กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ตาม “แผนปฏิบัติการ : ไทยเข้มแข็ง 2555” กวดขันให้การดำเนินโครงการต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้ผลสมบูรณ์ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์
ตามที่รัฐบาลได้กำหนดมาตรการ “ไทยเข้มแข็ง” เพื่อดำเนินการในช่วงปี พ.ศ. 2552 – 2555 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดทำโครงการซึ่งเน้นการลงทุนที่สำคัญและจำเป็น เพื่อเพิ่มแรงกระตุ้นให้กับระบบเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับประชาชน เพิ่มการกระจายการลงทุนด้านบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานสู่ชนบท โดยจะเน้นโครงการที่มีความพร้อมในการดำเนินการได้ทันที และ ในขณะเดียวกัน จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบทและเกษตรกรซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ โดยจะต้องสร้างรายได้ กับภาคเอกชนไปพร้อมกัน และเป็นการบรรเทาปัญหาการว่างงานในปัจจุบันด้วย รัฐบาลจึงทำการกลั่นกรองและรวบรวมโครงการต่างๆ กว่า 6,000 โครงการที่สามารถดำเนินการได้ทันทีในระยะสามปีข้างหน้า คิดเป็นวงเงินรวม 1.43 ล้านล้านบาท หรือเท่ากับประมาณร้อยละ 17 ของ GDP หากสามารถทำให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้แล้ว คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราประมาณร้อยละ 1.5 ต่อปี และจะทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 400,000 – 500,000 คน
สำหรับโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีมีพันธกิจ 3 ประการคือ 1. เป็นโรงพยาบาลศูนย์ เป็นพี่เลี้ยงของ 5 จังหวัดภาคใต้ตอนบน (กระบี่ ชุมพร พังงา ภูเก็ต ระนอง) 2. เป็นศูนย์การแพทย์เฉพาะทางเทียบเท่าโรงเรียนแพทย์ ด้านโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และศูนย์อุบัติเหตุ 3. เป็นโรงเรียนแพทย์ผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อ ชาวชนบท แต่สภาพความเป็นจริงในระยะที่ผ่านมา เกิดความขาดแคลนด้านโครงสร้างสถานที่ เนื่องจากที่ผ่านมาโรงพยาบาลได้รับอัตราแพทย์และเครื่องมือเพิ่มเติม แต่ด้านด้านอาคารสถานที่โรงพยาบาลไม่ได้รับเพิ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ทำให้เกิดความแออัดทั้งผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ ดังนี้
1. ความแออัดของผู้ป่วย
2. ความแออัดของเจ้าหน้าที่
อนึ่ง นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าตาม “แผนปฏิบัติการ : ไทยเข้มแข็ง 2555” โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ได้รับเงินงบประมาณจำนวน 1,300 ล้านบาท ตามรายละเอียด ดังนี้
1. อาคารบริการ และสนับสนุนทางการแพทย์ 16 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 31,813 ตารางเมตร พร้อมอุปกรณ์ประกอบอาคาร มูลค่า 560 ล้านบาท
2. อาคารศูนย์บริการโรคหัวใจ มะเร็ง และวินิจฉัยรักษา เป็นอาคาร คสล. 7 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 22,100 ตารางเมตร พร้อมอุปกรณ์ประกอบอาคาร มูลค่า 547 ล้านบาท
3. อาคารพักแพทย์ 88 ยูนิต เป็นอาคาร คสล.8 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 6,991 ตารางเมตร พร้อมอุปกรณ์ประกอบอาคาร มูลค่า 84 ล้านบาท
4. อุปกรณ์การแพทย์อื่นๆ มูลค่า 109 ล้านบาท
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit