กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--SIXNATURE PR
ปอ (เร แม๊คโดแนลด์) ผู้กำกับหนุ่มที่ล้มเหลวทั้งเรื่องความรักและการงาน กำลังอยู่ในช่วงตกอับ เขาจำใจเดินทางไปเมืองปากเซ เพื่อรับจ้างถ่ายภาพงานแต่งงานในงานนั้น เขาได้รู้จักกับหญิงสาวชื่อ สอนไพรวัลย์ (คำลี่ พิลาวง) สาวลาวที่ดูใสซื่อน่ารัก
แรงบันดาลใจทำให้ชายหนุ่มเขียนบทหนังเรื่องใหม่ เล่าเรื่องของช่างภาพหนุ่มที่เข้าไปเมืองปากเซ แล้วหลงรักสาวลาว ในหนังนั้นดูโรแมนติกชวนฝัน แต่ในความจริงดูเหมือนชายหนุ่มทำอะไรก็ยิ่งล้มเหลว และสาวก็มักจะเข้าใจผิดกับความหวังดีของเขาอยู่ตลอด ความรักและความฝันมาถึงบทสุดท้าย เมื่อปอพบความจริงว่า แฟนของสาวเจ้าที่อยู่ฝรั่งเศสกำลังเข้ามาเที่ยวที่เมืองนี้ ก่อนวันจะกลับ ปอจึงหาโอกาส ในการที่จะบอกให้เธอเข้าใจในความรักของเขา
แต่ทว่า..จะทำยังไงดี..ก็ความรักจริงๆ มันไม่เหมือนบทหนังที่เขียนจากจินตนาการน่ะสิ..
พบกับการผจญภัยผสมความเข้าใจผิด เรื่องของความรัก และความฝัน ในดินแดนลาวอันสวยงาม ในบทที่ 2 ของหนัง“ไตรภาคแห่งความรักจากเมืองลาว”
สะบายดี 2 ไม่มีคำตอบจาก..ปากเซ
ที่ประเทศลาว....จากหลวงพะบาง ถึง ปากเซ
โป๋ย ศักดิ์ชาย ดีนาน ผู้เขียนบทและกำกับ เล่าถึงหนังว่า สำหรับผู้ชม จากเรื่องสะบายดีหลวงพะบาง ที่เราได้เห็นบ้านใกล้เรือนเคียงของเรา เห็นธรรมชาติ เห็นความแปลกตา เห็นวัฒนธรรมบางอย่างที่ไทยเคยมี วันนี้อาจจะยังมีอยู่ แต่น้อยลงแล้ว หาดูได้ยาก เห็นวิวแปลก ๆ ที่เราไม่เคยเห็น แต่พอมาถึงเรื่องไม่มีคำตอบจากปากเซ มันก็มีตรงนี้อยู่เหมือนกัน บางสถานที่ ที่ไม่ได้ถ่ายทอดในเรื่องหลวงพระบาง ก็จะมีที่เพิ่มใหม่ขึ้นมา
“ปากเซ” เป็นเมืองที่ตั้งใจไว้ ตั้งแต่เขียนบท มันคือสถานที่ที่เราไปมาแล้วมีภาพชัดไว้เลยว่าจะถ่ายที่ไหน บ้านใคร โรงแรมไหน ถ่ายแม่น้ำตรงไหน เราเห็นภาพมาหมดแล้ว เหมือนเขียนจากสถานที่จริง
ศักดิ์ชาย เล่าต่อว่า สถานที่ถ่ายทำที่ประทับใจที่สุดคือปราสาทวัดพู เพราะว่ามันเป็นมรดกโลก ที่ผ่านมาก็พอมีบ้างที่เป็นสารคดีไปถ่ายทำ แต่นี่มันเป็นครั้งแรกที่ปราสาทนี้จะถูกถ่ายทอดออกมาให้คนเห็นในรูปแบบของหนัง ถูกฉายในจอใหญ่ ลงเป็นฟิล์ม เราก็รู้สึกดีอยู่ลึก ๆ ที่เราจะได้เป็นคนถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมเก่า ๆ ซึ่งเก่ากว่านครวัด นครธมอีก แล้วมันยังคงสวยงาม และเป็นธรรมชาติอยู่ด้วย บรรยากาศตอนที่ถ่ายที่นั่น แสง กับอากาศก็ดีมาก นักแสดงก็เล่นกันได้ตามแพลนที่วางไว้ ก็รู้สึกว่าเป็นวันที่ถ่ายแล้วประทับใจ ทั้งที่วันนั้นเราต้องนั่งแพข้ามแม่น้ำโขงไป ต้องเอารถ เอาคน เอาของขึ้นไปถ่ายบนภูเขาอย่างค่อนข้างลำบาก แต่ก็รู้สึกว่าได้งานมาคุ้มค่า
เร แม๊คโดแนลด์ หนุ่มเซอร์ คนขายฝัน นักผจญภัย
ดีใจครับที่พี่โป๋ยเขาอยากให้ผมร่วมงานด้วย ตอนที่เจอพี่โป๋ยครั้งแรก “เออใช่เหรอ พี่คนนี้เป็นผู้กำกับหรือเปล่า” คือว่าพี่เขาจะเซอร์เล็กน้อย แล้วพี่เขาก็มีวิธีทำงานที่ชัดเจน คือผมได้ร่วมงานกับผู้กำกับหลายๆ ท่าน ถือว่าพี่คนนี้เป็นคนที่มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนที่สุด ตอนแรกที่พี่เขายื่นบทมาให้ แล้วบอกว่าต้องเล่นเป็นพี่เขา เราก็ โอ้โห คือว่าเล่นเป็นตัวพี่เขาเต็มๆ ก็ยากนิดหนึ่ง เราก็เอามาผสมกับความเป็นเรา พยายามเข้าถึงคาแรคเตอร์ของหลายๆ ผู้กำกับที่เรารู้จัก แล้วแสดงออกมา
พี่เขามาบอกว่าเป็นหนังไตรภาค คือภาคที่ผมเล่นเนี่ยเป็นภาค 2 แต่เรื่องมันย้อนกลับไปก่อนเรื่องแรก ก่อนที่อนันดาจะเล่น ฟังแล้วก็เออ มันน่าสนใจ พอได้อ่านบทก็ชอบ ขำกับบทเรื่อยๆ ผมเนื้อเรื่องทำให้เราสัมผัสกับมันได้ รู้สึกว่ามันจริงใจดีครับ
การที่พี่เขาได้ไปทำงานที่นั่น ได้ไปพบผู้หญิงที่นั่น คงเหมือนการไปท่องเที่ยวและผจญภัย คงทำให้เขาอินและอยากจะเอามาถ่ายทอดให้คนอื่นรู้สึกแบบเดียวกัน
ผมก็แอบถามพี่เขาเหมือนกันว่าไปเจอประสบการณ์อย่างนี้มาจริงหรือเปล่า เขาก็บอกว่าหลายเหตุการณ์ไปเจอมาประมาณนี้ พอเราเชื่อว่ามันเป็นประสบการณ์ของคนๆ หนึ่งที่เขาไปเจอะเจออะไรมา ทำให้เราอินไปกับบทกับเรื่องราว แล้วมันก็ทำให้เราแอบยิ้ม แอบขำ.........แต่เราก็ไม่แน่ใจว่าคนอื่นไปดูเขาจะขำกับเราหรือเปล่า แต่ที่เราแน่ใจก็คือหนังเรื่องนี้มันจริงใจมากๆ ตอนจบก็ซึ้งกินใจ...
คำลี่ พิลาวง สาวลาวสมัยใหม่ กล้าคิดกล้าทำ
“คำลี่รู้สึกดีใจที่ตัวเองมีโอกาสดีๆ ที่เข้าไปมีส่วนร่วมกับหนังเรื่องนี้ ดีใจที่มีคนรู้จักหลายคนที่ประทับใจผลงานและให้กำลังใจคำลี่ บทในเรื่องนี้ ตอนแรกพี่เขาบอกว่าเป็นตอนก่อนเริ่มเรื่องสบายดีหลวงพะบาง เราก็งงว่า เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นตอนที่เกิดเรื่องที่เมืองลาว ก่อนที่ตัวละครนั้นจะมาเจอกับอนันดา แต่พี่โป๋ยเขามีไอเดียที่ดี ที่ว่าเขียนต่อออกมาได้อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่าสนุกดี
บทคำลี่ได้รับมีคาแร็คเตอร์แตกต่างจากสะบายดีหลวงพะบาง ที่คำลี่แสดงเป็นผู้หญิงที่ใสซื่อ สาวเรียบๆ แต่เรื่องนี้คำลี่จะเป็นคนที่ดูเก่งกล้า กล้าคิดกล้าทำ เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองแต่ก็มีความเป็นธรรมชาติอยู่
คำลี่ก็ขอฝากหนังเรื่อง ไม่มีคำตอบจากปากเซ ด้วย ถือเป็นเรื่องที่สองที่ได้ถ่ายทำในประเทศลาว คิดว่าคนดูคงสนุกไปกับเนื้อเรื่องที่สบายๆตลกๆ คงจะสร้างเสียงหัวเราะให้หลายๆคนได้ แล้วก็ยังได้ดูทิวทัศน์งามๆ ของประเทศลาว ซึ่งแถบลาวใต้ก็จะมีเอกลักษณ์ที่เป็นเสน่ห์ของตัวเอง
ศักดิ์ชาย ดีนาน คำให้การของผู้ควบคุมงานสร้าง, ผู้กำกับ, คนเขียนบท, เจ้าของเรื่อง และต้นแบบ
จุดเริ่มต้นของเรื่อง....การเดินทางและความรัก
แรกเริ่มเลยก็จากการไปเที่ยวปากเซ คือบ้านผมอยู่สุรินทร์ ก็อยู่ใกล้ ๆ แต่ก็ไม่เคยได้ไปลาวสักที พอมีโอกาสได้ไปครั้งแรกเมื่อปี 49 ก็ดูตื่นเต้นดี ได้เห็นวิถีชีวิตของคนลาวและเมืองลาว ก็เหมือนกับที่เราไปเที่ยวแล้วก็อยากเอาเรื่องประทับใจมาเล่าให้เพื่อนฟัง ก็เลยเขียนเป็นบทเรื่องสบายดีหลวงพระบางขึ้นมา
พอหลังจากหนังจบ ผมก็ยังคิดถึงเมืองลาวอยู่ ก็มีความคิดเหมือนกันว่า อาจจะทำภาคสอง เป็นเหตุการณ์ช่วงหนึ่งปีต่อมา ที่ตัวละครสอนกับน้อยในสบายดี กลับมาเจอกัน ก็เริ่มๆ คิดไว้
พอดีเรื่องสะบายดีหลวงพะบาง ฉายเดือนมิถุนายน ปี 51 หลังจากนั้นในเดือนสิงหาคม ที่เมืองปากเซมีการเปิดโรงหนังขึ้นมาใหม่แล้วฉายเรื่องนี้ ผมว่างๆพอดีเลยเข้าไปเที่ยว ช่วงที่นั่งรถเข้าเมืองก็นั่งคิดไปถึงตอนมาที่นี่ครั้งแรก เวลาผ่านไปปีกว่าผมก็ได้กลับมาดูหนังกับคนลาว เป็นประสบการณ์ที่ประทับใจ ตอนนั้นก็เลยมีความคิดขึ้นมาอีกอันหนึ่ง กลับไปเล่าถึง ช่วงเวลาก่อนจะทำหนังเรื่องสบายดีหลวงพะบาง
คราวนี้ก็เลย เริ่มเขียนเรื่องของผู้กำกับหนังตกอับ แล้วไปรับจ็อบถ่ายภาพงานแต่งงานที่ลาว แล้วก็ได้ไปเจอสาวลาว ไปเจอคนลาว เจอวิถีชีวิต แล้วเอาประสบการณ์ชีวิตตรงนี้ มาทำเป็นหนังเรื่องต่อไปของเขา มันก็จะพูดถึงของคนจากเมืองใหญ่ ที่ไปหลงรักสาวเมืองเล็ก ๆ ซึ่งผู้ชายเนี่ยมันเข้าใจไปเอง ว่าตัวเองเนี่ย เท่ห์สุดๆ สาวน่าจะชอบ แต่สาวเขาอาจจะไม่รู้สึกอย่างนั้นกับเขาก็ได้ ซึ่งทำให้หนังมันจะออกมาเป็นคอเมดี้ เป็นสถานการณ์ของคนรั่ว ๆ คนหนึ่งที่ไปทำอะไรบ้าๆ บอๆ ในเมืองลาว
ที่เลือกเร เพราะเขาเป็นคนที่มีแบ็กกราวด์ของตัวเองอยู่แล้ว ในเรื่องของความเป็นคนครีเอทีฟ ความที่เป็นคนทำงาน เขาก็เข้าใจมุมของคนทำงานในวงการหนังหรือว่าคนที่ทำงานด้านนี้ น่าจะถ่ายทอดบางส่วนจากตัวของเขาเอง บางส่วนจากสิ่งที่เขาสัมผัสจากการทำงาน ทำให้ได้คาแร็กเตอร์ที่ออกมาแล้ว มันเป็นธรรมชาติดี เป็นคนติดดินที่ดูเข้าใจ แล้วก็สัมผัสได้ และมีอีกด้านหนึ่งคือมุมคนช่างฝัน และหวังที่จะทำตามความฝันของตัวเอง
เร เป็นนักแสดงที่รู้สึกว่า เขาเข้าใจตัวละครที่เล่น แล้วก็เตรียมตัว เตรียมอะไรมาดี ทำให้ทำงานได้ราบรื่นดี อีกอย่างเรเป็นคนมีมุมกวนๆ สนุกสนานแบบเป็นธรรมชาติ โดยไม่ฝืน มันก็เลยเป็นการทำงานที่ออกมาในหนังแล้วค่อนข้างจะราบรื่น แล้วสิ่งที่ เร แสดงออกมามันทำให้เชื่อได้จริงๆว่าคนๆนี้ ในสายตาคนอื่นมันอาจล้มเหลวยังไง แต่เขาก็ยังเชื่อมั่นในความคิดของเขา เชื่อมั่นในสิ่งที่เขาทำ มันทำให้ตัวละครมันมีอะไรมากขึ้นกว่าเดิม
ส่วนที่ยังเป็นคำลี่ ตอนเรื่องที่แล้ว เราไปเปิดแคสที่เวียงจันทร์ ซึ่งเราก็เลือกคนที่เคยถ่ายแบบบ้าง คนที่เคยประกวดอะไรบ้าง ก็มีมาหลายคน ใช้เวลาแคสอยู่ 1 สัปดาห์ ซึ่งสุดท้ายก็มาลงตัวที่คำลี่ เพราะเขาดูแล้วเป็นธรรมชาติที่สุด เวลาการพูด การแสดงออกทางสีหน้า ก็เหมาะกับบท ซึ่งบทตอนนั้นในสบายดี จะเป็นสาวลาวที่ซื่อ ๆ เป็นไกด์ ที่ดูออกจะโก๊ะ ๆ หน่อยด้วยซ้ำไป ก็เหมาะกับวัยเขา เหมาะกับตัวเขา แต่ในเรื่องสบายดี 2 นี้ เราจะเปลี่ยนให้เขาเป็นอีกแบบ เป็นสาวสมัยใหม่ที่เรียนจบมาจากเมืองนอก หยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเอง เป็นสาวที่ดูกล้าคิดกล้าทำกว่าคนอื่นๆ
การที่ได้กลับมาร่วมงานอีกครั้ง คำลี่เขาก็ดีใจ เพราะว่าที่ลาวเอง เขาก็ไม่มีหนัง ไม่มีละครให้เล่น ตัวเขามีงานหลักก็คือเป็นนักศึกษา พอปิดเทอมก็ได้มาแสดงหนัง มันก็เป็นอีกงานหนึ่ง ที่เขาได้ประสบการณ์ ได้เรียนรู้
น้องอาร์ต และ น้องเมษา
เป็นความชอบส่วนตัวเลย เพราะว่าเวลาอยู่บ้านก็ชอบเล่นกับหลานอยู่แล้ว ก็ชอบคุย ชอบหยอกกับเด็ก เรารู้สึกว่าเด็กนี่เวลาที่อยู่ในหนัง หรืออยู่ในเหตุการณ์ใด ๆ ความซื่อของเด็กมันทำให้มีความน่ารัก มันเพลิน ๆ เหมาะที่จะไปกับเรื่องเบา ๆ ของหนังได้ ก็เลยชอบเอาบทเด็กมาใส่ในหนัง ตอนนี้ก็เลยอาจจะกลายเป็นโลโก้ของหนังผมไปเลยก็ได้ เพราะหนังที่ถ่ายลาวสามเรื่อง มีเด็กสองคนนี่ตลอด
เมษานี่เป็นเด็กฉลาดและน่ารักมาก จำบทได้เร็วและสนุกกับการทำงาน ทำให้นักแสดงที่เล่นกับเขาก็พลอยสนุกไปด้วย ส่วนอาร์ตนี่จะเป็นเฉพาะบางวัน ตามอารมณ์มากกว่า บางวันอารมณ์ดีก็แสดงได้คล่อง บางวันง่วงๆนี่จำบทผิดอยู่บ่อยๆ เคยถามเขาว่าทำไมเป็นแบบนี้ เขาบอกว่ากังวลเรื่องการเรียน เพราะช่วงนั้นลาเรียนมาถ่ายหนัง แต่ที่ผมได้ข่าวมา สอบเข้ามอหนึ่งได้ที่สี่ร้อยกว่า จากคนสอบห้าร้อยน่ะ(หัวเราะ) แต่เขาก็ยังยืนยันว่าตัวเองตั้งใจเรียนมาก
จากผู้กำกับฯ ถึงผู้ชม
นอกจากเรื่องทิวทัศน์และบ้านเมืองที่คงความสวยงามแล้ว เราก็อยากจะเล่าเรื่องของคน เรื่องวัฒนธรรม หรือเรื่องราวที่เราไปเจอด้วย
ผมเป็นคนชอบทำหนังจากเรื่องที่ได้ไปเจอมา แล้วเอามาถ่ายทอด ทำหนังที่ใกล้ตัวเรา ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน เป็นหนังซื่อ ๆ ไม่ทำหนังที่ดูแล้วเข้าใจยาก ต้องตีความ
สำหรับเรื่องสะบายดี2 ไม่มีคำตอบจากปากเซ ถ้าคนดูยังชอบที่จะได้เห็นเมืองลาวอีกครั้ง ก็ยังสามารถมาดูได้อยู่ หรือถ้าอยากมาดูหนังที่เล่าเรื่องของคนที่มีความฝัน คนมองโลกในแง่ดี ฝันจะทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ในมุมของหนังตลกอารมณ์ดี ก็ยังสามารถเจอได้ในหนังเรื่องนี้ครับ
ประวัติและผลงานของ ศักดิ์ชาย ดีนาน
ศักดิ์ชาย ดีนาน หรือเจ้าของชื่อเล่นว่า โป๋ย เกิดที่จังหวัดสุรินทร์ สมัยเด็กชอบดูหนังกลางแปลงเป็นชีวิตจิตใจ ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับภาพยนตร์ ใฝ่ฝันอยากเป็นคนทำหนัง เริ่มจากการเป็นคนเขียนบท เพราะพื้นฐานชอบการอ่านการเขียน ศึกษาวิธีการเขียนบทจากหนังสือของหนัง รวมไปถึงการศึกษา วิธีการเล่าเรื่องจากการดูภาพยนตร์ต่างประเทศ
เข้าสู่วงการภาพยนตร์ด้วยการเป็นพนักงานประจำตำแหน่งนักเขียนบทภาพยนตร์ให้กับอาร์เอสฟิล์มยุคที่มี อดิเรก วัฏลีลา หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม "อังเคิ้ล" กุมบังเหียนเมื่อปี พ.ศ.2539 ขณะอยู่ที่อาร์เอสฟิล์มได้เข้าไปมีส่วนกับการเขียนบทภาพยนตร์หลายเรื่อง มีชื่อเป็นผู้เขียนบทร่วม ภาพยนตร์เรื่อง "ฝันติดไฟหัวใจติดดิน" (2541) "ปาฏิหาริย์โอม-สมหวัง" (2541), "โคลนนิ่ง คนก็อปปี้คน" (2542) ลาออกจากอาร์เอสฟิล์มในช่วงต้นปี พ.ศ.2542 เพื่อมาเป็นนักทำหนังอิสระ
หลังจากนั้นกลับมาร่วมงานกับอังเคิลอีกครั้งที่ฟิล์มบางกอกในช่วงปี พ.ศ.2543 ในฐานะครีเอทีฟและที่ปรึกษาด้านบทภาพยนตร์ อาทิ "บางระจัน" (2543), "โกลคลับ เกมล้มโต๊ะ" (2544) และ "พรางชมพู" (2545) ปัจจุบันมาเป็นคนทำหนังอิสระอีกครั้งหนึ่ง
2539-2542 ทำงานตำแหน่ง เขียนบท RS Film 2543-2546 ทำงานตำแหน่ง ครีเอทีฟและที่ปรึกษาบทภาพยนตร์ Film Bangkok
เขียนบทภาพยนตร์ -ฝันติดไฟ หัวใจติดดิน RS Film,2540 -ปาฎิหาริย์ โอม-สมหวัง RS Film,2541 -โคลนนิ่ง คนก็อปปี้คน RS Film,2542 -ศพ(อาจารย์ใหญ่) สหมงคลฟิล์ม,2549 -หลวงพี่กับผีขนุน สหมงคลฟิล์ม,2552
เขียนบทและกำกับภาพยนตร์ -ก็เคยสัญญา(ชาติที่1) แม็ทชิ่ง,2548
เรื่องและบท-โปรดิวเซอร์-กำกับภาพยนตร์ -สะบายดี หลวงพะบาง สปาร์ต้าครีเอทีฟ,2551
เรื่องและบท-โปรดิวเซอร์-อำนวยการสร้าง-กำกับภาพยนตร์ -สะบายดี 2 ไม่มีคำตอบจากปากเซ สปาร์ต้าฟิล์ม,2553
รายชื่อทีมงาน สปาร์ต้า ฟิล์ม,ลาวอาร์ตมีเดีย ร่วมสร้าง ลาวสตาร์ แชนแนล,ปาทังก้า พิกเจอร์ ดำเนินงานสร้าง กำกับภาพยนตร์ ศักดิ์ชาย ดีนาน เรื่องและบทภาพยนตร์ ศักดิ์ชาย ดีนาน อำนวยการสร้าง ศักดิ์ชาย ดีนาน,อนุสอน สิริสักดา,ภาสกร นิ่มประทุม, พงษ์ศักดิ์ พงษ์นุเคราะห์ศิริ ควบคุมงานสร้าง ศักดิ์ชาย ดีนาน ประสานงานการสร้าง วันนเดช แก้วเวียงคำ,พรเทพ ฉั่วยั่งยืน กำกับภาพ สิทธิพงษ์ กองทอง ออกแบบงานสร้าง ศิริพล ปราสาททอง ผู้ช่วยผู้กำกับศิลป์ คณาธิป ศิริเวศ เฉวงศักดิ์ ธรรมเจริญ จัดหาสถานที่ พรเทพ ฉั่วยั่งยืน ผู้จัดการกองถ่าย จศิธา ชนะภัย ผู้ช่วยผู้จัดการกองถ่าย ดาวรรณ อินทร์ปัญญา ผู้ช่วยผู้กำกับ 1 อดิเรก โพธิ์ทอง ผู้ช่วยผู้กำกับ 2 สุรพันธุ์ ลิ้มสุวรรณศิลป์ ออกแบบเครื่องแต่งกาย พริสร สุทธสาส์น ภัทรพร สุวรรณพาณิชย์ ควบคุมความต่อเนื่อง สายทิพย์ บุนยสมภพ ลำดับภาพ สุรศักดิ์ ปานกลิ่น แต่งหน้า ธนัญชัย อินทฤทธิ์ ทำผม อัสกรณ์ ศิริกุล ภาพนิ่งและเบื้องหลัง คณพศ ธัญธนเจษฎาภา ฟิล์มแล็ปและบันทึกเสียง สยามพัฒนาฟิล์ม ดนตรีประกอบ ไอโปอี้ สตูดิโอ & ป๋วย พีทู วอชิพ กราฟฟิก ถนัด 2D
ข้อมูลภาพยนตร์
TITLE “สะบายดี 2 ไม่มีคำตอบจากปากเซ” GENRE โรแมนติค คอมิดี้ CAST เร แม๊คโดแนลด์ , คำลี่ พิลาวง DIRECTOR ศักดิ์ชาย ดีนาน FILM PRODUCTION สปาร์ต้า ฟิล์ม ,ลาวอาร์ตมีเดีย RELEASE DATE 2 กันยายน 2553 ความยาวภาพยนตร์ 97 นาที เวบไซต์ www.sabaideethemovie.com www.ไม่มีคำตอบจากปากเซ.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit