กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--เฮย์กรุ๊ป
ความสามารถในการปรับตัวเป็นกุญแจสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2554 บริษัท เฮย์กรุ๊ป ประเทศไทย, บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกด้านการบริหารจัดการและพัฒนาองค์กร ได้ร่วมกับนิตยสารฟอร์จูนประกาศผลการจัดอันดับบริษัทที่ได้รับการชื่นชมมากที่สุดของโลกประจำปีครั้งที่ 14 และได้ดำเนินการบรรยายรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ จากบริษัทชั้นนำของประเทศไทย โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจากผู้บรรยายรับเชิญ คุณธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และคุณธาดา เศวตศิลา ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน
ในการรวบรวมและวิเคราะห์ผลสำรวจเพื่อศึกษาบริษัทที่ได้รับการชื่นชมมากที่สุดของโลกในประเด็นที่ว่า “องค์กรสามารถดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยื่น” โดยผลการศึกษาจากบริษัทเฮย์กรุ๊ป พบว่าองค์กรที่ประสบความสำเร็จได้นั้นล้วนมาจากความสามารถในการปรับตัวและความรวดเร็วในการตอบสนองต่อการเปลื่ยนแปลงของตลาด ส่วนใหญ่ได้ดำเนินการบริหารจัดการบุคลากรขององค์กรให้เหมาะกับโอกาส และดำเนินการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ขององค์กร
บริษัทที่ได้รับการจัดอันดับจะถูกพิจารณาด้วยคุณลักษณะทั้ง 9 ประการ ดังนี้
1. นวัตกรรม
2. การบริหารบุคคล
3. การใช้งานทรัพย์สินองค์กร
4. ความรับผิดชอบต่อสังคม
5. คุณภาพของการบริหารงาน
6. เสถียรภาพทางการเงิน
7. การลงทุนในระยะยาว
8. คุณภาพของสินค้าและบริการ
9. ความสามารถในการแข่งขันระดับสากล
ทั้งนี้ ดร.มานะ โลหะปานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮย์กรุ๊ป ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า บริษัทที่น่าชื่นชมที่สุดของโลก (WMACs) ได้พบโอกาสและจัดการปัญหาได้ก่อนบริษัทอื่น ไม่ใช่เพียงแต่ในผู้บริหารระดับสูงแต่รวมไปถึงพนักงานในทุกระดับ นอกจากนี้องค์กรเหล่านั้นยังได้ปลูกฝังนวัตกรรมในวัฒนธรรมองค์กร เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการสร้างบรรยากาศและผลักดันประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันภายในองค์กร
สาเหตุสำคัญ 4 ประการที่สร้างความแตกต่างให้แก่บริษัทที่ได้รับรางวัล WMAC
การเข้าถึงตลาดที่เกิดใหม่ (New Market) และตลาดที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว (Emerging Market) จาการศึกษาพบว่า ทั้งบริษัทที่ได้รับรางวัล WMAC และบริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจส่วนใหญ่ ให้ความสำคัญกับการขยายตัวไปสู่ตลาดใหม่ในช่วงระยะเวลาสองปีข้างหน้า โดยมุ่งเน้นที่ประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูง รวมทั้งการให้ความสำคัญในการบุกตลาดเกิดใหม่ ( 79 เปอร์เซนต์ เทียบกับ 59 เปอร์เซนต์ ) ก่อให้เกิดแรงผลักดันขององค์กรต่อการบริหารองค์กรอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองทิศทางการเปลี่ยนแปลงของตลาด ( 82 เปอร์เซนต์ เทียบกับ 68 เปอร์เซนต์ )
การสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกน้องกับองค์กร เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงาน
โดยการศึกษายังพบว่าประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นอีกปัจจัยที่ถูกให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามในกลุ่มบริษัทที่ได้รับการชื่นชมมากที่สุดของโลก พนักงานในทุกระดับได้ถูกกระตุ้นให้มีส่วนร่วมกับการเพิ่มประสิทธิผลขององค์กร ( 94 เปอร์เซนต์ เทียบกับ 77 เปอร์เซนต์ ) มากไปกว่านั้นบริษัทที่ได้รับการชื่นชมมากที่สุดของโลกให้การสนับสนุนให้พนักงานร่วมนำเสนอแนวคิดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร( 91 เปอร์เซนต์ เทียบกับ 76 เปอร์เซนต์ )
การปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรในเรื่องการพัฒนานวัตกรรม (Innovative Culture)
ขณะที่นวัตกรรมในการพัฒนาสินค้าและบริการเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจสำหรับทุกบริษัท หากแต่บริษัทที่ได้รับรางวัลส่วนใหญ่ได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อปลูกฝังวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นนวัตกรรมทั่วทั้งองค์กร ผู้บริหารขององค์กรที่ได้รับรางวัลส่วนใหญ่กล่าวว่าองค์กรของตนมีความสามารถในการนำเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนาประสิทธิภาพองค์กร ( 81 เปอร์เซนต์ เทียบกับ 72 เปอร์เซนต์ ) และสามารถรวบรวมความคิดเชิงนวัตกรรมเพื่อนำไปใช้ในองค์กรอย่างทั่วถึง ( 87 เปอร์เซนต์ เทียบกับ 74 เปอร์เซนต์ ) รวมถึงพนักงานในทุกระดับทั้งระดับบริหารและระดับปฏิบัติการได้ถูกกระตุ้นให้สร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงสร้างสรรค์ให้แก่ตนเอง ( 83 เปอร์เซนต์ เทียบกับ 70 เปอร์เซนต์ )
การเล็งเห็นการรักษาสมดุลในการทำงานและชีวิตส่วนตัว และความเข้าใจในความต้องการของบุคคลากรในแต่ละวัย
การศึกษาพบว่าภาระในการปฏิบัติงานในแต่ละวันมีผลกระทบโดยตรงต่อการรักษาสมดุลในชีวิตส่วนตัวและครอบครัวของพนักงาน โดยบริษัทที่ได้รับรางวัล WMAC ส่วนใหญ่เล็งเห็นถึงความสำคัญในประเด็นดังกล่าว ( 49 เปอร์เซนต์ เทียบกับ 30 เปอร์เซนต์ ) WMAC ยังให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมของพนักงานที่เข้าใหม่ ( 55 เปอร์เซนต์ เทียบกับ 43 เปอร์เซนต์ ) และรองรับความต้องการที่แตกต่างในแต่ละวัย ( 45 เปอร์เซนต์ เทียบกับ 30 เปอร์เซนต์ )
ประเด็นอื่นๆที่พบจากการศึกษา
เกี่ยวกับผลสำรวจบริษัทที่น่าชื่นชมมากที่สุดในโลกจากนิตยสารฟอร์จูน และบริษัท เฮย์กรุ๊ป
บริษัท เฮย์กรุ๊ป ได้ร่วมกับนิตยสารฟอร์จูนตั้งแต่ปี 1997 ในการจัดอันดับ และนำเสนอผลการศึกษาในประเด็นเรื่องวิธีปฎิบัติทางธุรกิจที่ทำให้บริษัทที่ได้รับรางวัลเป็นองค์กรที่น่ายกย่องและประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของบริษัท http://www.haygroup.com/ โดยการดำเนินการวิจัยในปี 2011 นี้ เป็นการดำเนินการศึกษาภายใต้หัวข้อที่ว่า “ การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ” โดยบริษัทได้ดำเนินการสำรวจผู้บริหารระดับสูงโดยสุ่มตัวอย่างจากบริษัทที่เข้าร่วมงานวิจัย และดำเนินการจัดอันดับผลสำรวจเพื่อวิเคราะห์รายชื่อสามบริษัทที่ได้รับการลงคะแนนสูงสุดในกลุ่มธุรกิจต่างๆ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการสำรวจได้ปรียบเทียบอันดับของตนกับคู่แข่งในกลุ่มธุรกิจนั้นๆ
เกี่ยวกับบริษัท เฮย์กรุ๊ป
บริษัท เฮย์กรุ๊ป เป็นบริษัทด้านการให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการองค์กรระดับโลก ที่ดำเนินงานร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของแต่ละองค์กรในการร่วมกันทำให้กลยุทธ์เป็นความจริง บริษัทมุ่งพัฒนาความสามารถในการบริหารจัดการองค์กร โดยใช้ทรัพยากรมนุษย์ ที่แต่ละองค์กรมีอยู่ เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งกระตุ้นบุคลากรขององค์กรแสดงศักยภาพที่มีอยู่เพื่อการปฏิบัติงานให้แก่องค์กร ปัจจุบันบริษัทมีที่ปรึกษาและทีมงานที่มีความสามารถทั้งสิ้น 7,000 คน โดยปฏิบัติงานอยู่ใน 85 ออฟฟิศ จากทั้ง 49 ประเทศทั่วโลก บริษัทมีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาแก่ทั้งภาครัฐและเอกชน ในทุกๆ กลุ่มธุรกิจ ภายใต้จุดมุ่งหมายที่ว่าสร้างการเปลี่ยนแปลงและช่วยให้องค์กรต่างๆ ตระหนักถึงศักยภาพของตน
เกี่ยวกับนิตยสารฟอร์จูน
ฟอร์จูน เป็นผู้นำระดับโลกด้านสื่อทางธุรกิจโดยมียอดขายภายในมากกว่า 1 ล้านฉบับ และมีกลุ่มผู้อ่านมากกว่า 5 ล้านคน ในแต่ละปีฟอร์จูนจะนำเสนอผลการจัดอันดับ ฟอร์จูน 500 และ ฟอร์จูน 100 ซึ่งเป็นการจัดอันดับบริษัทที่ดีที่สุดเหมาะแก่การร่วมงานด้วย ฟอร์จูน ผู้หญิงที่มีอิทธิพลมากที่สุด และฟอร์จูน โกลบอล ฟอรั่ม ซึ่งจัดพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ จำหน่วยในประเทศยุโรปและเอเชีย และเป็นภาษาท้องถิ่นในหลายประเทศทั่วโลก
สำหรับสื่อมวลชน สามารถสอบถามรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่
ศิรินทิพย์ ขัติยะกาญจน์
ฝ่ายการตลาดบริษัทเฮย์กรุ๊ป
Email : [email protected]
T| +662 677 7515
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit