แอสเซท พลัส เปิดตัว Series กองทุนหุ้นต่างประเทศ “กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสตาร์ (ASP-STARS)”ลงทุนในหุ้นดาวเด่นทั่วโลก เสนอขายครั้งเดียว 19-27 เมษายน นี้
บลจ.แอสเซท พลัส เปิดตัวกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสตาร์ (ASP-STARS) เน้นลงทุนในหุ้นดาวเด่นในต่างประเทศ อายุกองทุน 2 ปี มุ่งทยอยทำกำไรที่ทุก 5% ของมูลค่าหน่วยลงทุนเริ่มต้น เปิด IPO 19-27 เมษายน นี้
นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในปี 2554 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ (AUM) จาก ณ สิ้นปี 2553 ที่ 26,067 ล้านบาท เป็น 35,000 ล้านบาท และตั้งเป้ากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 15-20% ในสิ้นปี 2554 จากทั้งธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ จะยังคงเน้นการจัดสรรพอร์ตของผู้ลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เหมาะสมกับสภาวะการลงทุนในแต่ละช่วงเป็นหลัก และให้ความสำคัญกับประโยชน์ที่ผู้ลงทุนจะได้รับจากผลิตภัณฑ์การลงทุนบนพื้นฐานของความเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของผู้ลงทุน
ทั้งนี้ สถานการณ์เงินเฟ้อเป็นปัจจัยสำคัญในการลงทุนในปี 2554 ที่อาจกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในแถบเอเชียที่นำเข้าน้ำมัน เช่น ไทย ซึ่งอาจมีผลให้ต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันและต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตของธุรกิจ ดังนั้น ในด้านการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการประเมินมูลค่าหุ้นในการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่มีคุณภาพเข้ามาในพอร์ตการลงทุน โดยเน้นการบริหารกองทุนเชิงรุก และกำหนดเป้าหมายผลตอบแทน เพื่อให้การบริหารกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามวัตถุประสงค์การลงทุน
นางลดาวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ คาดการณ์ว่า ในปี 2554 ตลาดหุ้นของประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น เป็นกลุ่มที่น่าสนใจลงทุนจากมูลค่าของหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ที่ปรับลงมาอยู่ในระดับต่ำจากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา และยังมีโอกาสให้อัตราผลตอบแทนในระดับสูงในภาวะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าขณะนี้ประเทศญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ แต่คาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะเป็นผลกระทบในระยะสั้น และตลาดหุ้นญี่ปุ่นน่าจะสามารถปรับตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ จากเม็ดเงินของรัฐบาลญี่ปุ่นที่อัดฉีดเข้าสู่ระบบเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
“ระดับราคาหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดสหรัฐฯ ที่ลดลงมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับตลาดหุ้นของประเทศกำลังพัฒนา ขณะที่อัตราการเติบโตของธุรกิจอยู่ในระดับสูง ทำให้นักวิเคราะห์ประเมินว่าโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับลดลงมาอีกมีค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง” นางลดาวรรณ กล่าว
ดังนั้น ในระหว่างวันที่ 19-27 เมษายน นี้ บริษัทฯ จึงเสนอขาย กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสตาร์ (ASP-STARS) กองทุนผสมต่างประเทศ ซึ่งมีลักษณะการทยอยสร้างผลตอบแทนคล้ายกับกองทุนกลุ่ม SMART ซึ่งเป็น Series กองทุนผสมในประเทศที่เสนอขายไปแล้ว 9 กองทุน และได้รับการตอบรับอย่างดีจากการที่กองทุนสามารถรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติให้กับผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนจะเปิดเสนอขายครั้งเดียวในช่วงการเสนอขายครั้งแรก (IPO)
ทั้งนี้ กองทุน ASP-STARS จะลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ประมาณ 20 บริษัท โดยเน้นบริษัทที่เป็นผู้นำธุรกิจและเป็นที่รู้จักทั่วโลก มีการเติบโตของธุรกิจในระดับสูง และมีราคาที่น่าลงทุนเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐาน โดยกองทุนมีความยืดหยุ่นในการจัดสัดส่วนการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ สูง ทั้งตราสารหนี้ ตราสารทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนจากจังหวะการลงทุนตามภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์การลงทุนในแต่ละช่วง ทั้งนี้ กองทุนมีอายุโครงการ 2 ปี โดยเมื่อกองทุนมีการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ลงทุน โดยกำหนดเป้าหมายการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับขึ้นผ่านระดับทุก 5% ของมูลค่าหน่วยลงทุนเริ่มแรก คือ 10.50 บาท, 11.00 บาท, 11.50 บาท ... เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้กับลูกค้าระหว่างการลงทุน
นอกจากนี้ กองทุนมีการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน โดยการวิเคราะห์แนวโน้มการปรับตัวของอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อปรับสัดส่วนการป้องกันความเสี่ยงให้เหมาะสมในแต่ละขณะ
“จากรากฐานของบริษัทฯ ที่มีประสบการณ์ในตลาดทุนมานานทั้งด้านการวิเคราะห์หลักทรัพย์ในเชิงลึก และการหาจังหวะการเข้าลงทุน รวมถึงมีการพัฒนาเครื่องมือด้านการจัดการลงทุนในต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่องจากการบริหารเงินลงทุนในต่างประเทศผ่านกองทุนส่วนบุคคล บริษัทฯ จึงนำเสนอทางเลือกการลงทุนในหุ้นชั้นนำที่เสนอขายในต่างประเทศในรูปแบบกองทุนรวม นอกเหนือจากการลงทุนในลักษณะ Feeder Fund ที่มีข้อจำกัดในการกำหนดหลักทรัพย์เป้าหมายที่ต้องการลงทุน กองทุน ASP-STARS จึงมีความโดดเด่นในด้านความคล่องตัวในการคัดเลือกหลักทรัพย์และปรับสัดส่วนการลงทุนได้ทันกับสถานการณ์การลงทุนจากการที่กองทุนมีขนาดสินทรัพย์ไม่ใหญ่มากนัก และกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์ภายใต้กรอบการลงทุนที่ไม่กว้างเกินไป รวมถึงสามารถบริหารต้นทุนที่ช่วยให้กองทุนมีค่าใช้จ่ายในระดับต่ำ เพื่อทยอยสร้างผลตอบแทนใหักับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง กองทุนนี้จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นของบริษัทชั้นนำทั่วโลก และคาดหวังผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในระยะเวลา 2 ปี โดยมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสมกับภาวะการลงทุน” นางลดาวรรณ กล่าว
ด้าน ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า ในด้านการคัดเลือกหลักทรัพย์ของกองทุน ASP-STARS ทีมผู้จัดการกองทุน จะเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ซึ่งเป็น Brand ระดับโลก ที่มีการดำเนินกิจการที่โปร่งใส ยึดหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และเป็นหลักทรัพย์ที่ได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการบริโภคที่เพิ่มขึ้น กลุ่มธุรกิจผลิตสินค้าหรือบริการที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ และกลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายต่อเนื่อง อีกทั้งเป็นหลักทรัพย์ที่ทีมผู้จัดการกองทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้ง่าย ทั้งข้อมูลโดยรวม ข้อมูลด้านการวิเคราะห์ และข้อมูลทางด้านการเงิน ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี เช่น Google และ Apple กลุ่มสถาบันการเงิน ที่ได้รับผลดีจากการขยายกำลังผลิตของภาคการลงทุน และแนวโน้มในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เช่น JPMorgan Chase & Co และ AIA กลุ่มบริษัทข้ามชาติ ที่มีการกระจายธุรกิจไป ทั่วโลก และมีรายได้จากการดำเนินงานปรับตัวไปตามภาวะเศรษฐกิจของแต่ละภูมิภาค เช่น McDonald’s และ Starbucks และกลุ่มบริษัทค้าปลีก ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลดีจากการขยายตัวของภาคการบริโภคในภูมิภาคเอเชีย และกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ยังคงมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น Tesco
“จากสถานการณ์การลงทุนปัจจุบันที่ยังมีบางปัจจัยที่ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน และอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน เช่น ปัญหาการจราจลตะวันออกกลางแบบโดมิโน ทำให้การลงทุนระยะยาวจากปัจจัยพื้นฐานตามวัฎจักรการปรับตัวทางเศรษฐกิจจะเป็นผลดีกว่าการลงทุนในระยะสั้นๆ กองทุน ASP-STARS จึงกำหนดระยะเวลาในการลงทุนประมาณ 2 ปี ซึ่งคาดว่าเป็นช่วงเวลาที่เพียงพอต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ และผู้จัดการกองทุนมีช่วงเวลาในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนโดยขายหุ้นที่มีราคาสูงขึ้นถึงระดับเป้าหมาย และเข้าลงทุนในหุ้นตัวใหม่ที่มีระดับราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงได้ เพื่อสร้างผลตอบแทนในกรอบเป้าหมายที่กำหนด” ดร.วิน กล่าว
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติถึง 5 รางวัล จากงาน Best of the Best Awards 2025 ได้แก่ รางวัล Best Asset Management Company (30 Years), Best Asset Management Firm for Digital Marketing, Best Alternatives Manager, Best ESG Manager และ Best Multi-Asset Manager ทั้งนี้ รางวัลที่ บลจ.กสิกรไทย ได้รับทั้ง 5 สาขา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ บลจ.กสิกรไทย ในการพัฒนาและนำเสนอบริการด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ครอบคลุมและมีคุณภาพ รวมถึงการปรับตัว
18 เมษายน 2568 16:16 น.