อาร์เอส ประกาศจัดทัพธุรกิจภาพยนตร์ ปี 52 ปรับโมเดลเหมือนสตูดิโอหนังฮอลลีวู้ด

อาร์เอส ประกาศจัดทัพธุรกิจภาพยนตร์ ปี 52 มุ่งสู่การเป็นเครือข่ายความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบของเมืองไทย สร้างธุรกิจภาพยนตร์ให้แข็งแกร่งสอดคล้องกับมาสเตอร์แพลน พร้อมเปลี่ยนค่ายหนังอาวองให้เหมือนสตูดิโอภาพยนตร์ขนาดใหญ่ในฮอลลีวู้ด และเปิดตัว “ คมสันต์ เชษฐโชติศักดิ์ ” ในฐานะบอสใหญ่บริหารงานค่ายอาวอง เผยจ่อคิวหนัง 4-5 เรื่องเข้าฉายตลอดปีนี้ มั่นใจเดินหน้าผลิตผลงานคุณภาพออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และผลักดันรายได้ปี 52 สู่เป้าหมายที่วางไว้ นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ได้เดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจในปี 2552 นี้ และเพื่อให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯสามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ บริษัทฯ จึงได้ปรับโครงสร้างธุรกิจในส่วนของธุรกิจภาพยนตร์ใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้การทำธุรกิจของอาร์เอส เป็นไปในทิศทางที่วางไว้ คือสามารถบริหารต้นทุนการผลิตให้สอดคล้องกับการเติบโตของรายได้ จากการประเมินภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังอยู่ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงต่างๆในปัจจุบันนี้ ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากที่บริษัทฯต้องปรับตัว โดยเฉพาะธุรกิจภาพยนตร์ตามสภาพความเป็นจริงของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย สำหรับธุรกิจภาพยนตร์ของอาร์เอส ในปี 2552 ภายใต้การกุมบังเหียนของ คุณคมสันต์ เชษฐโชติศักดิ์ นั้น มีการปรับโมเดลบริษัทฯใหม่ ให้เหมือนสตูดิโอภาพยนตร์ขนาดใหญ่ใน ฮอลลีวู้ด ที่เป็นการซื้อโปรเจคหนังจากผู้กำกับหลากหลายคน และมุ่งเดินหน้าสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนการผลิตให้สอดคล้องกับการเติบโตของรายได้ พร้อมจัดทำชิ้นงานวิจัย สำรวจความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อการชมภาพยนตร์ ว่าชื่นชอบภาพยนตร์แนวไหน สไตล์ใด เพื่อเป็นแนวทางให้บริษัทฯ สามารถผลิตผลงานคุณภาพ ให้ตรงใจและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างสูงสุด ทั้งนี้การปรับโครงสร้างดังกล่าว ยังเป็นการเปิดกว้างสำหรับโปรดิวเซอร์และผู้กำกับเลือดใหม่ไฟแรง ที่มีความสามารถและมีไอเดียแปลกใหม่ สามารถนำผลงานเข้ามาเสนอที่ค่ายอาวองได้โดยตรง โดยนโยบายใหม่นี้จะสามารถเพิ่มความอิสระในการทำงานและเปิดโอกาสให้คนเก่งที่มีความสามารถได้มีช่องทางนำเสนอผลงานที่มีคุณภาพออกสู่สายตาประชาชน เพื่อเป็นบันไดสู่ความสำเร็จในอาชีพคนทำหนังอีกทั้งยังเป็นการยกระดับภาพนยนตร์ไทยให้เทียบเท่ากับนานาประเทศได้อีกด้วย ทั้งนี้ ในปี 2552 บริษัทฯ เตรียมจะนำภาพยนตร์เข้าฉายในโรง 4-5 เรื่อง ประกอบด้วยโปรแกรมแรกกับเรื่อง “ โหดหน้าเหี่ยว” ที่จะเข้าฉายประมาณปลายเดือนมกราคม นำแสดงโดย จ๋า-ณัฐฐาวีรนุช ทองมี และซุปเปอร์สตาร์ตลกทั่วฟ้าเมืองไทยมากมาย อาทิ โก๊ะตี๋ อารามบอย, ค่อม ชวนชื่น ฯลฯ กำกับการแสดงโดยผู้กำกับฝีมือคุณภาพอย่าง “ยอร์ช-ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร” ตามมาด้วยเรื่อง “ ม.3 ปี 4 ” ซึ่งจะเข้าฉายประมาณเดือนมีนาคม 2552 , ภาพยนตร์เรื่อง “ สุขใจ ” ที่จะเข้าฉายประมาณเดือนมิถุนายน และครึ่งปีหลังกับภาพยนตร์อีก 2-3 เรื่องที่กำลังอยู่ระหว่างสรุปรายละเอียด เพื่อเตรียมมาสร้างสีสันให้กับวงการภาพยนตร์ไทยได้อย่างครบรสตลอดทั้งปีเลยทีเดียว ทั้งนี้ในระยะหลังอาวอง ได้ส่งผลงานคุณภาพออกมาหลายเรื่อง หลากหลายแนวไม่ว่าจะเป็น แนวคอมมิดี้อย่าง เช่น แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า และ เมล์นรกหมวยยกล้อ แนวสยองขวัญอย่าง ผีคนเป็น และหนังแนวรักโรแมนติกอย่างรักจัง ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามและเพลงประกอบที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยในปี 2551 ที่ผ่านมา บริษัทฯผลิตภาพยนตร์ออกมาถึง 4 เรื่อง คือ รักสยามเท่าฟ้า , ดรีมทีม , เทวดาตกมันส์ และ ซุปเปอร์แหบ แสบสะบัด ซึ่งผลงานดังกล่าวที่ออกมาถือว่าตลาดให้การตอบรับเป็นอย่างดี “ การปรับโครงสร้างธุรกิจภาพยนตร์ในครั้งนี้ถือเป็นส่วนที่จะเติมเต็มโมเดลธุรกิจของอาร์เอสให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นเพื่อมุ่งสู่การเป็นเครือข่ายความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบ หรือ The Entertainment Network ภายใต้นโยบายการบริหารสินทรัพย์ 360 องศารอบตัว และคาดว่าเมื่อจบปี 52 นี้ธุรกิจภาพยนตร์จะสามารถทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท คิดเป็น 8% ของรายได้รวมบริษัทฯ คิดเป็นอัตราเติบโต 57% เมื่อเทียบกับปีก่อน พร้อมรุก กลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจรในปีหน้า ทั้งเรื่องของแคมเปญการตลาด โปรโมชั่นต่างๆ รวมถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ในรูปแบบใหม่ๆของภาพยนตร์แต่ละเรื่อง ” นายสุรชัยกล่าวทิ้งท้าย สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวคมสันต์ เชษฐโชติศักดิ์
• ข่าวสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์
• ข่าวธุรกิจภาพยนตร์
• ข่าวจัดทัพธุรกิจ
• ข่าวสร้างธุรกิจ