จัสเทลฯ บริษัทในเครือจัสมินกรุ๊ป ผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคม และอินเตอร์เน็ทระหว่างประเทศรายใหญ่ของไทย ประกาศความสำเร็จอย่างงดงาม หลังเดินเกมรุกตลาดเหนือชั้น ส่งผลธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง ตั้งเป้ายุทธศาสตร์ปี 53 ทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้าน หรือเติบโตกว่า 50% พร้อมสานฝันดันไทยขึ้นเป็นไอซีทีฮับของภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง
นายสมชาย ตรีรัตนนุกูล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด กล่าวถึงผลงานตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจจนถึงปัจจุบันว่า “ธุรกิจของจัสเทลฯ เติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อเนื่อง นับจากปีแรก ปี 50 มีรายได้ 80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 380 ล้านบาท ในปี 51 และในปี 52 ที่ผ่านมามีรายได้รวมกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ทั้งนี้เป็นผลมาจาก การขยายตัวของธุรกิจบรอดแบนด์ และอินเตอร์เน็ต ทำให้มีความต้องการเข้าถึง แลกเปลี่ยนคอนเทนต์ และแอพพลิเคชั่น ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น ขณะเดียวกันในช่วงธุรกิจทั่วโลกชะลอตัวลง องค์กรข้ามชาติต่างๆ หันมาพัฒนาระบบไอทีเชื่อมโยงธุรกรรมออนไลน์ระหว่างสาขา เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ส่งผลให้ธุรกิจบริการเกตเวย์ และการสื่อสารข้อมูลระหว่างประเทศ ซึ่งถือเป็นส่วนต้นน้ำ ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริการใหม่ๆ ของจัสเทลฯ ที่เปิดตัวให้บริการในปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Global IP-VPN ซึ่งเป็นบริการเชื่อมโยงสาขาขององค์กรข้ามชาติในการทำธุรกรรมออนไลน์ บริการ Global Tier-1 IP Transit ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตระหว่างประเทศ และบริการ Global Co-Location and Data Center”
นายสมชาย กล่าวถึง ทิศทางการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งแผนยุทธศาสตร์ในอนาคต ว่า “จัสเทลฯ ยังคงมุ่งมั่น พัฒนาบริการด้านการสื่อสารระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป้าหมายนับจากนี้ไป 3-5 ปี ค่อนข้างชัดเจน ที่จะร่วมผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อด้านไอซีทีของภูมิภาคโดยขณะนี้จัสเทลฯ กำลังเร่งดำเนินการขยายเกตเวย์เชื่อมต่อตรงกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลเซีย พม่า ลาว กัมพูชา และจีนตอนใต้ เพื่อสร้างเป็นเครือข่ายความเร็วสูง แบบใยแมงมุม ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลาง และมีประตูเข้าออกไทยได้มากที่สุดถึง 7 ทิศทาง ประกอบด้วย ภาคพื้นดิน 4 ทิศทาง (มาเลเซีย พม่า ลาว กัมพูชา) เคเบิ้ลใต้น้ำ 2 ทิศทาง (อันดามัน กับอ่าวไทย) และทางอากาศ ผ่านดาวเทียม ซึ่งนอกเหนือจากการสร้างโครงข่ายเชื่อมโยงกันแล้ว ในการเป็น HUB นั้นจะต้องมีศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงกันที่ครบวงจร ในปีนี้ จัสเทลฯ มีแผนขยายศูนย์ติดตั้งอุปกรณ์โทรคมนาคมและแลกเปลี่ยนข้อมูล (Co-Location and Data Center) เพิ่มขึ้นอีก 3-4 เท่าตัวบนพื้นที่ ชั้น 5 อาคารจัสมิน ถนนแจ้งวัฒนะ นอกจากนี้ จัสเทลฯ กำลังเร่งขยายชุมสายแลกเปลี่ยนอินเตอร์เน็ตในประเทศ (NIX) ชุมสายแลกเปลี่ยนอินเตอร์เน็ตระหว่างประเทศ (IIG) และติดตั้ง Over Sea POP อีก 5-6 แห่งทั่วโลก เพื่อเชื่อมต่อตรงกับคอนเทนท์ในต่างประเทศ โดยใช้งบลงทุนรวมทั้งสินประมาณ 800-900 ล้านบาทในปี 2553 ทั้งนี้เพื่อรองรับการขยายตัวของลูกค้า และส่งผลให้คนไทยได้เข้าถึงอินเตอร์เน็ต คอนเทนท์ และแอพพลิเคชั่น ทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง มีประสิทธิภาพ ในราคาที่ถูกลงเรื่อยๆ”
ด้านนายวิทยา ลักษวุธ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา จัสเทลฯ ถือว่าประสบความสำเร็จ เชิงรายได้ แบบก้าวกระโดดต่อเนื่อง จากแผนยุทธศาสตร์ และการดำเนินกิจกรรมการตลาดเชิงรุกทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อย่างหนัก คาดการณ์ว่าในปี 2553 นี้จัสเทลฯ จะมีรายได้ทะลุ 1,200 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาโดยเริ่มจากการเดินสายโรดโชว์งาน PTC 2010 ที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกา ตามด้วยงาน APNIC ที่มาเลเซีย และ World Carriers Conference ที่ฮ่องกง ส่วนในประเทศไทยจะมีการดำเนินกิจกรรมการตลาดร่วมกับพันธมิตรในรูปแบบ Wholesale/Resale มากขึ้น โดยเฉพาะการจับมือเป็นพันธมิตรร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการนำโครงข่ายสื่อสารเส้นใยแก้วนำแสงของ กฟผ. มาเชื่อมโยงให้บริการแก่ลูกค้ามากขึ้น”
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net