อียูจะสั่งห้ามใช้สาร Bisphenol A ในการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหาร อียูเตือนห้ามใช้สาร Bisphenol A หรือ BPA ในการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหาร เพราะมีความเสี่ยงอันตรายต่อฮอร์โมน ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมและโรคเบาหวาน

19 Aug 2010

กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--คต.

นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่าจากผลการศึกษาของสถาบันผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและปกป้องผู้บริโภค (The Institute for Health and Consumer Protection : IHCP) ใน EU พบว่าการใช้สาร Bisphenol A หรือ BPA ในการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหาร มีความเสี่ยงอันตรายสูงต่อผู้บริโภค จะส่งผลกระทบต่อฮอร์โมน ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมและโรคเบาหวาน แต่ยังคงมีความปลอดภัย หากมีการใช้ในปริมาณน้อย ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงด้านสิ่งแวดล้อมของเยอรมนีได้ขอให้บริษัทที่ผลิตสินค้าดังกล่าวใช้สารอื่นทดแทน สำหรับเดนมาร์กและสวีเดนได้งดใช้สารเคมีดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ European Food Safety Authority : EFSA จะพิจารณาต่อไปว่าควรเพิ่มสารเคมีเหล่านี้เข้าไปในบัญชีรายชื่อสารเคมีที่มีความน่าห่วงกังวลสูง (Substances of Very High Concern : SVHC) หรือรายชื่อสารเคมีที่ต้องขออนุญาตใช้ตามระเบียบ REACH หรือไม่ นางสาววิบูลย์ลักษณ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดรัฐนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ออกกฎหมายห้ามผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับเด็กที่มีสาร Bisphenol A โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2553 เป็นต้นไป ดังนั้น ผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทยจะต้องระมัดระวังไม่ใช้สาร BPA ในการผลิตสินค้าบรรจุภัณฑ์อาหาร เพื่อให้สามารถส่งสินค้าไปจำหน่ายใน EU และสหรัฐฯได้ต่อไป

ที่มา :

1. สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศฯ ณ กรุงบรัสเซลส์

2. http://www.bureauveritas.com