เซ็นจูรี่ 21 รุกตลาดอสังหาฯไทย ชูจุดเด่นอินเตอร์แบรนด์พร้อมบริการครบวงจร ตั้งเป้า 2 ปี ขึ้นแท่น 1 ใน 3 ผู้นำตลาด

เซ็นจูรี่ 21 เปิดแนวรุกตลาดอสังหาฯไทย เน้นจุดเด่นมีสาขาที่มากถึง 8,800 แห่ง ใน 67 ประเทศทั่วโลก พร้อม ชูคอนเซ็ปต์ Total Real Estate Solutions ที่ให้บริการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การจัดหาที่ดินถึงการบริหารโครงการ ตั้งเป้า 2 ปีขึ้นแท่น 1 ใน 3 บริษัทชั้นนำของไทย ทั้งแบรนด์และมูลค่าโครงการ เผยปีนี้เตรียมเข้าบริหารโครงการมูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านบาท นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่ 21 เรียลตี้ แอฟฟิลิเอทส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนงานที่จะดำเนินธุรกิจการให้บริการทางด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจรในประเทศไทย ในรูปแบบคอนเซ็ปต์ Total Real Estate Solutions ภายใต้มาตรฐานและระบบของ เซ็นจูรี่ 21 อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งมีสาขากว่า 8,800 แห่ง ใน 67 ประเทศทั่วโลก ซึ่งการให้บริการประกอบด้วย 1) การเป็นตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ ( Property Agency ) 2)ที่ปรึกษาด้านการตลาด และการขาย ( Project Sales & Marketing Management ) 3)ที่ปรึกษาด้านการลงทุนและการจัดหาที่ดิน ( Investment & Land Services ) 4)ที่ปรึกษาด้านการลงทุนและพัฒนาโครงการ ( Developer & Investment Consultancy ) 5)การบริหารงานขายในตลาดต่างประเทศ ( International Agency ) 6)การบริหารโครงการ ( Property Management ) 7)ธุรกิจแฟรนไชส์การเป็นตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ( Business Affiliation Opportunity ) 8)การให้บริการด้านการประเมินราคาซึ่งได้รับการรับรองจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต ) และ 9)การศึกษาและวิจัยตลาด ( Valuation & Research ) รวมถึงการบริการจัดหาทรัพย์สินเพื่อลงทุนในต่างประเทศ อาทิ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง ออสเตรเลีย ฯลฯ จุดเด่นสำคัญของบริษัทฯ คือการให้บริการภายใต้มาตรฐานของ เซ็นจูรี่ 21 อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา และถือเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่ง โดยบริษัทฯ จะมีการนำระบบเทคโนโลยี และ โนว์ฮาว ดังกล่าวเข้ามาใช้กับการให้บริการในประเทศไทย รวมถึงการเชื่อมต่อ และแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลของ เซ็นจูรี่ 21 สาขาอื่น ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น ซึ่งมีสำนักงานกว่า 800 แห่ง ในฮ่องกงกว่า 300 แห่ง ในจีนกว่า 1,000 แห่ง รวมถึงในรัสเซีย และดูไบ ทำให้การให้บริการจะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมได้ทั้งในและต่างประเทศ “เรามีเป้าหมายที่จะขึ้นไปติดหนึ่งในสามของบริษัทที่ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยภายใน 2 ปี ทั้งในเรื่องแบรนด์ การให้บริการ และมูลค่าของโครงการที่เราเข้าไปบริหาร ซึ่งจากฐานลูกค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ประสบการณ์การทำงานของทีมงาน และการสนับสนุนจากทาง เซ็นจูรี่ 21 อินเตอร์เนชั่นแนล จะทำให้เราทำงานได้อย่างมืออาชีพ มีความคล่องตัว สามารถให้บริการได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ” นายกิติศักดิ์ กล่าว นายกิติศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ จะเริ่มรุกทำตลาดอย่างจริงจังในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2552 เป็นต้นไปด้วยจุดเด่นคือการให้บริการได้อย่างครบวงจร โดยมีแผนมุ่งเน้นทำตลาด resale ซึ่งคาดว่าจะเป็นตลาดใหญ่ในไตรมาสที่ 3-4 ของปี 2552 เนื่องจากโครงการที่สร้างใกล้เสร็จ และสร้างเสร็จแล้วมีจำนวนมาก โดยแต่ละโครงการจะมียอดขายคงค้าง ที่เหลืออยู่ 5-10% รวมถึงลูกค้าที่ซื้อไปแล้วและต้องการขายต่อทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งจะทำให้ตลาดมีสินค้าไม่ต่ำกว่า 20-30% ของจำนวนโครงการทั้งหมด ในขณะเดียวกันบริษัทฯมีแผนที่จะทำตลาดสำหรับนักลงทุนไทย เพื่อตอบรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงิน และต้องการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน โดยเตรียมทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างยิ่งใหญ่ในเดือนกรกฎาคม ในชื่อ Century 21 Smart Investment ปัจจุบันบริษัทฯมีโครงการที่เข้าไปบริหาร 4 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท และคาดว่าภายในปี 2552 จะมีโครงการที่เข้าไปบริหารคิดเป็นมูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท ขณะที่ในส่วนของการบริหารโครงการ (Property Management) มีอาคารสำนักงานและคอนโดมิเนียมที่เข้าไปบริหารแล้วจำนวน 10 โครงการ และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 30 โครงการภายในปี 2552 ในส่วนของ ธุรกิจแฟรนไชส์ การเป็นตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ (Business Affiliation Opportunity) ปัจจุบันมีผู้สนใจจำนวนมากทั้งชาวไทย และต่างชาติ รวมถึงผู้ที่ทำธุรกิจตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ โดยมีผู้เข้าร่วมธุรกิจเป็นแฟรนไชส์จำนวน 8 ราย และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 100 รายภายในปี 2555 เนื่องจากมีความมั่นใจในเรื่องของ แบรนด์ ระบบเทคโนโลยี รวมถึงโนว์ฮาวต่าง ๆ ซึ่งต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ที่ผ่านมา ขณะที่ธุรกิจการนำโครงการในประเทศไทยไปขายยังต่างประเทศ ( International Sales ) นั้น ปัจจุบันจากภาวะทางด้านเศรษฐกิจ และการเมืองในประเทศรวมถึงการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินให้กับชาวต่างชาติ ทำให้ต้องมีความระมัดระวังในการทำกิจกรรมค่อนข้างมาก ซึ่งบริษัทมีแผนงานที่จะจัดกิจกรรมใหญ่เพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงไตรมาสที่ 4 ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างวางแผนงานและศึกษาความเป็นไปได้ของตลาด สำหรับบริษัท เซ็นจูรี่ 21 ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1971 ที่เมืองออเรนจ์ เคาท์ตี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้น ได้มีการขยายการทำกิจการไปยังประเทศต่าง ๆ เริ่มต้นจาก แคนาดา ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และเอเชีย ซึ่งในปัจจุบันบริษัท เซ็นจูรี่ 21 ถือเป็นบริษัทที่มีสำนักงาน และเครือข่ายกระจายอยู่ทั่วโลกมากที่สุดกว่า 8,800 แห่ง ใน 67 ประเทศทั่วโลก โดยในประเทศไทยถือเป็นสาขาล่าสุดที่เข้ามาเปิดดำเนินการ มุ่งเน้นการให้บริการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีความครบวงจร และการตอบสนองกลุ่มเป้าหมายด้วยการบริการแบบมืออาชีพ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ บริษัท โอเอซิส มีเดีย จำกัด โทร.0-2937-4735 คุณศรัญญรัตน์ 081-423-4121 / คุณชัชวาล 081-626-3095 / คุณปิยะพร 081-561-1134 Email :, [email protected], [email protected], [email protected] สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์
• ข่าวการบริหารโครงการ
• ข่าวเซ็นจูรี่ 21
• ข่าวเซ็นจูรี่
• ข่าวประเทศไทย