บุญยง ตันสกุล ผงาดขึ้นนำทัพในฐานะกรรมการผู้จัดการเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) มั่นใจสามารถกลับมาทำกำไรอย่างต่อเนื่องหลังมีกำไรติดต่อกัน 3 ไตรมาสในปีนี้ พร้อมแต่งตั้งนายบุญยง ตันสกุล ผู้บริหารระดับมืออาชีพ และลูกหม้อเก่าขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการในฐานะผู้บริหารสูงสุดคนไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ หลังได้รับการไว้วางใจจากคณะกรรมการบริษัท ให้กุมบังเหียนกำหนดทิศทางธุรกิจท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ยังผันผวนอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารสูงสุดคนใหม่พร้อมโชว์วิสัยทัศน์ที่จะนำบริษัทฯ ก้าวสู่การเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องใช้ในครัวเรือนอีกครั้ง หวังจับตลาดโดนใจผู้บริโภคทั้งในเมืองและต่างจังหวัด
นายบุญยง ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานแถลงข่าวประจำปีซิงเกอร์ และงานฉลองความสำเร็จ Sky High Party by Singer ว่าเขารู้สึกพร้อม และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถใช้ประสบการณ์ในการพลิกฟื้นบริษัทฯ ในการฝ่าวิกฤติและกลับสู่การทำกำไรเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี เพื่อปูทางวิสัยทัศน์ในการพาซิงเกอร์กลับมาสู่การเป็นแบรนด์ที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ความเชื่อมั่น และตอบสนองความต้องการและรสนิยมของกลุ่มลูกค้าหลักได้มากขึ้น เพราะลูกค้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มผู้บริโภคระดับฐานรากที่แตกต่างไปจากผู้บริโภคกลุ่มอื่น ซึ่งก็คาดว่าซิงเกอร์จะสามารถกลับมายิ่งใหญ่ในธุรกิจเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ในครัวเรือนได้ในไม่ช้าด้วยยอดจำหน่ายที่เติบโตขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 10 ทุกปี
นายบุญยงได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการของบริษัทฯ ให้ทำหน้าที่นำบริษัทซิงเกอร์ประเทศไทยไปสู่ความรุ่งเรืองอย่างที่เคยเป็นอีกครั้งหลังจากที่ได้โชว์ผลงานที่น่าประทับใจในการดำเนินตามนโยบาย และแนวทางการแก้วิกฤติธุรกิจภายใต้การปูทางของ มร. ดาเนียล ไมเคิล ฟิลิโปเนท์ อดีตกรรมการผู้จัดการ ผู้ได้รับการเชิญให้กลับมาสร้างทีมบริหารที่เป็นมืออาชีพ และเข้มแข็งจนสามารถพลิกฟื้นบริษัทฯ และนำบริษัทชั้นนำของโลกแห่งนี้กลับขึ้นทำเนียบความสำเร็จ ไม่ว่าจะในด้านยอดขาย การทำกำไร และการปลูกฝังการรับรู้ในแบรนด์สินค้าในกลุ่มลูกค้าเก่า และลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่
ในระหว่างปี 2549 ถึงปี 2552 บริษัทซิงเกอร์ประเทศไทย มีผลประกอบการขาดทุนจากการทำธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ โดยขาดทุนทั้งสิ้น 1.23 พันล้านในปี 2549 ขาดทุน 500 ล้านในปี 2550 และ ขาดทุน 81.6 ล้านในปี 2551 ซึ่งเห็นได้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงของผลประกอบการไปในทางที่ดีขึ้นหลังจากที่มีการสร้างทีมบริหารใหม่ เพื่อเข้ามาปรับเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจจากเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เป็นเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องใช้ในครัวเรือนเหมือนในยุคที่ซิงเกอร์มียอดจำหน่ายทะลุหลักเกือบหมื่นล้านบาท
ในปี 2552 หลังจากที่ผ่านมาแล้ว 3 ไตรมาส บริษัทฯสามารถทำกำไรในธุรกิจได้มาทุกไตรมาส โดยในไตรมาสที่ 1 มีผลกำไร 16.7 ล้านบาท ไตรมาสที่ 2 มีผลกำไร 12.6 ล้านบาท และไตรมาสที่ 3 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6 ล้านบาท โดยคาดว่ารายได้รวมตลอดทั้งปีของบริษัทฯ น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจและปัจจัยแวดล้อมภายนอกไม่เอื้ออำนวย สำหรับปีนี้บริษัทคาดการณ์ว่าบริษัทน่าจะกลับมามีผลกำไรเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี
“บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจขั้นต่ำในปีหน้าไว้ที่ 10% โดยแนวทางการวางกลยุทธ์หลังจากที่ผมเข้ามารับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดคือการเน้นการบริการถึงบ้านที่รวดเร็ว สร้างเครือข่ายการขายให้เข้มแข็ง การนำเสนอสินค้าที่มีความคงทน อัตราการครอบครองต่ำ และการผ่อนชำระที่สามารถตอบสนองกำลังซื้อของลูกค้าเป้าหมาย พร้อมทั้งนำเสนอแคมเปญใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของสินค้าซิงเกอร์ได้ง่ายขึ้นท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ยังผันผวนอย่างต่อเนื่องและไม่มั่นคงเช่นในปัจจุบัน ซึ่งซิงเกอร์ได้ทำการปรับลดอัตราการผ่อนชำระต่อเดือนลงมาจากเดิม โดยเครื่องซักผ้า และตู้เย็นผ่อนเพียง 500 ต่อเดือน ลดลงจาก 700 – 1,000 บาท ต่อเดือน ส่วนเครื่องปรับอากาศสามารถผ่อนเบาๆที่ 900 บาท ต่อเดือน โดยระยะเวลาผ่อนชำระก็ได้รับการปรับให้นานขึ้นจาก 12-18 เดือน เป็น 24-36 เดือน” นายบุญยงกล่าว
นอกจากนี้ยังนำกลยุทธ์ด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์มาใช้เป็นประโยชน์มากขึ้น โดยได้เตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเป้าหมายซื้อสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่จะมีรายได้จากผลผลิตในช่วง 4 เดือนแรกของปีหน้า
“ประเภทของสินค้าที่จะให้ความสนใจเป็นพิเศษจึงเป็นสินค้าที่สามารถช่วยยกระดับความสะดวกสบายในชีวิตให้แก่ลูกค้าในกลุ่มฐานรากให้สามารถทัดเทียมกับผู้บริโภคกลุ่มอื่นๆ โดยซิงเกอร์จะเป็นส่วนหนึ่งในการนำความเจริญ สร้างโอกาส ยกระดับ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับลูกค้าในต่างจังหวัด และเกษตรกรให้ได้รับประโยชน์จากไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่สามารถทำให้ครอบครัวมีความสะดวกสบาย ประหยัดไฟมากขึ้น เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า หรือตู้เย็นประหยัดไฟ ในราคาผ่อนสบายๆที่มาพร้อมเงื่อนไขพิเศษ” นายบุญยงกล่าว
ซิงเกอร์เตรียมเปิดตัวแคมเปญพิเศษเพื่อช่วยให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในระดับกลางถึงล่างได้มีโอกาสใช้เครื่องปรับอากาศได้ด้วยเงื่อนไข “30 บาท นอนแอร์ได้” โดยแคมเปญนี้จะมีขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม 52 ไปจนถึงเดือนเมษายน 53 โดยบริษัทฯหวังว่าจะสามารถช่วยให้ลูกค้ายกระดับความสบายในการใช้ชีวิตได้ เพราะหลังจากที่ทำการทดลองเปิดตัวแบบไม่เป็นทางการตั้งแต่เดือนตุลาคม 52 แคมเปญดังกล่าวสามารถสร้างยอดขายได้เกินเป้าหมาย เติบโตมากกว่าในช่วงฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ซิงเกอร์จะขายเครื่องปรับอากาศได้มากที่สุด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-234-7171
สอบถามรายละเอียดได้ที่ บุษกร คนหลัก โทร 02-973-2700
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net