้ การเปิดตัวของกองทุนรวมอีทีเอฟทองคำในครั้งนี้ จะช่วยเติมเต็มให้การจัดสัดส่วนการลงทุนของผู้ลงทุนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และด้วยกฏระเบียบของไทยที่มีแนวโน้มเปิดเสรีมากยิ่งขึ้น ผมเชื่อว่าจะมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆที่หลากหลายเพิ่มขึ้นในตลาด
ผมเชื่อว่าอาจไม่มีช่วงเวลาการออกกองทุนอีทีเอฟทองคำที่เหมาะสมไปกว่านี้อีกแล้ว ในภาวะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯและแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคของสหรัฐฯมีแนวโน้มชะลอตัวลง ความต้องการทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงของตลาดเริ่มเป็นที่ต้องการมากขึ้น ผมเชื่อว่าความต้องการลงทุนในทองคำจะยังมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผลักดันให้มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนทองคำของบลจ. กรุงไทย เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
ผู้สนใจลงทุนสามารถติดต่อ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) บล.เคที ซิมิโก้ จำกัด (มหาชน) บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) และบริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด และสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งทั่วประเทศ
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit