สร้างคนเก่ง...พัฒนาคนดี สู่ระบบราชการยุคใหม่ “โครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ รุ่นที่ 3”

กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์

ด้วยกระแสโลกาภิวัตน์และการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีทำให้เกิดยุทธศาสตร์การบริหารประเทศแนวใหม่และทำให้ต้องมีการพัฒนาระบบราชการไทยสู่การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ โดยแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย (พ.ศ. 2546 – พ.ศ. 2550) ได้กำหนดให้มีการเร่งสรรหาบุคลากรผู้มีความสามารถสูง (Talents) หรือระดับหัวกะทิเข้าสู่ระบบราชการไทยโดยมุ่งเน้นให้เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงของการพัฒนาระบบราชการทั้งในระดับผู้บริหารระดับต้น และผู้บริหารระดับอาวุโส โดยอาจคัดเลือกจากข้าราชการที่มีอยู่ในปัจจุบันและบุคคลภายนอกทั่วไปที่มีขีดความสามารถและศักยภาพสูง ให้เข้ารับการอบรมในหลักสูตรพิเศษ สู่ระบบราชการยุคใหม่ ในการให้ประชาชนแก้ปัญหา และมีความพร้อมในการเข้าใจปัญหาประชาชนและประเทศชาติ เพื่อพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศชาติต่อไป เนื่องเพราะในปัจจุบันหลักสูตรการเรียนการสอนของสถาบันอุดมศึกษาไม่ได้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อทำการฝึกหัดข้าราชการฝ่ายพลเรือนเป็นการเฉพาะ และบรรดาผู้สำเร็จการศึกษาเองต่างก็ไม่นิยมในการสมัครเข้ารับราชการเช่นในอดีต ประกอบกับปัญหาระบบราชการไทยที่ไม่ได้มีการจัดเตรียมและพัฒนาข้าราชการอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการสอนงานเพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์รวมถึงการฝึกปฏิบัติในสถานการณ์จริง ทำให้เกิดความจำเป็นที่จะต้องมี โครงการพัฒนาผู้นำการบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ ขึ้น ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2551 ให้สำนักงาน ก.พ.ร. เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ และทางสำนักงาน ก.พ.ร. ได้มอบหมายให้ สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี Institute for Good Governance Promotion (IGP) ซึ่งเป็นหน่วยงานบริการรูปแบบพิเศษ (Service Delivery Unit : SDU) เป็นผู้ดำเนินการโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ รศ.ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวว่า โครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่นี้เกิดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ที่มีขีดสมรรถะสูง สามารถเป็นได้ทั้ง นักคิดที่มีวิสัยทัศน์ (Visionary Thinker ) นักพัฒนาและนักวางแผนที่มีความเชี่ยวชาญ ( Developer and Planer ) และนักปฏิบัติที่สามารถแปลงยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ( Operation Manager ) โดยได้โครงการนำร่องในรุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 แล้ว และจะทำการประเมินผลโครงการเพื่อปรับปรุงและปรับปรุงในรุ่นต่อๆ ไป ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 3 แล้ว อยู่ระหว่างการเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ “ เป็นการสร้างคนเก่ง พัฒนาคนดี ป้อนเข้าสู่ระบบราชการยุคใหม่ โดยทำการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรผู้มีความสามารถสูง เป็นคนเก่ง คนดี มีความรักในการเป็นข้าราชการ มีความมุ่งมั่น มีความขยันขันแข็งและมีอุดมการณ์ ในการที่จะช่วยบ้านเมืองของเราให้ดีขึ้น” ศ.ดร.ชาติชาย ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการ สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ผู้ดูแลทางด้านหลักสูตรการเรียนการสอน กล่าวว่า “ โครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ มีแนวทางในการจัดการเรียนการสอนที่เข้มข้นโดยพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนมาจากโรงเรียนพัฒนาข้าราชการในต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น รวมทั้งยังมีการอภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น ในประเด็นสำคัญๆ เกี่ยวกับการบริหารประเทศ และหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อย่างทั่วถึงและเต็มที่ คณะรัฐมนตรีจึงได้กำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการฯ รุ่นละ 60 คน ใช้เวลาในการเข้าร่วมโครงการ 22 เดือน โดยรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ 3 โครงการฯ เปิดกว้างให้ทั้งบุคคลทั่วไป ตลอดจนข้าราชการ สามารถสมัครสอบคัดเลือกได้ ซึ่งผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการจะได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการสังกัดสำนักงาน ก.พ.ร. เป็นนักบริหารรุ่นใหม่ในระบบราชการยุคใหม่ ....ในการสมัครสามารถมาสมัครได้ด้วยตนเองที่สถาบันฯ หรือทางเว็บไซต์แล้วส่งเอกสารทางไปรษณีย์มาได้ โดยในโครงการนี้จะเสียเพียงค่าสมัครสอบ 1,900 บาท สำหรับเป็นค่าสอบวิชาอังกฤษ ไทย และความถนัดเชาว์ปัญญา หลังจากผ่านตรงนี้แล้ว จะต้องสอบข้อเขียนเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหานโยบายต่างๆ และปัญหาบ้านเมือง เพื่อทดสอบความมั่นคงทางอารมณ์ และขั้นต่อไปสัมภาษณ์โดยผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งทางสถาบันจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะเป็นหน่วยงานที่ดำเนินการสอบ ...หลังจากที่ผ่านเข้าร่วมโครงการแล้ว จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยรัฐบาลจะเป็นออกทุนให้ทั้งหมดตลอดโครงการ ต่อหัวประมาณ 1,500,000 บาท ในการดำเนินการอบรมต่างๆ ทั้งการศึกษาดูงานในประเทศและต่างเทศ ...สิ่งที่คาดว่าผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับ เพื่อการพัฒนาความรู้ความสามารถในการที่จะช่วยผู้บริหารในระดับสูงขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การดำเนินการต่างๆ ทั้งยังวิเคราะห์ความเสี่ยงวิเคราะห์นโยบายต่างๆ ไปด้วยดี และนอกจากนี้ สิ่งที่นำเสนอความคิดเห็นต่างๆ จะทำอย่างไรให้ผู้อื่นเห็นและคล้อยตามที่จะดำเนินการต่างๆ นั้นได้ ตรงนี้มีความสำคัญมาก ซึ่งทางสถาบันเองก็ให้การอบรมเรียนรู้ด้วย ...และอยากเชิญชวนคนรุ่นใหม่ ที่ชอบความท้าทาย เห็นประโยชน์ต่อส่วนร่วมและอยากมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ขอเชิญเข้าร่วมโครงการดังกล่าวได้” ไปรยา จูวัฒนสำราญ นปร.รุ่น 2 สาวผู้มีความมุ่งมั่นสู่ระบบราชการไทยยุคใหม่ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองให้ดีขึ้น จึงเข้ามาสมัครร่วมโครงการ เธอเล่าด้วยความภูมิใจว่า หลังจากจบปริญญาตรีด้านบัญชีที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เข้าทำงานในบริษัทเอกชนได้เพียงปีเดียว จึงลาออกมาศึกษาต่อปริญญาโทที่สถาบันนิด้า สาขาเทคโนโลยีการบริหาร “ พอทราบข่าวโครงการนี้เปิดรับสมัคร น่าสนใจดีมีประโยชน์ และพอผ่านได้เข้าร่วมโครงการแล้ว รู้สึกดีใจมาก คุ้มค่ามากๆ ในการเรียนรู้ ได้ทั้งประสบการณ์ และได้เพื่อนที่ดี ได้ฝึกงานกับผู้บริหารระดับสูง ทั้งท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดกระทรวง และต่างประเทศ ที่สวิส ที่นี่ได้รับมอบหมายงานในเรื่องการดูแลคนไทยที่ประสบทุกข์หรือเหตุการณ์ต่างๆ เราต้องเข้าไปช่วยเหลือดูแลและประสานงานต่างๆ ให้ได้รับความสะดวกสบายที่ดีขึ้น ทั้งยังได้ดูแลเกี่ยวกับทางด้านการทำพาสปอร์ตของคนไทย และชาวสวิสที่จะเดินทางมาประเทศไทย นับว่าเป็นการเรียนรู้ที่คุ้มค่ามาก ...ทำให้เราได้รับรู้ว่าจริงๆ แล้วระบบราชการมีอะไรที่ดีกว่าเราเคยคิดไว้มาก เช่น เมื่อก่อนคิดว่าทำไมข้าราชการทำงานช้า เช้าชามเย็นชาม พอได้มาประสบตรงนี้ บางทีเอกชนก็ทำงานช้าก็มี เพราะข้าราชการบางคนจะมีพวกที่พัฒนาสิ่งต่างๆ หลายอย่าง ทั้งทุ่มเทให้กับการทำงานมา เตรียมงานเตรียมความพร้อมทำงานกันตี 1 ตี 2 ก็มีเยอะ ...ส่วนเรื่องคอร์รัปชั่น อาจจะยังคงมีอยู่บ้าง แต่พวกเรานปร.เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ในสังคมที่ได้รับการอบรมเรียนรู้ว่า ว่าเป็นสิ่งไม่ดี ฉะนั้นเราจะต้องเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องเปลี่ยนแปลงและไม่ทำ ต้องเป็นข้าราชการน้ำดีค่ะ” เอกพงษ์ ศิริพันธ์ นปร. รุ่น 2 สอบได้เป็นที่ 1 ของรุ่น เอกพงษ์คือตัวแทนคนรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างแท้จริง ด้วยระบบความคิด ด้วยอุดมการณ์ ที่มุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะเข้าสู่ระบบราชการตั้งแต่สมัยร่ำเรียนรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาธรรมศาสตร์ ระดับปริญญาโท หลังจากจบการศึกษา เขาสมัครรับราชการทันทีในตำแหน่งเจ้าหน้าที่นโยบายวิเคราะห์และแผน 4 สำนักงานปลัดระทรวง สำนักนายรัฐมนตรี ทำได้ประมาณปีครึ่ง เมื่อทราบว่าโครงการนี้รับสมัคร เอกพงษ์จึงไม่รอช้า “ตรงกับสิ่งที่คิดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศ เมื่อได้เข้ามาในโครงการนี้ได้เรียนรู้การบริหารยุทธศาสตร์และนโยบายต่างๆ และที่สำคัญได้เรียนรู้ภาวะผู้นำผู้บริหาร ซึ่งไปหาเรียนในห้องเรียนไม่มีทำให้เรารู้วิธีคิดของผู้บริหาร ทั้งการตัดสินใจในการบริหารและการปฏิบัติงาน นับว่าเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก ...การได้ที่ 1 ในรุ่น ไม่ใช่ว่าผมจะเก่งและดีกว่าคนอื่น ทุกคนที่เข้าร่วมล้วนแต่มีศักยภาพมีความสามารถมีภาวะในการเป็นผู้นำทั้งนั้น แต่สิ่งหนึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดี นั่นก็คือ ได้เจอเพื่อนคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่มีอุดมการณ์มีแนวคิดแบบเดียวกันตรงนี้สำคัญกว่า ...หลังจากจบหลักสูตรในโครงการนี้ อยากจะเข้าทำงานในสำนักงานปลัด กระทรวงมหาดไทย เพราะในจุดนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนนโยบายสู่ภาคชนบทได้ ซึ่งสิ่งที่ได้เรียนรู้ได้อบรมมาน่าจะผลักดันให้เกิดในสิ่งที่เราวางไว้ได้และผมคิดว่าในระบบราชการเดี๋ยวนี้ไม่เหมือนในอดีตแล้ว เริ่มที่มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไป คิดว่าในอนาคตกำลังจะไปสู่ในทิศทางที่ดีขึ้น การพัฒนาบ้านเมืองไม่ใช่แค่ภาครัฐเท่านั้น ภาคประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมในการที่จะเข้ามามีบทบาทกำหนดยุทธศาสตร์ต่างๆ สู่ภาคีภาคได้ นั่นจะเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ผมคิดว่าในอนาคตจะนำไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้นนั้นได้อย่างแน่นอน” ต่างมุมมองต่างความคิด แต่มีจุดร่วมเดียวกันในการที่จะพัฒนาบริหารการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองสู่ศักยภาพมาตรฐานระดับสากล ในการที่จะสร้างพัฒนาทรัพยากรบุคคลของประเทศให้เป็นคนเก่งและคนดีสู่สังคมไทย และเพื่อให้ได้นักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ เป็นนักบริหารระดับสูงภาคราชการในอนาคต จึงได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่เข้าร่วมโครงการฯ ดังนี้ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไปในสาขาวิชาใดๆ จากสถาบันการศึกษาในประเทศหรือต่างประเทศที่ได้รับการรับรอง และอายุสำหรับระดับปริญญาโท อายุไม่เกิน 30 ปีบริบูรณ์ในวันปิดรับสมัคร หรือระดับปริญญาเอก อายุไม่เกิน 35 ปีบริบูรณ์ในวันปิดรับสมัคร หากคุณมีความมุ่งมั่นและมั่นใจที่จะพัฒนาประเทศไทยสู่เวทีระดับโลก เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง ขอเชิญสมัครเข้าร่วมโครงการนักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ รุ่นที่ 3 สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2551 โทร. 02-252-6286- 8 หรือเว็บไซต์ www.igpthai.org หรือ www.psedco.com แถลงข่าวในนาม : สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี รายละเอียดเพิ่มเติม : ลัดดาวัลย์ กรีนวู้ด ([email protected]) ไพสิฐ เครือแก้ว ณ ลำพูน([email protected]) บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด โทร. 0 2205 6614, 0 2205 6610 สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวการบริหารจัดการ+ระบบราชการไทยวันนี้

บลจ.กสิกรไทย คว้า 5 รางวัลยอดเยี่ยม Best of the Best Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกองทุนของไทย

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติถึง 5 รางวัล จากงาน Best of the Best Awards 2025 ได้แก่ รางวัล Best Asset Management Company (30 Years), Best Asset Management Firm for Digital Marketing, Best Alternatives Manager, Best ESG Manager และ Best Multi-Asset Manager ทั้งนี้ รางวัลที่ บลจ.กสิกรไทย ได้รับทั้ง 5 สาขา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ บลจ.กสิกรไทย ในการพัฒนาและนำเสนอบริการด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ครอบคลุมและมีคุณภาพ รวมถึงการปรับตัว

ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิ 5,096 ล้านบ... ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิ 5,096 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2568 — ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิ 5,096 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2568 หนุนโดยการบริหารจัดการด้าน...

ใบแจ้งหนี้เป็นเอกสารสำคัญในการดำเนินธุรกิ... 5 ข้อควรระวัง! ตรวจดูให้แน่ใจว่า ใบแจ้งหนี้ควรต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง — ใบแจ้งหนี้เป็นเอกสารสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่ช่วยให้การบริหารจัดการทางการเงินเป็นไปอย...

ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นหนึ่งในความท้าทาย... เทคโนโลยีเอไอ VS ภัยพิบัติ เอไอเข้ามามีบทบาทได้มากน้อยแค่ไหนในปัจจุบัน — ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ตั้งแต่ไฟป่า แผ่...

POP MART THAILAND ภายใต้การบริหารจัดการโด... POP MART THAILAND เดินหน้าบุก CENTRAL WESTGATE ปักหมุดเปิดสาขาแรกกรุงเทพฯ โซนตะวันตก — POP MART THAILAND ภายใต้การบริหารจัดการโดย POP MART INTERNATIONAL ผ...