รายการ "แดนสนธยา" “ลูกชาย” ลูกช้างไทยดังไกลถึงออสเตรเลีย

30 Sep 2009

กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์

ในขณะที่คนไทยเทความสนใจให้กับ หลินปิง ลูกหมีแพนด้าวัย 4 เดือน ซึ่งเป็นลูกที่เกิดจากหลินฮุ่ย และช่วง ช่วง ทูตสันถวไมตรีระหว่างไทย-จีน ส่วนอีกฟากหนึ่งของซีกโลกที่ออสเตรเลีย ก็พบว่า ชาวออสซี่กำลังทุ่มเทความรัก ความเอาใจใส่ให้กับช้างพลายไทยเชือกใหม่ “ลูกชาย” วัยเกือบ 3 เดือน ที่เกิดจากพลายกุ้ง และพังทองดี ณ ทารองกาซู ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งสามารถติดตามชมความน่ารักของ “ลูกชาย” ได้ในรายการแดนสนธยา ตอน เวิลด์ ทัวร์ 2 กับผู้โชคดี ณ ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 6 – 8 ตุลาคม 2552 เวลา 18.00 – 18.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี

ในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ เชิญพบกับช้างไทยทั้ง 5 เชือก กุ้ง, แตงโม, ผักบุ้ง, พรทิพย์ และทองดี สัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลออสเตรเลียในการแลกเปลี่ยนสัตว์พื้นเมืองระหว่างกันเพื่อนำมาจัดแสดงยังสวนสัตว์ของทั้งสองประเทศ ระหว่าง ช้างไทยสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยที่เดินทางไปอยู่อาศัยอย่างอบอุ่นที่ประเทศออสเตรเลียเมื่อปี พ.ศ. 2549 กับโคอาล่าเกือบ 20 ตัว ที่กำลังกลายเป็นสัตว์น่ารักชนิดใหม่ของคนไทยอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่

ก่อนหน้าที่ช้างไทยจะเดินทางมาถึง ทารองกาซู (Taronga Zoo) แห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวชมไม่น้อยกว่า 4,500 คนต่อวัน แต่เมื่อช้างไทยได้มาปรากฏตัวที่นี่ มันทำให้ยอดของนักท่องเที่ยวพุ่งสูงขึ้นเป็น 12,000 คนในทันที ซึ่งก็ต้องถือว่า ชาวออสซี่ค่อนข้างจะตื่นเต้นกับสัตว์ที่ไม่เคยถูกค้นพบในดินแดนแห่งซีกโลกใต้ชนิดนี้มาก่อน

ภายในโรงเลี้ยงช้างที่สะอาดสะอ้านจนดูราวกับว่าไม่เคยมีช้างถูกเลี้ยงอยู่ที่นี่มาก่อน และยังได้รับการติดตั้งเครื่องทำความร้อน สร้างน้ำตก และสระน้ำที่มีการปรับอุณหภูมิให้อบอุ่นอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญยังมีควาญช้างคอยทำหน้าที่อาบน้ำให้พวกมันทุกวันอีกด้วย รวมไปถึงการตกแต่งบริเวณโดยรอบให้มีสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับเมืองไทยมากที่สุด นั่นจึงทำให้งบประมาณในการดูแลช้างไทยของที่นี่สูงถึง 100,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อเชือกต่อเดือน หรือถ้าเทียบเป็นเงินไทยจะตกอยู่ที่ 2,800,000 บาทต่อเชือกต่อปีเลยทีเดียว จากการดูแลเอาใจใส่ต่อช้างไทยทุกตัวเป็นอย่างดีของสวนสัตว์ทารองกาแห่งนี้ จึงเป็นเหตุให้ พลายกุ้ง และพังทองดีสามารถให้กำเนิดลูกของพวกมันในต่างแดนได้อย่างไม่น่าเชื่อ และ นับเป็นลูกช้างเอเชียเชือกแรกที่ถือกำเนิดบนทวีปแห่งนี้อีกด้วย

ปรากฏการณ์นี้ได้สร้างความตื่นเต้นให้แก่ชาวออสเตรเลียเป็นอย่างมาก พวกเขาได้จัดให้มีการประกวดตั้งชื่อลูกช้างเชือกใหม่ ด้วยการคัดเลือกจากรายชื่อที่ประชาชนทั่วทั้งประเทศได้ส่งเข้ามา เช่นเดียวกับในเมืองไทยที่ได้มีการประกวดตั้งชื่อลูกหมีแพนด้า สัตว์ที่เป็นทูตสันถวไมตรีระหว่างประเทศไทย และประเทศจีน ที่เพิ่งให้กำเนิดลูกหมีแพนด้าเพศเมียไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา และได้ชื่อจากการประกวดแล้วว่า “หลินปิง” สำหรับลูกช้างไทยเกิดใหม่ในออสเตรเลียก็ได้ชื่อแล้วเช่นกัน โดยชื่อที่ได้รับการโหวตมากที่สุดจากจำนวนกว่า 30,000 กว่าโหวตชื่อนั่นก็คือ “ลูกชาย” ซึ่งเป็น ชื่อไทยที่คนออสเตรเลียสามารถพูดออกเสียงได้ง่าย และชัดเจนที่สุดนั่นเอง

นอกจากนี้ ในสวนสัตว์ทารองกาแห่งนี้ ยังมีสัตว์พื้นเมืองของออสเตรเลียอีกมากมายหลายประเภทให้ผู้ที่สนใจ และชื่นชอบความน่ารักของสัตว์ได้เข้าเยี่ยมชม ไม่ว่าจะเป็น จิงโจ้ โคอาล่า และ ตัววอมแบ็ท แพนด้าแดง เมียร์แคท ที่ในอดีตเมื่อห้าล้านปีก่อนจิงโจ้ในทวีปแห่งนี้ มีความสูงมากถึง 3 เมตร และเคยวิ่งพร้อมกันทั้ง 4 เท้า ในขณะที่สัตว์ในตระกูลวอมแบ็ทก็มีขนาดใหญ่โตพอๆ กับแรดในยุคปัจจุบัน พบการใช้ชีวิตในโพรงของวอมแบ็ท ที่ธรรมชาติสร้างให้มันมีกระเป๋าอยู่ด้านหลัง และระบบการเผาผลาญอาหารที่ช้ามาก ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการย่อยอาหารเสร็จถึง 14 วัน

สำหรับวันที่ 7 และ 8 ตุลาคม ร่วมชม และสัมผัสวิถีชีวิตของเกษตรกรชาวออสเตรเลียกับ งานเลี้ยงแกะสายพันธุ์ เมอริโน่ เพื่อผลิตเป็นขนที่มีเส้นใยคุณภาพสูงส่งออก และงานต้อนแกะที่เกษตรกรเรียนรู้วิธีใช้สุนัขมาช่วยต้อนแกะในฟาร์ม ปิดท้ายทริปพิเศษนี้ด้วยการพา ผู้โชคดีร่วมสำรวจเหมืองถ่านหินที่มีอายุเก่าแก่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Blue Mountains และตำนานของภูเขา The Three Sisters เยี่ยชมพิพิธภัณฑ์ และสวนสนุกทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย Sea World ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมสัตว์ทะเลนานาชนิด เช่น ฉลาม โลมา เพนกวิน สิงโตทะเล ฯลฯ

ชวนชม เชิญสัมผัสทวีปที่มีความหลากหลาย และปริศนาเกี่ยวกับธรรมชาติ ที่น่าสัมผัส และ น่าหาคำตอบนี้ได้ใน รายการแดนสนธยา ตอน เวิลด์ ทัวร์ 2 กับผู้โชคดี ณ ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 6 – 8 ตุลาคม 2552 เวลา 18.00 – 18.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี

หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร. 0-2434-8300 / 0-2434-8547

คุณสุจินดา, คุณแสงนภา และคุณวิภาวัลย์

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net