พาณิชย์จับมือผู้ส่งออก/นำเข้า ทวงคืนบัลลังก์ข้าวไทย

22 Feb 2011

กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--คต.

กระทรวงพาณิชย์รุดเดินหน้าทวงบัลลังก์ข้าวหอมมะลิไทยเพื่อคงความเป็นผู้นำส่วนแบ่งตลาดข้าวอันดับหนึ่งในฮ่องกง

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและเอกชนเดินทางไปเยือนตลาดข้าวฮ่องกงเมื่อปลายปี ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา ได้จับมือคณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงจำนวน ๑๓ คน จาก ๓ สมาคม ได้แก่ สมาคมผู้ค้าข้าวฮ่องกง (The Rice Merchants Association of Hong Kong) สมาคมผู้จัดส่งข้าวฮ่องกง (Hong Kong Rice Suppliers Association Ltd.) และสมาคมผู้นำเข้าและส่งออกข้าวฮ่องกง (Hong Kong Rice Importers & Exporters Association)และเห็นชอบร่วมกันให้มีคณะทำงานร่วมไทย-ฮ่องกง (Working committee) ผนึกกำลังร่วมกันดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อทำแผนการตลาดและรักษาเป้าหมายการส่งออกข้าวไทยไปฮ่องกง ในปริมาณ ๓๐๐,๐๐๐ ตัน มูลค่า ๓๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ ๙,๐๐๐ ล้านบาท

คณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงทั้ง ๓ สมาคมได้เดินทางมาประชุมคณะทำงานเป็นครั้งแรกในวันนี้ ทำให้ทราบว่าตลาดข้าวหอมมะลิไทยในฮ่องกงปัจจุบันนั้น ควรมุ่งเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจในคุณสมบัติและภาพลักษณ์ข้าวหอมมะลิไทย เพื่อลดความสับสนในชนิดข้าวของผู้บริโภคในฮ่องกง

นายยรรยงฯ เปิดเผยเพิ่มเติมว่าในวันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรกของคณะทำงานร่วมไทย – ฮ่องกง (Working Committee) ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและสมาคมผู้ค้าข้าวของฮ่องกง ๓ สมาคม ซึ่งที่ประชุมตระหนักและให้ความสำคัญกับตลาดฮ่องกงซึ่งเป็นตลาดข้าวหอมมะลิไทยที่สำคัญอันดับ ๑ในภูมิภาคเอเชีย โดยข้าวหอมมะลิไทยครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ ๑ในฮ่องกงมาเป็นเวลากว่า ๓๐ ปี นอกจากนี้ฮ่องกงยังเป็นตลาดศักยภาพสูงเป็นประตูการค้าที่จะสามารถขยายปริมาณการค้าข้าวหอมมะลิไทยที่ได้ชื่อว่าเป็นข้าวเกรดสูงเข้าสู่กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางมาท่องเที่ยวและแหล่งช้อปปิ้งในฮ่องกงที่มีมากถึงปีละ ๓๐ ล้านคน ดังนั้น ที่ประชุมจึงได้กำหนดกลยุทธ์ที่สำคัญเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในฮ่องกงร่วมกัน โดยมุ่งเน้นตลาดค้าปลีก และกลุ่มลูกค้าระดับกลางในการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้บริโภคได้รับทราบถึงคุณสมบัติคุณภาพและมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทย เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสับสนระหว่างข้าวหอมมะลิไทยและข้าวชนิดอื่น ๆ โดยผ่านช่องทางการจัดกิจกรรมส่งเสริมการบริโภคข้าวไทย อาทิ จัดงานนิทรรศการอาหารไทย (Trade Fair) การปรุงอาหารจีนกวางตุ้งเพื่อรับประทานกับข้าวหอมมะลิไทยในซุปเปอร์มาเก็ต พร้อมแจกตัวอย่างข้าวหอมมะลิไทยเพื่อให้ทดลองที่บ้าน การออกสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์เพื่อส่งเสริมความรู้ความ เข้าใจความแตกต่างของข้าวหอมมะลิไทยกับข้าวชนิดอื่น

ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเสริมท้ายว่า เป็นที่น่ายินดีว่าการประชุมดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในแผนงานที่ประสบความสำเร็จภายใต้ยุทธศาสตร์ตลาดข้าวหอมมะลิไทยที่กระทรวงพาณิชย์กำลังเร่งดำเนินการอยู่เพื่อมุ่งเน้นให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านคุณภาพและมาตรฐานข้าว โดยการผลักดันการส่งออกข้าวในเชิงมูลค่าแทนการส่งออกในเชิงปริมาณ เพื่อลดการแข่งขันด้านราคากับประเทศคู่แข่งและสร้างความเหนือชั้นในคุณภาพมาตรฐานของข้าวหอมมะลิไทยและข้าวไทย นอกจากนี้การประชุมดังกล่าวทำให้เกิดความสัมพันธ์ทางการค้าที่แนบแน่นระหว่างไทยและฮ่องกง อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานเพื่อพัฒนาตลาดข้าวหอมมะลิไทยร่วมกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนซึ่งจะนำไปสู่การการค้าข้าวที่มั่นคงและยั่งยืน อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นต้นแบบในการรักษาตลาดข้าวหอมมะลิไทยในประเทศผู้นำเข้าหลักอื่น ๆ เช่น อเมริกา สิงคโปร์และจีน เป็นต้น

ฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกข้าวหอมมะลิไทยของไทยอันดับที่ ๒ รองจากสหรัฐอเมริกาและเป็นตลาดส่งออกข้าวหอมมะลิไทยอันดับ ๑ ในเอเชีย โดยมีปริมาณการส่งออกไปฮ่องกงประมาณปีละ ๒๐๐,๐๐๐ ตัน มูลค่า ๒๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ ๖,๐๐๐ ล้านบาท ฮ่องกงนำเข้าข้าวปีละประมาณสามแสนห้าหมื่นตัน โดยแหล่งนำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ไทย จีน และ ออสเตรเลีย แต่ในปัจจุบันฮ่องกงมีการนำเข้าข้าวจากเวียดนามและกัมพูชาเพิ่มขึ้น