ไทยพาณิชย์แต่งตั้ง นางสาวสุภา ปิยะจิตติ เป็นกรรมการธนาคาร

กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารทีมีมูลค่าตลาดรวม (Market Capitalization) อันดับหนึ่งของกลุ่มสถาบันการเงิน แต่งตั้งกรรมการธนาคารใหม่ จากมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 186 ของธนาคาร ได้แต่งตั้ง นางสาวสุภา ปิยะจิตติ ดำรงตำแหน่งกรมการธนาคาร มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยเป็นการแต่งตั้งแทนนางพันธ์ทิพย์ สุรทิณฑ์ ที่ครบวาระการเป็นกรรมการในครั้งนี้ และได้ลาออกจากตำแหน่งไป ตั้งแต่ 20 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา นางสาวสุภา ปิยะจิตติ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงการคลัง และมีประสบการณ์การทำงานในกระทรวงการคลังมาตลอดกว่า 20 ปี โดยดำรงตำแหน่งสำคัญในกระทรวงการคลังมาหลายตำแหน่ง ได้แก่ ผู้อำนวยการสำนักรัฐวิสาหกิจและหลักทรัพย์ของรัฐ และรองอธิบดี กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง นอกจากนี้ ปัจจุบันนางสุภา ปิยะจิตติ ยังดำรงตำแหน่งสำคัญของสถาบันต่างๆ ได้แก่ รองประธาน กรรมการจัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน กรรมการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กรรมการ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาต จำกัด และกรรมการ คณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) นางสาวสุภา ปิยะจิตติ มีความรู้ความชำนาญด้านการเงินการคลัง การบัญชี รวมทั้งด้านกฎหมายเป็นอย่างดี โดยจบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต จาก สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และระดับปริญญาตรีด้านบัญชีบัณฑิต และนิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งประสบการณ์ดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของธนาคารไทยพาณิชย์เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ที่ประชุมสามัญผูถือหุ้น ครั้งที่ 186 ของธนาคารยังได้มีมติแต่งตั้งกรรมการท่านอื่นๆ อีก 4 ท่านที่ออกตามวาระในปี 2552 ได้แก่ ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย นายบดินทร? อัศวาณิชย? นายมาริษ สมารัมภ? และนายธีรพจน? วัชราภัย กลับเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการอีกครั้งหนึ่งด้วย ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศที่ให้บริการทางการเงินแบบครบวงจร ก่อตั้งขึ้นโดยพระบรมราชานุญาตในปี พ.ศ. 2449 โดยเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2551 ธนาคารมีมูลค่าตลาดรวม (Market Capitalization) สูงเป็นอันดับที่ 1 ในกลุ่มสถาบันการเงิน (164 พันล้านบาท) มีเครือข่ายสาขาและจุดให้บริการมากที่สุดในประเทศไทย (สาขารวมทั้งสิ้น 949 สาขา ศูนย์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 137 แห่ง เครื่องเอทีเอ็ม 6,030 เครื่อง) เพื่อให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง/ขนาดย่อม และลูกค้าบุคคล สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.scb.co.th ติดต่อสื่อสารองค์กร ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) โทร : 02-544-4502, 02-544-4517 Email : [email protected] สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด+ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันนี้

ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ให้สอดคล้องกับทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย มีผลวันที่ 3 มีนาคม 2568

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2.25% มาอยู่ที่ 2.00% ต่อปี เพื่อให้ภาวะการเงินลดความตึงตัว สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ กนง. ประเมินไว้และสามารถรองรับความไม่แน่นอนข้างหน้าได้อย่างเหมาะสม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด

"PAPPLE Series Hua Hin 24" กอล์ฟการกุศลคร... "PAPPLE Series Hua Hin 24" กอล์ฟการกุศลครั้งยิ่งใหญ่ — "PAPPLE Series Hua Hin 24" กอล์ฟการกุศลครั้งยิ่งใหญ่ รวมสุดยอดโปร LPGA และโปรกอล์ฟชั้นนำของไทยกว่า ...

รองศาสตราจารย์ ญาณเดช ทองสิมา (กลาง) ประธ... 'บมจ.โรงพยาบาลนครธน' แต่งตั้ง Underwriters เตรียมเสนอขายหุ้น IPO — รองศาสตราจารย์ ญาณเดช ทองสิมา (กลาง) ประธานกรรมการบริษัท บริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (ม...

เป็นหนึ่งในหุ้น IPO ที่จะได้รับปัจจัยบวกจ... 'บมจ.โรงพยาบาลนครธน' จัดโรดโชว์นักลงทุนรายย่อย ผ่านระบบออนไลน์ 29 พ.ย.นี้ — เป็นหนึ่งในหุ้น IPO ที่จะได้รับปัจจัยบวกจากเทรนด์การใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพเละแนว...

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้... ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผลวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 — ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี ...

ธนาคารไทยพาณิชย์สำรองธนบัตรช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สำรองธนบัตรช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 เพื่อรองรับการใช้บริการของลูกค้า เป็นจำนวนเงิน 37,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 5% เนื่องจากการบริโภคของประชาชนที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องและนโยบายของภาครัฐทั้งในเรื่องการอัดฉีดเม็ด...