กฟผ. เผยน้ำในเขื่อนมีพอใช้ เตือนต้องประหยัดเพราะฤดูแล้งอาจยาวนาน

กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--กฟผ.

กฟผ. เผยปริมาณน้ำในเขื่อน กฟผ. ปีนี้น้อยกว่าปีที่แล้ว แต่ภาพรวมยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ มั่นใจมีน้ำพอใช้เพื่อการชลประทานตลอดฤดูแล้ง วอนให้ประชาชนช่วยกันประหยัดน้ำ เพราะหากปีนี้ฝนตกน้อยหรือฤดูแล้งยาวนานจะส่งผลกระทบต่อปีหน้าได้ วันนี้ (20 มี.ค.) นายวิรัช กาญจนพิบูลย์ รองผู้ว่าการกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม ในฐานะโฆษก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำปี 2552 ว่า จากข้อมูล ณ วันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา พบว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำของ กฟผ. รวมทั้งสิ้นประมาณ 44,076 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 71 ของความจุอ่างทั้งหมด น้อยกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วประมาณร้อยละ 3.4 หรือ 2,125 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งหากมองในภาพรวมทั้งประเทศจะเห็นว่า ปริมาณน้ำในปีนี้น้อยกว่าปีที่แล้วเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และยังมีระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ อย่างไรก็ตามเขื่อนในภาคเหนือ (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล) มีน้ำรวมกัน 14,079 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 60.6 ของความจุอ่าง โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งมีระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ต่ำ โดยปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลอยู่ที่ร้อยละ 55.4 ของความจุ ส่วนเขื่อนสิริกิติ์อยู่ที่ ร้อยละ 67 ของความจุ โฆษก กฟผ. กล่าวต่อไปว่า ขณะที่ภูมิภาคอื่นๆ มีระดับอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยภาคกลาง-ตะวันตก (เขื่อน ศรีนครินทร์ เขื่อนท่าทุ่งนา เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนแก่งกระจาน และเขื่อนคิรีธาร) มีน้ำรวมกัน 21,521 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 79 ของความจุอ่าง โดยอ่างเก็บน้ำของทุกเขื่อนมีระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนสิรินธร เขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนน้ำพุง เขื่อนห้วยกุ่ม และเขื่อนปากมูล) มีน้ำรวมกันประมาณ 2,842 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 62 ของความจุอ่าง มีเพียงอ่างเก็บน้ำของเขื่อนสิรินธร ที่มีระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำ นอกนั้นอยู่ในเกณฑ์ปกติค่อนข้างสูง ส่วนภาคใต้ (เขื่อนรัชชประภา และเขื่อนบางลาง) มีน้ำรวมกัน 5,635 ล้าน ลบ.ม. หรือ ร้อยละ 79 ของความจุอ่าง โดยอ่างเก็บน้ำของทุกเขื่อนมีระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ นายวิรัช กล่าวด้วยว่า แม้ปีนี้จะปีปริมาณน้ำโดยรวมลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากปีที่แล้วมีการระบายน้ำมากตามความต้องการใช้น้ำเพื่อการเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ในปีนี้ความต้องการใช้น้ำเพื่อการเกษตรน่าจะไม่มากเท่าปีที่แล้ว สังเกตได้จากความต้องการใช้น้ำตามโครงการเจ้าพระยาใหญ่ของปีนี้อยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ปีที่ 2551 มีการระบายกว่า 10,000 ล้าน ลบ.ม. ดังนั้นคาดว่าในปี 2552 จะสามารถระบายน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของ ภาคเกษตรกรรมได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม กฟผ. ขอให้ประชาชนรวมถึงเกษตรกรใช้น้ำด้วยความประหยัด เพราะหากใช้น้ำมากเกินไป ในขณะที่ฤดูฝนล่าช้าออกไป หรือภาวะแห้งแล้งยาวนานกว่าปกติ จะส่งผลกระทบต่อการจัดสรรน้ำในปี 2553

ข่าวการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย+วิรัช กาญจนพิบูลย์วันนี้

ดูโฮม ร่วมกับ กฟผ. เปลี่ยนฤดูร้อน เป็นฤดูรัก(ษ์) มอบส่วนลดล้างแอร์กว่า 15,000 สิทธิ์ คืนอากาศที่บริสุทธิ์เพื่อคุณเพื่อโลก

บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ ดูโฮม ศูนย์ค้าปลีก-ค้าส่ง วัสดุก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่งบ้านแบบครบวงจร (One-stop Home Products Destination) จับมือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เดินหน้าส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ในโครงการ "เปลี่ยนฤดูร้อน เป็นฤดูรัก(ษ์)" Clean your air Care your life ณ ห้อง Press Conference อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ จ.นนทบุรี โดยมี นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นประธานภายในงาน และ นายปณต มูลมณี

ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีปริมาณสูงจนเกิ... สวทช. - กฟผ. จับมือใช้ "ระบบตรวจวัดและจำแนกแหล่งกำเนิด PM2.5" หาต้นตอฝุ่นจิ๋ว — ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีปริมาณสูงจนเกินค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะเขตภาคเหนือตอ...

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยทั... ผนึกกำลัง 'กรมอนามัย-ภาคีเครือข่าย' สร้างสุขภาพช่องปากที่ดีให้ผู้สูงอายุ 'บ้านบางแค' — กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสม...

RT ส่งมอบงานโครงการก่อสร้างบ่อเก็บน้ำดิบ ... RT ส่งมอบงานก่อสร้างบ่อเก็บน้ำดิบ โรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กฟผ. มูลค่า 261.92 ลบ. — RT ส่งมอบงานโครงการก่อสร้างบ่อเก็บน้ำดิบ โรงไฟฟ้าบางปะกง อำเภอบางป...