บลจ.ไอเอ็นจี ควงคู่ บลจ.ไทยพาณิชย์ คว้าสัญญาบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กสจ. มูลค่า 13,990 ล้านบาทต่อเป็นรอบที่ 2 หลังจากที่บริหารมาแล้วในช่วง 2 ปี ประธานกรรมการ กสจ.เผยเชื่อฝีมือหลังสร้างผลตอบแทนน่าพอใจในรอบการลงทุนที่ผ่านมา พร้อมมั่นใจในทีมบริหารของทั้งสองค่าย
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2553 ได้มีพิธีลงนามในสัญญาการบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ที่จดทะเบียนแล้ว (กสจ.) กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด โดยมีวงเงินกองทุนในการบริหารรวม 13,990 ล้านบาท และเป็นการรับบริหารต่อเป็นรอบที่ 2 รอบระยะเวลาบริหารตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2553-31 กรกฎาคม 2555
ดร.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ประธานกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว (กสจ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการ กสจ.ได้มีมติมอบหมายให้ บลจ.ไอเอ็นจี และ บลจ.ไทยพาณิชย์ ร่วมกันบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต่อเป็นวาระที่ 2 นั้น เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า บลจ.ทั้งสองแห่งได้ใช้ความรู้ความสามารถตามหลักวิชาชีพในการบริหารกองทุน กสจ. แม้ว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2551-2553 จะมีปัจจัยทั้งภายในและภายนอกกระทบภาวะการลงทุนก็ตาม ทำให้สมาชิกได้รับผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ โดย กสจ. เชื่อมั่นว่า การบริหารกองทุนภายในวงเงิน 13,990 ล้านบาทในวาระที่สองนั้น บริษัทจัดการกองทุนทั้ง 2 แห่งจะยังคงบริหารได้อย่างเป็นที่พึงพอใจของสมาชิก ภายใต้นโยบายการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและภาพรวมการลงทุน
ด้าน นายต่อ อินทวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจกองทุนและที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ไอเอ็นจี มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ที่ได้มอบหมายให้ บลจ. ไอเอ็นจี บริหารจัดการ กสจ. มาตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2545 ด้วยมูลค่าเริ่มต้นประมาณ 3,271 ล้านบาท จนถึงปัจจุบันรวมเป็นระยะเวลาประมาณกว่า 8 ปี โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผลตอบแทนที่ทาง บลจ.ไอเอ็นจี บริหารให้ กสจ. นั้นถือว่าเป็นที่น่าพอใจของคณะกรรมการ กสจ. มาโดยตลอด ทั้งในช่วงที่ตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้มีความผันผวนมากหรือในภาวะที่ตลาดลงทุนมีภาวะเอื้ออำนวย
ทั้งนี้เป็นเพราะ บลจ. ไอเอ็นจีเข้าใจถึงวัตถุประสงค์การลงทุนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างแท้จริง ประกอบกับแนวทางการบริหารแบบ Active Management และระบบควบคุมความเสี่ยงที่ทาง บลจ. ไอเอ็นจี นำมาใช้กับ กสจ. ได้อย่างเหมาะสม ทำให้การบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของ กสจ. ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และ บลจ. ไอเอ็นจี ต้องขอขอบพระคุณอีกครั้งที่ได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการ กสจ. ที่ให้บริหารจัดการ กสจ. ต่อไปอีก 2 ปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2553 เป็นต้นไป ด้วยการบริหารทรัพย์สินประมาณ 7,057 ล้านบาท
สำหรับการบริหารร่วมกับ บลจ.ไทยพาณิชย์นั้น ได้ดำเนินการเป็นครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2551 - 31 กรกฎาคม 2553 ซึ่งครั้งนี้นับเป็นการบริหารร่วมกันเป็นครั้งที่ 2 ทำให้ บลจ.ไอเอ็นจี มั่นใจว่า ทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และเพื่อสร้างผลประโยชน์ที่ดีให้กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว
“บลจ.ไอเอ็นจีมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริการธุรกิจการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้ก้าวขึ้นสู่ระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม โดยที่ผ่านมาเราได้รับการยอมรับจากลูกค้ารายใหญ่ในด้านการให้บริการและผลงานด้านฝีมือบริหารจัดการกองทุน โดยสามารถสร้างผลตอบแทนจนเป็นที่น่าพอใจของลูกค้า และในช่วงปลายปีนี้เรามีแผนที่จะนำเสนอรูปแบบการให้บริการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ING Investment Choice Provident Fund ที่เพิ่มทางเลือกให้สมาชิกสามารถเลือกรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับตนได้มากขึ้น” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจกองทุนและที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าว
ด้าน นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงได้รับความไว้วางใจจาก กสจ.ให้บริหารกองทุนต่อเนื่องเป็นรอบที่ 2 โดยในส่วนของพอร์ตที่รับผิดชอบมีมูลค่ารวม 6,790 ล้านบาท ซึ่งเป็นตามที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯสามารถบริหารพอร์ต กสจ.ให้มีผลการดำเนินงานที่ดีและสร้างผลตอบแทนในระดับเหนือตลาดมาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าจะยังสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับกสจ.ได้ในระดับที่น่าพอใจได้ โดยปัจจุบัน บลจ.ไทยพาณิชย์ยังคงเป็นผู้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม ด้วยมูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารประมาณ 83,000 ล้านบาท
“การได้รับความไว้วางใจจากกสจ.ในการให้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต่อนั้น ทำให้มั่นใจว่าบริษัทฯจะสามารถรักษาฐานลูกค้ารายใหญ่เดิมไว้ได้ตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งยังมีหน่วยงานองค์กรขนาดใหญ่ที่บริษัทฯจะเข้าร่วมประมูลภายในสิ้นปีนี้อีก 3 - 4 ราย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯไม่ได้โฟกัสที่ลูกค้ารายใหญ่เท่านั้น แต่จะยังเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ทั้งขนาดกลางและขนาดเล็กด้วยเพื่อสร้างฐานกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น พร้อมกับเตรียมเสนอการลงทุนรูปแบบ Employee’s Choice 5 แผนลงทุนเพื่อให้สมาชิกเลือกแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง และยังมีแนวทางในการจัดตั้งกองทุนในลักษณะ Master Fund Plus ซึ่งจะเป็นการลงทุนผ่านกองทุนรวมของบลจ.ไทยพาณิชย์ โดยเพิ่มทางเลือกให้กับสมาชิกสามารถผสมแต่ละ Asset class ตามความรู้และความเสี่ยงที่รับได้ ส่วนสมาชิกกสจ.จะเข้าสู่ระบบ Employee’s Choice หรือไม่ ต้องดูความพร้อมของ กสจ.ด้วยเนื่องจากมีสมาชิกจำนวนมากและกระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องให้ความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องก่อนแล้วจึงเสนอเป็นทางเลือก” นางโชติกา กล่าว
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว (กสจ.) ลงนามในสัญญาแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) รับหน้าที่บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพรอบสัญญา 2 ปี ต่อเนื่องอีกวาระสัญญา โดยได้รับเกียรติจาก นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานกรรมการ กสจ. (กลาง) และนายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย (ซ้าย) พร้อมด้วยนายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี (ขวา) ร่วมลงนามในสัญญา โดยมีคณะผู้บริหารและ
นายพจนารถ แสงพฤกษ์ (ซ้าย) และนายสุรเดช เกียรติธนากร (ขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย พร้อมด้วย นางผานิตย์ มีสุนทร (กลาง) รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานกรรมการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ซึ่งจดทะ...
นางผานิตย์ มีสุนทร (ที่ 3 จากซ้าย) รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานกรรมการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการ (กสจ.) นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ...