เทศกาลปิดทองหลังพระ น้อมนำแนวพระราชดำริ ถ่ายทอดองค์ความรู้ ผ่านนิทรรศการแบบ Interactive สัมผัสประสบการณ์จริง

18 Nov 2009

กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--โครงการปิดทองหลังพระ

โครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ เตรียมความพร้อมจัดงาน “เทศกาลปิดทองหลังพระ” รวบรวมโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หวังสร้างการปลูกจิตสำนึกเยาวชนรุ่นใหม่ และประชาชนผู้สนใจ ให้มีคุณธรรม-ซื่อสัตย์สุจริต ร่วมสานแนวความรู้พัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

คุณจันทนี ธนรักษ์ ประธานคณะทำงานเทศกาลปิดทองหลังพระ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงมีพระชนมพรรษาครบ 82 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ ทางโครงการปิดทองหลังพระฯ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานหลายฝ่าย อาทิ มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ - กรุงเทพมหานคร และองค์กรภาคีอื่นๆ ร่วมกันจัดงาน “เทศกาลปิดทองหลังพระ” ในระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-5 ธ.ค.นี้ โดยนำเอาโครงการพระราชดำริต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาจัดแสดงเพื่อเป็นศูนย์กลางแหล่งเรียนรู้แนวพระราชดำริแนวใหม่ อาทิ โครงการแก้มลิง หญ้าแฝก ฝนหลวง รวมถึงกังหันน้ำชัยพัฒนา มาจัดแสดง เพื่อกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ ภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้เกิดแรงบันดาลใจและเกิดการศึกษา พัฒนา น้อมนำเอาแนวพระราชดำริไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง และยั่งยืน ต่อไป

“การจัดงานครั้งนี้เราต้องการสร้างความระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 82 พรรษาในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ เพื่อสร้างความตระหนักให้ทุกคนได้เห็นว่า พระเจ้าอยู่หัวได้ทรงงานในลักษณะ “ปิดทองหลังพระ” อย่างต่อเนื่องมานานกว่า 62 ปี ด้วยความวิริยะอุตสาหะ” คุณจันทนี กล่าว

สำหรับการจัดงานครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ในการเอื้อเฟื้อสถานที่จัดงาน โดยคณะผู้จัดงานเตรียมนำผลิตภัณฑ์จากโครงการพระราชดำริต่างๆ มาไว้ในงานเพื่อให้ผู้เข้าร่วมชมงานได้ชมและจับจ่ายซื้อของจากโครงการในพระราชดำริ ที่มีคุณภาพ และเป็นฝีมือของคนไทย อาทิ โครงการพัฒนาดอยตุง ผลิตภัณฑ์ดอยคำ สินค้าจากมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก ร้านจิตรลดา ร้านภูฟ้า และโครงการฟาร์มตัวอย่างหนองหมากเฒ่า และอาหารอร่อยจากทั่วทุกภูมิภาคมาให้ได้เลือกซื้อกลับบ้านไป นอกจากการเข้ามาชมนิทรรศการแล้ว

ด้านคุณหญิงปราณี เอื้อชูเกียรติ กรรมการมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ กล่าวว่า ในส่วนของการจัดเตรียมสถานที่จัดงาน ได้เตรียมพร้อมในเรื่องของการอำนวยความสะดวก โดยจัดสรรพื้นที่จอดรถกว่า 3,000 คัน สำหรับรองรับผู้ที่นำรถมาร่วมชมงาน รวมถึงจัดเตรียมของที่ระลึก ซึ่งได้แก่ พันธุ์กล้าไม้สำหรับแจกผู้เข้ามาร่วมชมงานเพื่อปลูกจิตสำนึกให้ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม และรณรงค์การลดโลกร้อน

“นอกจากการเดินทางมางานสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถสาธารณะ แล้วผู้เข้ามาชมงานยังได้รับอากาศบริสุทธิ์ภายในสวน ที่จะช่วยทำให้การได้มาเที่ยวงานเสมือนการได้มาพักผ่อนหย่อนใจ ได้รับอากาศบริสุทธ์ในการหายใจ และสามารถมากันทั้งครอบครัวได้อีกด้วย” คุณหญิงปราณี กล่าว

ขณะที่ ดร.มาส ตันหยงมาศ คณะทำงานเทศกาลปิดทองหลังพระ กล่าวถึงไฮไลท์ของงานที่น่าสนใจว่า นอกจากนิทรรศการที่จัดแล้ว ยังมีการนำเสนอภาพยนตร์สั้น “หยาดน้ำเพื่อชีวิต ในหลวงคือแรงบันดาลใจ” จำนวน 11 เรื่อง จาก 11 ผู้กำกับ อาทิ ปิ๊ด - ธนิตย์ จิตนุกูล, มะหมี่-นภคปภา นาคประสิทธิ์, นิมิต พิพิธกุล เป็นต้น ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์สั้นให้ได้ชมเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักในพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และน้อมนำเอาแนวพระราชดำริไปปรับใช้ เพื่อให้เป็นแรงบันดาลใจในการดำรงชีวิตต่อไป นอกจากนี้ ยังมีการจัดโซน “ไปไหน ไปกัน” เพื่อนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวเรียนรู้โครงการพระราชดำริ สถานที่พัก และร้านอาหารอร่อย ในพื้นที่ภาคกลาง มาแนะนำให้กับผู้ที่เข้ามาร่วมงานได้เดินทางท่องเที่ยวตามเส้นทางดังกล่าว

ด้านนางสาวบุรณี รัชไชยบุญ ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบงานเทศกาลปิดทองหลังพระ กล่าวถึง รูปแบบการนำเสนอนิทรรศการของงานในครั้งนี้ว่า การนำเสนอจะมองถึงกลุ่มเด็ก และเยาวชนคนรุ่นใหม่ รวมถึงกลุ่มครอบครัว ดังนั้นรูปแบบ หรือวิธีการนำเสนอนั้น จึงเน้นให้แตกต่างจากนิทรรศการอื่นทั่วไป โดยให้ผู้เข้าชมงานได้สามารถเรียนรู้โครงการพระราชดำริ ให้เห็นแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนให้สมดุล โดยสามารถรับรู้เนื้อหาได้โดยไม่จำเป็นต้องมาอ่านบอร์ดนิทรรศการเหมือนเมื่อก่อน นอกจากนี้ผู้เข้าชมงานยังได้สัมผัส และเข้าถึงโครงการพระราชดำริได้อย่างเสมือนจริง ในรูปแบบ Interactive ให้คุณได้สัมผัสก้อนเมฆจริงของการทำฝนเทียม หรือภาพน้ำที่กำลังไหลท่วมตัวคุณ หากคุณไม่มีโครงการแก้มลิงมาช่วย รวมถึงสัมผัสความมหัศจรรย์ของรากหญ้าแฝก และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากตัวนิทรรศการที่เราได้จัดทำให้เข้าใจง่าย โดยผู้ชมไม่ต้องตั้งหน้าตั้งตาอ่าน

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการจัดงานในครั้งนี้จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเยาวชน และประชาชนที่เข้าชมงานได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยพัฒนาประเทศชาติ และน้อมนำหลักและแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต ตามหลักความพอเพียง และยั่งยืนต่อไป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์

กฤตยาภรณ์ ธีระอรรถ 02 663 3226 ต่อ 56,085 832 3713

โกสินทร์ ปลื้มสุวรรณ 02 663 3226 ต่อ 65,081 566 2053