ศิลปากรอินเตอร์ฯ เผยธุรกิจแฟชั่นไทยต้องปรับตัวสร้างเอกลักษณ์สู่ตลาดโลก

สาขาการแบบมัลติมีเดีย วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมกับทีมดีไซเนอร์ เพลย์ฮาวด์ บาย เกรย์ฮาวด์ แบรนด์ชื่อดังฝีมือคนไทย จัดสัมมนาในหัวข้อ “การใช้งานกราฟฟิกเพื่อการออกแบบเสื้อผ้า และอุตสาหกรรมแฟชั่นในยุคปัจจุบัน” พร้อมเผยมุมมองพัฒนาธุรกิจวงการแฟชั่นไทยเพื่อก้าวสู่ตลาดโลก ด้วยการเร่งผลิตเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีความสามารถด้านการออกแบบมัลติมีเดีย ตลอดจนการปลูกฝังเยาวชนไทยไม่ให้ลอกเลียนแบบผลงานของต่างชาติ เพื่อการสร้างผลงานที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง โดยกิจกรรมทั้งหมดนี้ ได้จัดไปเมื่อเร็วๆ นี้ ณ อุทยานการเรียนรู้ ทีเค พาร์ค กรุงเทพฯ โดยมีนักเรียนนักศึกษาและบุคคลทั่วไปเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก จากงานสัมมนา “การใช้งานกราฟฟิกเพื่อการออกแบบเสื้อผ้า และอุตสาหกรรมแฟชั่นในยุคปัจจุบัน” โดยการความร่วมมือระหว่างสาขาการแบบมัลติมีเดีย วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยศิลปากร และแบรนด์เครื่องแต่งกาย เพลย์ฮาวด์ บาย เกรย์ฮาวด์ แบรนด์ชื่อดังฝีมือคนไทย แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นอย่างยิ่งที่ นักออกแบบแฟชั่นรุ่นใหม่จะต้องมีความรู้ในเรื่องการออกแบบงานกราฟฟิก และโดยเฉพาะการพิมพ์ เพราะ การพิมพ์มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้บล็อคสกรีน ซิลล์สกรีน หรือดิจิตอลปริ้น เป็นต้น เพราะปัจจุบัน อุตสาหกรรมการออกแบบส่วนใหญ่ ผู้บริโภคให้ความนิยมรูปแบบลายผ้าที่ถูกพัฒนาจากงานกราฟฟิค ซึ่งคาดว่าในอนาคตการออกแบบลายผ้าและการออกแบบเครื่องแต่งกายทั้งหมดในอุตสาหกรรมแฟชั่นของโลก นักออกแบบแฟชั่นจะต้องมีความรู้ด้านมัลติมีเดียเป็นปัจจัยพื้นฐาน นายจิตต์สิงห์ สมบุญ หัวหน้าทีมดีไซเนอร์ แบรนด์เครื่องแต่งกายเพลย์ฮาวด์ บาย เกรย์ฮาวด์ กล่าวภายในงานเกี่ยวกับพื้นฐานในการออกแบบเสื้อผ้าว่า ผู้ออกแบบต้องใส่ความชอบส่วนตัวเข้าไปกับคอนเซปต์ เพื่อให้ได้ซึ่งเสื้อผ้าตามแบบที่ต้องการ แต่ก่อนจะได้คอนเซปต์ในแต่ละครั้งนั้น ผู้ออกแบบก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีแรงบันดาลใจในการออกแบบของตนเอง ซึ่งจะได้มาจากสิ่งแวดล้อมและเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงเวลานั้นๆ อีกทั้งยังต้องศึกษาถึงเทรนด์ของแต่ละปี รวมถึงแนวโน้มของแบรนด์ต่างๆ ด้วยการสังเกตถึงรายละเอียดของแต่ละแบรนด์ และศึกษาถึงกระแสความเปลี่ยนแปลงของแฟชั่นโลกอยู่เสมอๆ แต่โดยทั่วไปแล้วทุกแบรนด์ก็จะต้องใช้เส้นใยผ้าที่ผู้ผลิตเพื่อตอบสนองต่อผลวิจัยด้านพฤติกรรมของคนทั่วโลก ดังนั้นทุกแบรนด์จึงใช้เส้นใยผ้าเดียวกันแต่ที่ต่างกันคือการใส่เอกลักษณ์ของแบรนด์ตัวเองลงไปเท่านั้น ผศ. ดร. สมพิศ ขัตติยพิกุล ผู้อำนวยการวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยศิลปากร เปิดเผยว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีบุคลากรที่มีคุณภาพมาผลักดันให้อุตสาหกรรมแฟชั่นไทยเติบโต ซึ่งด้วยหลักสูตรของสาขาการแบบมัลติมีเดีย วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ ประเทศอังกฤษ จึงมีการเรียนการสอนอย่างผสมผสานทางด้านวัฒนธรรมร่วมกับการพัฒนาผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ พร้อมปลูกฝังให้นักศึกษาเป็นผู้ที่มีความรอบรู้ต่อเหตุการณ์ต่างๆและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา เพื่อนำมาปรับใช้กับผลงานของตนเองให้มีเอกลักษณ์แปลกใหม่ อีกทั้งศักยภาพด้านการออกแบบ และการตัดเย็บที่ประณีตของคนไทย รวมไปถึงเอกลักษณ์ที่ต่างจากยุโรป จึงควรนำข้อดีเหล่านี้มาใช้สร้างความแปลกใหม่ให้แก่ตลาดแฟชั่นโลกต่อไป สาขาการแบบมัลติมีเดีย มีหลักสูตรที่ไม่ใช่เพียงแค่การเรียนการสอนภายในห้องเรียนเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญต่อการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้สัมผัสกับประสบการณ์จริงโดยตรง จากผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานด้านการออกแบบ เพื่อให้นักศึกษาสามารถปรับใช้เป็นแนวทางในการทำงานจริงในอนาคตได้ โดยปัจจุบันสาขาการแบบมัลติมีเดีย วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ก่อตั้งมาเป็นระยะเวลาถึง 6 ปี และสามารถผลิตบัณฑิตด้านการออกแบบมัลติมีเดีย ออกสู่ตลาดอุตสาหกรรมมัลติมีเดียจำนวนกว่า 400 คน ซึ่งทั้งหมดทำงานอยู่ในอุตสหกรรมมัลติมีเดีย อาทิ อุตสาหกรรมโฆษณา ภาพยนตร์ เพลง แฟชั่น ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ดร.สมพิศ กล่าวเพิ่มเติม สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวมหาวิทยาลัยศิลปากร
• ข่าววิทยาลัยนานาชาติ
• ข่าวอุตสาหกรรมแฟชั่น
• ข่าวเยาวชนรุ่นใหม่
• ข่าวมัลติมีเดีย