สถานการณ์ราคาน้ำมันประจำสัปดาห์ที่ 7 - 11 มี.ค. 54 และแนวโน้มในสัปดาห์นี้

กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--ปตท.

ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 1.00 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล อยู่ที่ระดับประมาณ 109.77 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเวสเท็กซัส (WTI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 2.70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล อยู่ที่ระดับประมาณ 103.74 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน 0.05 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลอยู่ที่ระดับประมาณ 114.39 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ทั้งนี้เหตุการณ์ความไม่สงบในลิเบียทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นมีการใช้อาวุธหนักและจรวดในการปะทะกัน กอปรกับสำนักงานสถิติแห่งชาติของอินเดียรายงานปริมาณความต้องการใช้น้ำมันของประเทศอินเดียปี 2553 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.1% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับ GDP ที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.9% อยู่ที่ 8.6% นอกจากนี้รายงานทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ บ่งชี้ทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อาทิ ยอดขายปลีกในเดือน ก.พ. 54 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน และยอดสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมเดือน ม.ค. 54 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.7% นอกจากนี้คณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าของสหรัฐฯ รายงานนักลงทุนเข้าซื้อสุทธิในตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ WTI ล่วงหน้าสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 มี.ค. 54 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 30% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในส่วนของราคาน้ำมันเบนซิน และดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้น จากข่าวอินโดนีเซียมีแผนปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น Balikpapan เป็นเวลา 40 วัน เริ่มต้นปลายเดือน มี.ค. 54 และจีนงดการส่งออกน้ำมันเบนซินในเดือน มี.ค. 54 เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศอยู่ในระดับสูง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าอุปทานน้ำมันดีเซลระหว่างเดือน เม.ย. - มิ.ย. 54 จะตึงตัว เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาคปิดซ่อมบำรุง (ปริมาณการผลิตรวม 2.12 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 6.8% ของปริมาณการผลิตในภูมิภาค) ทั้งนี้ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 121.85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล (+1.11 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) และดีเซล 129.72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล (+2.04 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมัน + นักลงทุนมีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ปะทะกันรุนแรงระหว่างฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายต่อต้านรัฐบาลล่าสุดท่าส่งออกน้ำมัน 2 แห่งปิดดำเนินการ + Energy Information Administration รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบ Gasoline และ Distillates เชิงพาณิชย์ของ สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 มี.ค. 54 (หน่วย : ล้านบาร์เรล) น้ำมันดิบ อยู่ที่ 348.9 (+2.5) Gasoline อยู่ที่ 229.2 (-5.5 ) Distillates อยู่ที่ 155.2 (-4.0 ) + Info Resource ของสหรัฐฯ รายงานโรงกลั่นสหรัฐฯ มีแผนปิดซ่อมบำรุงในปี 2554 อยู่ที่ระดับประมาณ 3.3 ล้านบาร์เรล ลดลงจากปีก่อน 0.34 ล้านบาร์เรล + กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานยอดขายปลีกในเดือน ก.พ. 54 เพิ่มขึ้น 1% (M-O-M) อยู่ที่ 3.9 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน และเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 8 เดือน - OPEC รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ก.พ. 54 เพิ่มขึ้น 0.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน (M-O-M) อยู่ที่ 30.02ล้านบาร์เรล สูงสุดตั้งแต่ ธ.ค. 51 หากไม่รวมอิรักผลิตที่ 27.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน - 11 มี.ค. 54 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 9 ริกเตอร์ รุนแรงที่สุดในรอบ 140 ปี ที่ประเทศญี่ปุ่น จุดศูนย์กลางของ แผ่นดินไหวบริเวณนอกชายฝั่งของเมือง Sendai ประมาณ 123 กม. และห่างจากกรุงโตเกียว 370 กม. ทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดยักษ์มีความสูงประมาณ 10 เมตร ที่เมือง Miyaki และ Fukushima ทั้งนี้โรงกลั่นน้ำมันอย่างน้อย 5 แห่ง ปริมมณการผลิตรวมประมาณ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จำนวน 4 แห่ง หยุดดำเนินการ แนวโน้มสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะแกว่งตัวอยู่ในช่วง 96-103 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนเนื่องจากภัยพิบัติทางธรรมชาติจากแผ่นดินไหว และคลื่นสึนามิที่ญี่ปุ่นส่งผลให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินคิดเป็นมูลค่ามหาศาลปัจจัยดังกล่าวยังส่งผลกระทบในระยะสั้นต่อความต้องการใช้น้ำมัน และรัฐบาลยังต้องใช้งบประมาณในการฟื้นฟูประเทศจากความเสียหาย อย่างไรก็ตามนักลงทุนคลายความกังวลต่อวิกฤติหนี้สาธารณะในยุโรปภายหลังจากการประชุมผู้นำกลุ่ม Euro Zone 17 ประเทศตกลงเพิ่มวงเงินรักษาเสถียรภาพทางการเงินของยุโรป (European Financial Stability Facility: EFSF) จาก 2.5 แสนล้านยูโร เป็น 4.4 แสนล้านยูโร ให้ติดตามคาดการณ์อุปสงค์ และอุปทานน้ำมันของโลกจากองค์การพลังงานสากลที่จะประกาศในวันที่ 15 มี.ค. นี้ และตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐฯ อาทิ ดัชนีผู้บริโภค และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โทร. 0 2537-1630 โทรสาร 0 2537 2171

ข่าวสถานการณ์ราคาน้ำมัน+ความไม่สงบในลิเบียวันนี้

พีทีที สเตชั่น ขานรับนโยบายใหม่ ปรับสัดส่วนการผสมน้ำมันดีเซล จาก B7 เป็น B5 พร้อมส่งมอบน้ำมันคุณภาพสู่ผู้บริโภค เริ่ม 21 พฤศจิกายน นี้

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ประกาศพร้อมปรับสัดส่วนการผสม ไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา จากสูตร B7 เป็น B5 ตามมติของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบและปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ภายในประเทศ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตไบโอดีเซล โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567เป็นต้นไป นายพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน OR เปิดเผยว่า "พีทีที สเตชั่น พร้อมปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลอย่าง

ท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันทะยาน ดันต้นทุ... TPLAS คุมต้นทุนอยู่หมัด — ท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันทะยาน ดันต้นทุนผลิตพุ่ง!แต่สำหรับ "เฮียสอง-อภิรัตน์ ธีระรุจินนท์" รองกรรมการผู้จัดการ บมจ....

ราคาน้ำมันถูกกดดันต่อเนื่อง จากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ยังคงไร้ข้อสรุป

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 38-43 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 39-44 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ...

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 39 - 44 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 42 - 47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (17 – 21 ส.ค. 63) ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มขยับขึ้นเล็กน้อย จากกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับลด...

ชูวิสัยทัศน์ผ่าน “PTT by PTT” สานต่อ ปตท.... “อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” พร้อมขับเคลื่อน ปตท. สานต่อความมั่นคงทางพลังงานไทย สู่อนาคตที่ยั่งยืน — ชูวิสัยทัศน์ผ่าน “PTT by PTT” สานต่อ ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงาน...