C.I.D.I ชนาพัฒน์ เปิดบ้านแนะนำหลักสูตร พร้อมโชว์ผลงานดีไซเนอร์รุ่นใหม่ ในสไตล์เฉพาะตัว

เปิดบ้านแนะนำตัวเองต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการกันไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับ สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ หรือ ซี.ไอ.ดี.ไอ ชนาพัฒน์ (Chanapatana International Design Institute: CIDI) สถาบันการออกแบบของไทยที่ใช้หลักสูตรด้านดีไซน์จากประเทศอิตาลี ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2543 ตามดำริของ พระเทพเจติยาจารย์ หรือ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล กว่า 9 ปีที่ผ่านมา C.I.D.I ชนาพัฒน์ ในฐานะองค์กรที่ไม่มุ่งแสวงหากำไร มุ่งพัฒนานักออกแบบไทยให้มีฝีมือการออกแบบทัดเทียมและสามารถแข่งขันกับชาวต่างชาติได้ โดยเปิดสอนนักศึกษาใน 2 หลักสูตร ได้แก่ สาขาออกแบบตกแต่งภายในและผลิตภัณฑ์ (Diploma of Interior & Product Design) สาขาออกแบบแฟชั่น (Diploma of Fashion Design) ภายในงานเปิดบ้านครั้งนี้ มีการจัดกิจกรรมหลากหลายไว้คอยต้อนรับ เช่น นิทรรศการแสดงผลงานของนักศึกษา เพื่อให้ชมฝีมือการออกแบบว่ามีความสวยงามกันขนาดไหน พร้อมพาชมสถานที่ และสัมผัสบรรยากาศการเรียนการสอนของสถาบันฯ ในห้องต่างๆ ที่สอนโดยคณาอาจารย์ชาวยุโรป และมีผู้ช่วยสอน (Teaching Assistant) ชาวไทยคอยให้คำแนะนำ อาทิ ห้อง Fashion Design ที่สอนวิชา Tailoring Technigues (เทคนิคการตัดเย็บ), ห้อง Interior & Product Design ที่เรียนวิชา CAD-Autocad (การเขียนแบบ 2 มิติ ด้วยโปรแกรม Autocad) เป็นต้น ดร.สาคร สุขศรีวงศ์ ผู้อำนวยการ C.I.D.I ชนาพัฒน์ ผู้พยายามผลักดันให้สถาบันฯ แห่งนี้พัฒนาก้าวหน้าไปสู่ระดับสากล กล่าวถึงนักศึกษาที่มาเรียนที่นี่ว่าแบ่งเป็น 4 กลุ่มหลักๆ คือ กลุ่มผู้ประกอบการ นักธุรกิจ หรือคนที่มาสืบทอดกิจการครอบครัว บางทีเรียนมาไม่ตรงสาย พอทำงานจริง คุยกับดีไซเนอร์ไม่รู้เรื่องจึงต้องมาเรียนเป็นดีไซเนอร์เอง, กลุ่มที่มีงานประจำอยู่แล้ว แต่ต้องการหาอาชีพสำรอง, กลุ่มที่เรียนปริญญาตรีตามที่ครอบครัวต้องการ พอจบแล้วจึงอยากมาเรียนในสิ่งที่ตัวเองสนใจจริงๆ คนกลุ่มนี้จะมีเยอะที่สุด บางทีก็มีหมอ วิศวะ สถาปนิก นักบิน มาเรียนด้วย กลุ่มสุดท้ายคือ ผู้ที่มุ่งมาเรียนทางนี้โดยตรง เพราะรู้ตัวเองตั้งแต่แรกว่าชอบเรียนทางด้านใด “แรกๆ คนที่เข้ามาในนี้จะติดภาพลักษณ์อันดับแรกเลย ว่าในวัดไม่น่าเหมาะกับการสอนดีไซน์แฟชั่น แต่พอผ่านมาหลายๆ ปี คนเริ่มเห็นแล้วว่าการเรียนดีไซน์ก็คือการศึกษาชนิดหนึ่ง การเข้ามาอยู่ในวัดก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร อาจเป็นผลดีเสียอีกเพราะวัดกับวังเป็นศูนย์รวมของศิลปวัฒนธรรรมตั้งแต่โบราณ ถ้าคนไทยสามารถเรียนที่นี่แล้วใช้รากฐานทางวัฒนธรรมให้เป็นประโยชน์ได้ก็น่าจะดี พวกอาจารย์ฝรั่งเขาแนะนำเลยว่า คุณอย่าย้ายออกจากวัดนะเพราะนอกจาก Best Value แล้ว มันยังเป็นเอกลักษณ์ด้วย อย่าง CNN เคยมาทำสกู๊ปเกี่ยวกับเรา เพราะเรามีความโดดเด่นที่แตกต่าง ข้อได้เปรียบอีกอย่างของเราคือ การที่มีอาจารย์จากต่างประเทศมาสอนทำให้ผู้เรียนมีความมั่นใจ เพราะอาจารย์แต่ละท่านจะสอนตั้งแต่เรื่องแรงบันดาลใจ ทักษะความชำนาญต่างๆ ที่จำเป็น ทั้งยังมีวิธีกระตุ้นลูกศิษย์ให้มีการทำผลงานดีไซน์ที่มีสไตล์ของตนเองชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับหลักสูตรของอิตาลี และในปีนี้ C.I.D.I ชนาพัฒน์ ได้มีการปรับปรุงหลักสูตรจากการสอน 4 เทอม เพิ่มเป็น 5 เทอม เพราะมีทักษะความชำนาญหลายเรื่องที่ต้องพัฒนาต่อเนื่องกันไป” ดร.สาคร เสริมว่าอยากสร้างให้เกิดสังคมของนักออกแบบ เป็นดีไซเนอร์เน็ตเวิร์ค ให้นักศึกษารู้จักกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน จะได้เกิดการแชร์ประสบการณ์ มีเครือข่าย ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นมากสำหรับ ผู้ที่ทำงานในแวดวงนี้ ต้องการให้ศิษย์เก่าที่จบไปเห็นคุณค่าและประโยชน์ในสิ่งที่สถาบันเคยทำ และกลับมาเป็นอาสาสมัครช่วยทำงาน เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่าย เพราะสถาบันนี้เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร การประชาสัมพันธ์ต่างๆ เราต้องใช้วิธีบอกปากต่อปากเป็นหลัก “ตอนที่ก่อตั้งสถาบันฯ ขึ้นมาใหม่ๆ เราคิดเพียงแค่ว่าต้องการสานต่อการทำงานไปเรื่อยๆ แต่ใน 2-3 ปีนี้ ผมไม่ได้มองแค่นี้แล้ว เราต้องไปให้ถึงความสำเร็จให้ได้ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร ผู้ก่อตั้งสถาบันนี้ ท่านตั้งใจไว้ว่าต้องการยกระดับนักออกแบบไทยให้เทียบเคียงได้ในระดับนานาชาติ และสามารถสร้างสินค้าแบรนด์ไทยไปขายเมืองนอกนำเงินตราเข้าประเทศมาให้ได้ ดังนั้นความสำเร็จของผมก็ต้องวัดตามที่หลวงพ่ออยากให้เกิดที่สุดคือ ให้เรามีดีไซเนอร์ระดับนานาชาติ และสร้างแบรนด์ไทยออกไปได้ มันอาจใช้เวลาหลายปีกว่าจะเกิดขึ้นมา ถึงจะแจ้งเกิดได้ไม่กี่คนแต่ผมคิดว่าสิ่งที่เราทำไปก็ประสบความสำเร็จและน่าภาคภูมิใจ” ผอ.สาคร กล่าว ส่วน ณัฐวัฒน์ สีวะรา ผู้อำนวยการหลักสูตรของสถาบันฯ ซึ่งดูแลเรื่องหลักสูตรในการศึกษา ตลอดจนหาช่องทางหรือโอกาสให้กับนักศึกษาในการได้ออกไปทำงานจริง ด้วยความที่เคยเป็นศิษย์เก่าของที่นี่มาก่อนจึงสามารถพรีเซนต์ความโดดเด่นของสถาบันฯ สู่ภายนอกได้ค่อนข้างตรงจุด ทั้งยังได้นำประสบการณ์ทั้งหลายที่เรียนมา มาแนะนำน้องๆ รุ่นหลังได้เป็นอย่างดีด้วย “ผมจบหลักสูตรออกแบบแฟชั่นจากที่นี่ แล้วได้ทุนไปอิตาลี พอกลับมาได้ไปทำงานที่อื่นสักพักแต่พบว่ามันไม่ตอบโจทย์อย่างที่เราต้องการจึงลาออก แล้ว อาจารย์สาคร ก็ชวนมาทำงานด้วย ผมได้นำประสบการณ์ที่ตัวเองพบมา มาแนะนำน้องๆ ว่าอย่าปฏิเสธอะไรง่ายๆ เพราะไม่มีอะไรเข้ามาหาเราง่ายๆ พยายามผลักดันให้พวกน้องๆ ไปประกวด ไปฝึกงาน อย่าใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องเรียน เพราะคุณอาจจะเก่งในห้องเรียน แต่พอออกไปข้างนอกจะเจอคนเก่งอีกเยอะ ที่ผ่านมา ลูกศิษย์ของเราสร้างผลงานเอาไว้มากมาย อย่างด้าน อินทีเรียร์ ก็เคยร่วมมือกับบริษัทสิงห์ เช่น ออกแบบตัวเบียร์ ทาวเวอร์ ส่วนงานด้านแฟชั่น ก็มีงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล แฟชั่น วีค (BIFW 2008) ที่ทำให้จิตรลดา ทำให้ร้านภูฟ้า, งานแม่แห่งแผ่นดิน และสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้คือ งานกาลาดินเนอร์ ซึ่งต่อเนื่องมาจากงานแม่แห่งแผ่นดิน โดยมีท่านทูตพาณิชย์จาก 16 ประเทศอาเซียน มาร่วมชมงาน เราจะทำแฟชั่น 1 คอลเลคชั่นเพื่อมาร่วมโชว์ เป้าหมายเดียวที่เราตั้งโจทย์ไว้เลยคือ อยากให้นักศึกษาออกไปทำงาน ผลิตผลงานเพื่อขายออกไปและนำเงินตราเข้ามาพัฒนาประเทศได้” ผอ.หลักสูตร กล่าว หลังจาก มีการพาทัวร์ชมห้องเรียน และผลงานของนักศึกษา จนทั่วแล้ว ก็ได้เวลาเปิดแคทวอล์คเฉพาะกิจขึ้น เพื่อให้ผู้มาเยือนได้ชมมินิแฟชั่นโชว์ดีไซน์สุดแปลกแหวกแนว จำนวน 13 ชุด จาก 4 ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในคอลเลคชั่นงานศิลปนิพนธ์ (Thesis) ของนักศึกษาประจำปี 2552 ที่เพิ่งเรียนจบไปหมาดๆ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Seven Sins โดยสื่อความหมายถึงอารมณ์และความเชื่อเรื่องบาป 7 ประการ แบ่งเป็นคอลเลคชั่นต่างๆ ดังนี้ - เสาวลักษณ์ ชินางกูรวัฒน์ เจ้าของคอลเลคชั่น “Curse” หมายถึง การสาบแช่ง ความโกรธ โดยสื่อออกมาในเชฟของเสื้อผ้าที่ค่อนข้างรัดรูป เป็นเส้นสายพันกันยุ่งเหยิง สะท้อนให้เห็นถึงความโกรธ เน้นโทนสีดำ ขาว แดง ตัดเย็บด้วยผ้าเจอร์ซี่ที่มีความยืดหยุ่นสูง - รวีวรรณ แก้วเกิด กับคอลเลคชั่น “อัตตา” หมายถึง ความเป็นตัวตน แรงบันดาลใจมาจากการเปรียบเทียบแรงสะท้อนอย่างหนึ่งของคน ซึ่งเค้าเชื่อว่า มนุษย์ผลักดันตัวเองด้วยอัตตา ลวดลายที่ออกมาจึงมีลักษณะลวดลายเหมือนแสงสะท้อน - ปิยะดา วัจนะรัตน์ ผู้ออกแบบคอลเลคชั่น “Emerge” แรงบันดาลใจมาจากดอก Heliconia ที่มีวิธีการแตกหน่อเหมือนต้นกล้วย เจริญเติบโตเร็ว ดอกของมันจะมีความสวยแต่ดูแข็งๆ คล้ายๆพลาสติกซ้อนๆกันเป็นชั้นๆ geometric (เรขาคณิต) form ของชุดที่ออกมาก็จะดูแข็งๆ ส่วนสีก็ใช้ตามสีของดอก Heliconia คือตอนแรกเป็นสีแดง พอเริ่มเหี่ยวก็เป็นสีม่วง สุดท้ายก็กลายเป็นสีน้ำตาล - วาทินี พาลีบัตร ผู้สร้างผลงานคอลเลคชั่น “The Mystical Wings” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากปีกของแมลงปอ ซึ่งมีพฤติกรรม คือ พันธุ์ใหญ่จะล่าพันธุ์เล็ก ถือว่าเป็นพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ เปรียบได้เหมือนบาปที่เรียกว่า “Sin Gluttony” (gluttony แปลว่า ตะกละ) ชุดที่ออกมารูปแบบก็จะโฟกัสที่ปีก รวมทั้งเนื้อผ้า และรายละเอียดของแมลงปอตั้งแต่ตัวอ่อน จนถึงเต็มวัย ชมผลงานของศิษย์เก่าไปแล้ว มาพูดคุยกับศิษย์รุ่นปัจจุบันบ้าง กิ๊บ-ชนาพร ตันมณี นักศึกษาชั้นปี 2 ซึ่งเรียนมาทางด้านการตลาด แต่ตัดสินใจมาเรียนการออกแบบดีไซน์เพิ่มเติมเพราะต้องการไปช่วยทางบ้านทำธุรกิจ Wedding Studio ถึงแม้ไม่มีทักษะทางด้านนี้มาก่อน แต่ก็ไม่มีปัญหาสำหรับเธอ เพราะมีการสอนพื้นฐานก่อนเรียนจริง “มาเรียนวันแรกก็วาดรูปเลย แต่ดีที่เขามีสอนเบสิคก่อนเลยค่อยๆ ฝึกไป ตอนแรกปรับตัวไม่ค่อยได้ มีท้อๆ บ้าง ดีที่เพื่อนๆ ช่วยกันเลยผ่านมาได้ ตอนนี้เรียนวิชาแพทเทิร์นได้ดีที่สุดค่ะ ที่นี่จะสอนให้เราคิดเป็นระบบ และประยุกต์สิ่งต่างๆ ให้เข้ากับการทำเสื้อผ้า ตอนนี้ก็นำสิ่งที่เรียนไปใช้งานที่ร้านได้ และได้เปิดร้านของตัวเองด้วยเป็นแนว เวดดิ้ง เหมือนกัน แต่เป็นในส่วนของการตัดเย็บ ยังไม่ได้ออกแบบเองค่ะ ส่วนอนาคตก็อยากเป็นดีไซเนอร์ ใช้ความรู้ที่เรียนมา อยากทำชุดราตรีพรมแดง” ชนาพร กล่าวถึงความฝันที่ตั้งใจไว้ในเส้นทางสายแฟชั่น สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์งานดีไซน์ได้แบบนี้บ้าง มาตามฝันกันได้ที่ C.I.D.I ชนาพัฒน์ โดยกำหนดวุฒิผู้สมัครเรียนไว้ที่มัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่ส่วนใหญ่ผู้ที่มาเรียน ล้วนแต่จบปริญญาตรีจากหลากหลายสถาบันชั้นนำ อาทิ จุฬาฯ, ธรรมศาสตร์ ,ศิลปากร, ศรีนครินทรวิโรฒ, เอแบค, ม.รังสิต,ม.กรุงเทพฯ,ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีปริญญาโท และที่จบจากต่างประเทศด้วย ทั้งนี้ การเรียนที่สถาบัน C.I.D.I ชนาพัฒน์ ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานการออกแบบ ไม่เน้นการท่องจำ แต่เน้นการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และทักษะด้านการออกแบบ ในการศึกษาจะมีการสนับสนุนเงินทุนและเปิดโอกาสให้นักศึกษาแสดงผลงานทุกปี นอกจากนี้ยังมีการมอบทุนการ ศึกษาต่อที่ประเทศอิตาลีทุกปี ปีละ 2 ทุน ผู้เรียนสามารถเลือกช่วงเวลาเรียนได้ตามความสะดวก ได้แก่ รอบวันจันทร์ – อังคาร เวลา 10.00-17.00 น. หรือ รอบวันเสาร์– อาทิตย์ เวลา 10.00 -17.00 น. โดยขณะนี้ได้เปิดรับนักศึกษารุ่นใหม่แล้ว สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้–31 กรกฎาคม 2552 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 2741 3717-8 หรือที่ เว็บไซต์ : http://www.chanapatana.com # # # # # บริษัท พับบลิค ฮิต จำกัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 2525699 public hit สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์
• ข่าวสถาบันออกแบบนานาชาติ
• ข่าวสถาบันการออกแบบ
• ข่าวสถาบันออกแบบ
• ข่าวชาวต่างชาติ