กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--บลจ.ทหารไทย
บลจ.ทหารไทย เปิดตัวกองทุน RMF น้องใหม่ “ธนไพศาล เพื่อการเลี้ยงชีพ” เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะปานกลางถึงยาว กำหนดเปิดขาย 14-21 กันยายน ศกนี้ ผู้สนใจสามารถลงทุนด้วยมูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาทพร้อมเปิดขาย 2 กองทุนพันธบัตรใหม่ ได้แก่ กองทุนเปิดทหารไทย ไพร์ม ฟันด์ รุ่นที่ 5 (TMBPF5) อายุประมาณ 4 เดือน และกองพันธบัตรเกาหลีใต้รุ่นที่ 108 (TMBKFS108) อายุประมาณ 1 ปี 10 เดือน กำหนดเปิดขายระหว่างวันที่ 15-21 กันยายน 2543
ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้เตรียมออกกองทุนตราสารหนี้น้องใหม่ในตะกูล RMF เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ที่ต้องการออมเงินในระยะยาวเพื่อการเลี้ยงชีพภายหลังการเกษียณอายุซึ่งไม่ต้องการลงทุนในหุ้นซึ่งมีความเสี่ยงสูง แต่ขณะเดียวกันยังคงคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยที่สูงขึ้นกว่าการลงทุนในกองทุนตลาดเงิน บริษัทฯ จึงได้ตั้งกองทุน RMF น้องใหม่ “กองทุนเปิดทหารไทยธนไพศาล เพื่อการเลี้ยงชีพ” กำหนดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 14-21 กันยายน 2553 โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน นอกจากนั้นกองทุนจะจัดการจัดการลงทุนเพื่อให้อายุเฉลี่ยของตราสารทั้งหมดของกองทุน (Portfolio Duration) อยู่ระหว่าง 0.5 ถึง 3 ปีโดยประมาณ ผู้สนใจสามารถลงทุนด้วยมูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาท และพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนจองซื้อหรือสับเปลี่ยนเข้ากองทุนในช่วงการเสนอขายครั้งแรก (IPO) นั้น กองทุนจะไม่เรียกเก็บส่วนต่างมูลค่าหน่วยลงทุน (Spread) อีกด้วย กองทุนเปิดทหารไทยธนไพศาล เพื่อการเลี้ยงชีพ มีมูลค่าเงินทุนโครงการ 2,000 ล้านบาท มีนโยบายลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน และตราสารหนี้ภาคเอกชนชั้นดี สำหรับการลงทุนในประเทศระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี ตราสารหนี้ที่ลงทุนจะต้องได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นสองอันดับแรก คือ F1/F2 หรือเทียบเท่า ส่วนการลงทุนที่มีอายุมากเกิน 1 ปี ตราสารหนี้ที่ลงทุนต้องได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวตั้งแต่ระดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ คือระดับ BBB หรือเทียบเท่าขึ้นไป ส่วนกรณีที่ลงทุนในต่างประเทศ ตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี จะต้องได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นสองอันดับแรก คือ F1/F2 หรือเทียบเท่า ส่วนตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีอายุมากเกิน 1 ปี ต้องได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวตั้งแต่ระดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ คือระดับ A- หรือเทียบเท่าขึ้นไป ในกรณีที่เป็นตราสารด้อยสิทธิ์ต้องได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสามารถลงทุนได้เท่านั้น นอกจากนี้
กองทุนจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของเงินต้นและดอกเบี้ยที่คาดว่าจะได้รับทั้งหมด (Fully Hedge) “กองทุนเปิดทหารไทยธนไพศาลเพื่อการเลี้ยงชีพ ออกแบบขึ้นเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมในการออมแบบผูกพันในระยะยาว เพื่อให้มีเงินใช้จ่ายภายหลังการเกษียณอายุ ซึ่งผู้ลงทุนนอกจากจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแล้ว ยังจะได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยและกำไรจากเงินลงทุน โดยสามารถคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยที่สูงขึ้นกว่ากองทุนตลาดเงินหรือกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ขณะเดียวกันผู้ลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นได้จากการถือครองตราสารหนี้ภาคเอกชนรวมทั้งตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของกองทุนบางส่วนแม้จะไม่เท่ากับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นก็ตาม ถือเป็นกองทุนทางเลือกใหม่ในตระกูล RMF
และนับได้ว่าในตอนนี้ บลจ.ทหารไทย มีกองทุน RMF ที่เพรียบพร้อมครอบคลุมช่วงระยะเวลาและความเสี่ยงจากการลงทุนที่ผู้ลงทุนสามารถเลือกได้ตามความต้องการและความพอใจ กล่าวคือ กองทุนเปิดทหารไทยธนบดีเพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งกองทุนเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอยู่แล้ว โดยกองทุนนี้ถือว่าความมั่นคงสูงและความเสี่ยงต่ำเพราะทำการลงทุนในตลาดเงิน กองทุนเปิดทหารไทยธนไพศาลเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนน้องใหม่ที่ทำการลงทุนในตราสารหนี้ และกองทุนตลาดทุนอีก 2 กองทุน คือ กองทุนเปิดทหารไทย SET50 เพื่อการเลี้ยงชีพ และ กองทุนเปิดทหารไทย Jumbo25 เพื่อการเลี้ยงชีพ” ดร.สมจินต์กล่าว
นอกจากนั้น บลจ.ทหารไทยได้กำหนดเปิดขายกองทุนตราสารหนี้อีกทั้งสิ้น 2 กองทุน ประกอบด้วยกองทุนเปิดทหารไทย ไพร์มฟันด์ รุ่นที่ 5 ซึ่งมีนโยบายเน้นลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ มีอายุโครงการประมาณ 4 เดือนขนาดเงินทุนโครงการ 1,400 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนการลงทุนหลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 1.60% ทั้งนี้กองทุนจะมีการกระจายการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่หุ้นกู้ระยะสั้นธนาคารในประเทศด้วยสัดส่วนการลงทุนประมาณร้อยละ 40 ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยสัดส่วนการลงทุนประมาณร้อยละ 20 ส่วนที่เหลือจะลงทุนในรูปเงินฝากกับธนาคารบาร์เคลย์ สาขาสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประมาณร้อยละ 24 และตั๋วแลกเงินธนาคารในประเทศไทยประมาณร้อยละ 16 และกองทุนเปิดพันธบัตรเกาหลีใต้รุ่นที่ 108 อายุของกองทุนประมาณ 1 ปี 10 เดือน ขนาดเงินทุนโครงการ 1 พันล้านบาท ให้ผลตอบแทนการลงทุนหลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 2.30% โดยทั้ง 2 กองทุนได้กำหนดให้มีการทำสัญญาปกป้องความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน กำหนดเปิดขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 15-21 กันยายนนี้ ผู้สนใจสามารถลงทุนด้วยมูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาท โดยผู้ลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาได้รับการยกเว้นภาษี
ผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนลูกค้าสัมพันธ์ บลจ.ทหารไทย โทร 1725 หรือผ่านช่องทางการขายของบริษัท ได้แก่ธนาคารทหารไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ตัวแทนการสนับสนุนการขาย และบริการต่างๆของบริษัท อาทิ ระบบ FundLink Online ผ่าน Internet: www.tmbam.com, ระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ (FundLink IVR) หรือ FundLink ATM
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1725 TMBAM
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit