Thailand Pavilion พร้อมเปิดให้คนไทยชมนิทรรศการ แบบเสมือนจริงก่อนใคร มั่นใจพร้อมโชว์ความอลังการที่ World Expo ประเทศจีนปีหน้า

อาคารศาลาไทย (Thailand Pavilion) เตรียมความพร้อมซ้อมใหญ่โชว์นิทรรศการเสมือนจริงกว่า 70% ที่ยกและจำลอง 3 ห้องจัดแสดงนิทรรศการ ภายในอาคารศาลาไทย ให้คนไทยได้สัมผัสและชื่นชมเป็นครั้งแรก ก่อนนำศักยภาพความยิ่งใหญ่ไปจัดแสดง ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ด้วยเทคนิค และไฮไลท์พิเศษ ตลอดจนเบื้องหลังการจัดนิทรรศการ ระดับโลก ระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายนนี้ ที่อิมแพค เมืองทองธานี และวันที่ 9-17 ธันวาคมนี้ ณ ลานฟอร์รั่ม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า “สำหรับการจัดงานมหกรรมโลก The World Exposition Shanghai China 2010 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม-31 ตุลาคม 2553 รวม 184 วัน หรือ 6 เดือน ณ นครเซียงไฮ้ ประเทศจีนนั้น นับได้ว่ามีความสำคัญอย่างมาก ในการแสดงศักยภาพของประเทศไทย และถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศ หรือเรียกว่าเป็นการทำ National branding ที่จะเป็นโอกาสในการแสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และความเป็นอยู่ของคนไทยต่อสายตาชาวโลก ซึ่งประเทศไทยจะแสดงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ผ่านอาคารศาลาไทย (Thailand Pavilion) บนพื้นที่ 3,117 ตารางเมตร หรือเกือบ 2 ไร่ ภายใต้แนวคิด “Thainess: Sustainable Ways of Life ความเป็นไทย วิถีแห่งความยั่งยืนของชีวิต” โดยการใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอเนื้อหานิทรรศการและเทคนิคต่างๆ ที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้เข้าชมนิทรรศการ ได้รับความตื่นตา ตื่นใจ และได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่กับประเทศไทยในแง่มุมที่ไม่เคยรู้จัก มาก่อน สำหรับการก่อสร้างอาคารศาลาไทยนั้น กระทรวงฯได้มอบหมายให้กิจการร่วมค้า ไอดีทู (ID 2) เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ โดยได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าเป็นอย่างดี สามารถดำเนินการได้เร็วกว่ากำหนดที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 1 เดือน โดยมีความคืบหน้าไปกว่า 65% แล้ว คาดว่าการก่อสร้างอาคารศาลาไทยทั้งหมด จะแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2553 เพื่อพร้อมติดตั้งอุปกรณ์และสื่อต่างๆ ในส่วนการจัดนิทรรศการ ทั้ง 3 ห้อง รวมถึงการตกแต่งด้านในอาคาร และจะสามารถทดสอบการใช้อาคารได้ในเดือนเมษายน 2553 ทั้งนี้ในส่วนของการบริหารจัดการอาคารศาลาไทย ทางกระทรวงฯ ได้เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยเข้ามามีส่วนร่วม โดยได้ประกาศรับสมัครเพื่อเฟ้นหาอาสาสมัครระดับชาติ ปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวแทนชาวไทย ใน Thailand Pavilion ซึ่งมีเยาวชนให้ความสนใจเข้าร่วมสมัครกว่า 2,000 คน จากทั่วประเทศ โดยคุณสมบัติของผู้สมัครจะต้องเป็นผู้ที่มีทักษะด้านภาษาอังกฤษ-จีน มีมนุษย์สัมพันธ์ดี และสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ซึ่งตัวแทนที่ได้รับคัดเลือกในครั้งนี้ นอกจากจะมีส่วนสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยแล้ว ยังถือเป็นเวทีแสดงออกของเยาวชน ในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ พร้อมทั้งได้เรียนรู้ประสบการณ์การทำงาน ในระดับโลกอีกด้วย โดยมีการคัดเลือกจากใบสมัครกว่า 2,000 ใบ คัดเหลือเพียง 600 คน จากนั้นสัมภาษณ์รอบแรกคัดให้เหลือ 100 คน และสัมภาษณ์รอบสองคัดให้เหลือ 45 คน เพื่อฝึกซ้อมปฎิบัติงานจริงในประเทศไทย โดยจัดให้มีการปฐมนิเทศ ฝึกอบรม และพัฒนาความรู้ทั้งด้านการใช้อุปกรณ์มัลติมีเดีย ระบบแสงสีเสียง การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย และด้านไหวพริบปฏิภาณ บุคลิกภาพอย่างต่อเนื่อง โดยขั้นตอนสุดท้าย จะมีอาสาสมัครเพียง 35 คนเท่านั้นที่จะได้ไปปฏิบัติงานจริง ณ นครเซี่ยงไฮ้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การจัดงาน World expo ทุกครั้งที่ผ่านมา ประชาชนชาวไทยอาจไม่เคยเห็นหรือรับรู้เกี่ยวกับ ดังนั้น นอกจากการประชาสัมพันธ์ด้านความพร้อมของประเทศไทยในการเข้าร่วมงาน World Expo ณ นครเซี่ยงไฮ้ในครั้งนี้แล้ว กระทรวงฯ ยังมีแผนในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้ ประวัติหรือที่มาของการจัดงานดังกล่าวว่า มีความสำคัญอย่างไร ตลอดจนรูปแบบของอาคารศาลาไทยที่เคยนำไปจัดแสดงในประเทศต่างๆ มาจนถึงงานในครั้งนี้ ซึ่งการจัดซ้อมการจัดแสดงนิทรรศการเสมือนจริง (Rehearsal) ในอาคารศาลาไทยนี้ จะทำการจำลองห้องนิทรรศการทั้ง 3 ห้องเสมือนจริง ด้วยเทคนิคพิเศษ อุปกรณ์ที่ทันสมัย อาทิ ม่านน้ำ 360 องศา, และการสื่อสาร Model Talker ของหุ่นยนต์ Animatronics อินทรชิตบอค พูดคุยได้เสมือนจริง และการเล่าเรื่องผ่าน 4D Theatre ซึ่งเป็นการนำเสนอเรื่องราวความเป็นไทย ผสมผสานเทคนิคอันทันสมัย ผ่านการเล่าเรื่องใน 3 ห้องนิทรรศการ” ทั้งนี้ การซ้อมงานนิทรรศการ (เสมือนจริง) จะเปิดให้เข้าชม ระหว่างวันที่ 21 - 23 พฤศจิกายนนี้ ณ Hall 4 อิมแพค เมืองทองธานี แบ่งเป็น 5 รอบการแสดง ตั้งแต่เวลา 11.00/12.00/13.00/14.00/15.00 น. สำหรับประชาชนที่สนใจ ยังสามารถติดตามการจัดแสดงไฮไลท์ของงานได้อีกครั้ง ระหว่างวันที่ 9 - 17 ธันวาคมนี้ ณ ลานฟอรั่ม ชั้น 1 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทยในการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมภาคภูมิใจกับประเทศไทยในการเข้าร่วมงาน World Expo สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
• ข่าวศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิ
• ข่าวกระทรวงการพัฒนาสังคม
• ข่าวศูนย์การค้าเซ็นทรัล
• ข่าวสาธารณรัฐประชาชนจีน